เรื่องเล่าเช้าวันพระ: เหนือโลกธรรม
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
พระไพศาล วิสาโล เขียนเล่าเรื่อง
...............................
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าองค์สุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์
คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
พระนามเดิมคือ ม.ร.ว. ชื่น นพวงศ์ ประสูติในต้นสมัยรัชกาลที่ ๕
และบรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี
หลังจากนั้นก็ทรงครองเพศบรรพชิตสืบมา
จนได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
เมื่อทรงมีพระชนมายุ ๗๓ พรรษา
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกผนวชในปี ๒๔๙๙
พระองค์ได้ทรงเป็นพระราชอุปัธยาจารย์ (อุปัชฌาย์)
ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์สองปีถัดมา
แม้ว่าพระองค์ทรงมีชาติตระกูลอันสูง
อีกทั้งทรงดำรงตำแหน่งประมุขสงฆ์
แต่พระองค์ทรงมีชีวิตอย่างเรียบง่าย สมถะ มีเมตตา
และเป็นกันเองอย่างยิ่ง ไม่เฉพาะกับผู้คน
แต่ยังรวมถึงสรรพสัตว์ด้วย เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อได้เวลาฉัน
พระองค์จะเสด็จไปประทับที่ห้องเล็ก นั่งกับพื้น หันหลังพิงฝา
ระหว่างที่ฉันก็จะหยิบข้าวสุกทีละเมล็ดจิ้มกับข้าว
แล้วเอาติดไว้ที่ฝาเบื้องหลัง แล้วเอานิ้วเคาะที่ฝาเบา ๆ ครั้งสองครั้ง
จิ้งจกก็จะวิ่งออกมากิน บางตัวก็รู้เวลา ออกมาคอย
และกินอาหารจากพระหัตถ์ของพระองค์เลยทีเดียว
ว่ากันว่าพระองค์ทรงรู้จักจิ้งจกทุกตัวในกุฏิ
พระองค์ยังทรงเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นกันเอง
ไม่ถือพระองค์ อีกทั้งไม่มีพิธีรีตอง
คราวหนึ่งพระองค์เสด็จไปงานบุญที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี
ชาวบ้านที่มาทำบุญไม่รู้จักพระองค์ ก็เรียกพระองค์ว่าหลวงตา
พระองค์ก็ตอบรับ สนทนากับชาวบ้านทั้งวันอย่างสนุกและสบายใจ
บางครั้งพระองค์หายไปจากวัดบวรนิเวศ เป็นเวลานาน
พระผู้ใหญ่ในวัดตามหากันจนวุ่น ถามใครก็ไม่มีใครรู้
ว่าเสด็จออกจากวัดตอนไหน
เพราะไม่มีรถหลวงประจำตำแหน่งสังฆราชมารับ
ครั้นราว ๆ เที่ยงเศษ ผู้คนก็โล่งใจ
เมื่อเห็นพระองค์เดินถือตาลปัตรกลับมาเอง
เพราะทรงรับนิมนต์ชาวบ้านไปสวดมนต์
และฉันเพลตามห้องแถวเล็ก ๆ บริเวณเสาชิงช้าหรือบางลำพู
เรื่องแบบนี้เลขานุการประจำพระองค์มักไม่รู้
เพราะใครที่ประสงค์จะมานิมนต์พระองค์
สามารถเข้าถึงพระองค์ได้โดยตรงและง่ายดาย
ส่วนพระองค์ก็มักจดวันเวลาไว้ตามเศษกระดาษบ้าง ห่อใบชาบ้าง
สุดแท้แต่ว่ามีอะไรอยู่ใกล้มือ
มีเรื่องเล่าว่า วันที่มีประกาศสถาปนา
พระองค์เป็นสมเด็จพระสังฆราชในพระบรมมหาราชวัง
ศิษย์วัดกลุ่มหนึ่งที่ตามพระราชาคณะของตนเข้าไปในวัง
ได้จับกลุ่มนั่งคุยกันอยู่ข้างนอก เด็กคนหนึ่งถามขึ้นมาว่า
สังฆราชองค์ใหม่ชื่ออะไรโว้ย? เด็กในกลุ่มไม่ทันจะตอบ
ก็มีเสียงห้าว ๆ ดังมาจากข้างหลังว่า ชื่อชื่นโว้ย
เมื่อเด็กหันหลังไปยังต้นเสียง ก็พบว่าผู้ตอบคือพระองค์นั่นเอง
ตอนนั้นพระราชพิธีเพิ่งเสร็จ พระองค์จึงเสด็จออกมา
ตามลูกศิษย์กลับวัด บังเอิญได้ยินคำถามของเด็ก
พระองค์จึงตอบให้ เพราะนามเดิมของพระองค์
คือ ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์
แม้ทรงมีชาติตระกูลและสมณศักดิ์อันสูงยิ่ง
แต่สิ่งเหล่านี้แทบไม่มีความหมายกับพระองค์เลย
จะว่าพระองค์ไม่ไยดีเลยก็ว่าได้ เพราะทรงตระหนักว่า
มันเป็นแค่สมมติที่มิควรลุ่มหลง อีกทั้งเป็นโลกธรรมที่ไม่ยั่งยืน
สำหรับพระองค์ การครองตนอย่างสมถะตามวิถีของสมณะ
มุ่งลดละกิเลสตามคำสอนของพระพุทธองค์
เป็นสิ่งประเสริฐและสำคัญเหนืออื่นใด
ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโตธรรมชาติที่พักใจ
ขอบคุณเจ้าของภาพทุกภาพค่ะ
พระองค์....