เรียนรู้จากการจากพราก
ทารกในครรภ์เมื่อเติบโตเต็มที่
แม้รู้สึกอบอุ่นมั่นคงเพียงใดในนั้น
วันหนึ่งก็จำต้องแยกจากร่างกายของแม่
เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่ทารกจะเติบโตต่อไป
และพัฒนาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
เด็กเล็กแม้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัย
ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของพ่อแม่
แต่วันหนึ่งก็ต้องจำต้องผละจากอ้อมกอดของท่าน
เพื่อเข้าโรงเรียน เพราะนั่นคือความจำเป็น
สำหรับการอยู่รอดในวันข้างหน้า
วัยรุ่นเมื่อมีวิชาความรู้ถึงจุดหนึ่ง ก็จำต้องจากบ้านและท้องถิ่น
รวมทั้งมิตรสหายในวัยเด็ก เพื่อไปศึกษาต่อในแดนไกล
แม้วันหนึ่งจะได้กลับมายังบ้านเกิดอีก
แต่ก็พบว่าอดีตที่คุ้นเคยในวัยเด็กได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ทำได้อย่างมากก็แค่หวนนึกถึงวันวานอันหวานชื่น
การเติบโตกับการจากพราก คือสิ่งที่มิอาจแยกจากกันได้
ไม่มีการเติบโตใด ๆ ที่ไร้การจากพราก
แม้ว่าการจากพรากจะก่อให้เกิดความเจ็บปวด
แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเติบโต
ทารกทุกคนย่อมตื่นตกใจเมื่อต้องแยกจากร่างกายของแม่
เขาย่อมต่อสู้ขัดขืนและร่ำไห้ แต่ในที่สุดก็จะรู้ว่า
อนาคตที่ดีกว่ารออยู่ข้างหน้า
ในทางตรงข้ามหากยังขืนอยู่ในครรภ์แม่ต่อไป
ก็จะเกิดผลร้ายถึงชีวิตทั้งของเขาและของแม่
จะเติบโตได้ต้องมีการจากพราก ไม่ใช่เราเป็นฝ่ายจากเท่านั้น
บ่อยครั้งเป็นคนอื่นที่จากเราไป
มิหนำซ้ำยังเป็นการจากไปชั่วนิจนิรันดร์
เมื่อมีอายุมากขึ้น ทุกคนก็พบว่าคนรักและคนใกล้
ชิดค่อย ๆ ทยอยจากไปทีละคนสองคน
การจากพรากแต่ละครั้งนำมาซึ่งความเศร้าโศกและเจ็บปวด
แต่ในเวลาเดียวกันมันก็เปิดใจให้เราเห็นความเป็นจริงของชีวิต
แจ่มชัดขึ้น ทำให้เกิดปัญญาและวุฒิภาวะทางอารมณ์
ซึ่งช่วยให้จิตใจเข้มแข็งมั่นคง ไม่หวั่นไหวง่าย ๆ
ต่อความผันผวนปรวนแปรของชีวิตและโลก
ยิ่งพบกับการจากพราก ก็ยิ่งตระหนักว่า
เรามิอาจฝากความหวังหรือความสุขไว้กับใครหรือสิ่งใดได้เลย
เพราะอะไร ๆ ก็ไม่เที่ยง จะยึดติดถือมั่นกับอะไรก็ทำไม่ได้
ขืนพยายามทำเช่นนั้นก็จะพบกับความผิดหวัง
และเศร้าโศกเสียใจอยู่ร่ำไป
ในเมื่อสุขจากภายนอกไม่เที่ยง
ก็มีแต่สุขจากภายในเท่านั้น ที่เราจะหวังพึ่งพาได้
ถึงตรงนี้ก็จะพบว่าจะสุขหรือทุกข์ มิได้ขึ้นอยู่กับว่า
มีอะไรเกิดขึ้นกับเรา แต่อยู่ที่เราจะรู้สึกอย่างไร
วางใจอย่างไรต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่างหาก
นั่นหมายความว่า จะพลัดพรากหรือสูญเสียแค่ไหน
ใจเราก็ยังสามารถเป็นสุขอยู่ได้
ไม่จำต้องคร่ำครวญเศร้าโศกเสียใจ
แต่ใช่หรือไม่ว่า จิตใจเราจะมั่นคงเป็นปกติอย่างนั้นได้
ก็เพราะเจอการจากพรากครั้งแล้วครั้งเล่า
จนเห็นสัจธรรมแจ่มแจ้ง นี้ใช่ไหมคือการเติบโตทางปัญญา
ที่เราควรไปให้ถึง
จะเติบโตได้ต้องมีการจากพราก
และเมื่อเติบโตอย่างถึงที่สุด ก็จะไม่หวั่นไหว
ต่อการจากพรากใด ๆ อีกต่อไป
ไม่เว้นแม้แต่การจากโลกนี้ไปตลอดกาล
ความตายจะไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอีกต่อไป
เมื่อประจักษ์ชัดว่ามันเป็นธรรมดาของชีวิต
จะเรียกว่านี้เป็นการเอาชนะความตาย
และการจากพรากทั้งมวลก็ได้
เพราะมันไม่อาจทำให้เราเป็นทุกข์ได้อีกต่อไป
การจากพรากมีขึ้นเพื่อให้เราเติบโต
บ่อยครั้งมันจำต้องเคี่ยวเข็นบีบคั้นเราเพื่อให้เราฉลาดขึ้น
เข้มแข็งขึ้น และเมื่อเราเติบโตอย่างถึงที่สุด มันก็หมดหน้าที่
ไม่บีบคั้นจิตใจเราอีกต่อไป
หากกลายมาเป็นแค่ปรากฏการณ์ธรรมดา
ไม่ต่างจากกลางวันและกลางคืน
ถึงตอนนั้นเราคงอดไม่ได้ที่จะขอบคุณการจากพราก
.......................
พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณที่มา fb. พระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ