"เล่าเรื่องหลวงปู่ชอบ"
.
" .. พูดถึงเรื่องท่านอาจารย์ชอบก็เป็นคติได้เป็นอย่างดีใช่ไหม
เวลาจนตรอก ก็อย่างที่เคยพูดพวกเดียวกันภาวนาด้วยกัน
อยู่ทางแถวสกลฯ แต่ก่อนท่านขี้ขลาด
ไม่มีใครเกินท่านว่าอย่างนั้นนะ กลัวมาก
ครั้นเวลาถูกดัดแล้วนี้ จิตมันลงเต็มที่
ได้ความอัศจรรย์กับเวลาจนตรอก
.
เพราะฉะนั้นเวลาทำภาวนานี่ ท่านจะไม่ค่อยเดินจงกรม
ตามสถานที่ต่าง ๆ คือจิตมันดื้อ ท่านว่าอย่างนั้น
ท่านจะไปหาที่ไหนที่มีเสือ ไปเจอเสือปั๊บจิตมันจะลงทันที
ท่านว่าอย่างนั้น เรียกว่าท่านเรียนลัด
กลางคืนท่านไปหาเรียนลัดข้างบนภูเขา
.
ตรงไหนที่สำคัญว่าเสือจะมา ท่านจะไปนั่งที่นั่นแหละ
คือจิตของท่านจะลง ถ้าลงแล้วนี้เรียกว่าทำอะไรไม่ได้
อย่างที่ท่านอาจารย์ชอบว่า เสือทำอันตรายไม่ได้ไม่ต้องกลัว
พอว่าอย่างนั้นพึบเป็นครั้งที่สอง หายเงียบ ลบหมดเลย
อันนี้ของท่านก็ลงแบบนั้น ลงแบบลบหมดเลย จนโผล่ขึ้นมา
.
อันนี้ที่ท่านเล่าให้ฟังชัดเจนก็คือว่า
วันนั้นนั่งอยู่ประมาณสักตีสาม จิตมันก็ไม่ลง
มันหากเป็นของมันมันไม่ลง เอ๊ มันเป็นยังไงนา
เสือไม่เห็นมานา ท่านว่าอย่างนี้นะ
ทางถ้ำเสืออยู่ข้างบน มันลงมานี้ไปทางโน้นบ้าง
ลงมาทางนี้บ้าง แคร่ท่านอยู่ที่นี่ เสือไปได้สองทาง
ทางนี้ก็ไปได้ลงไปทางโน้น ทางนี้ก็ไปได้ลงทางนี้ขึ้นทางนี้ได้
.
ถ้ำของเขาอยู่ข้างบน เขาไปหากินมาตอนตีสามตีสี่
เขากลับมานอน ทีนี้เวลาตีสี่ท่านนั่งภาวนา
ฟัดกันอยู่กับความวุ่นวายมันไม่ลง เอ๊ ทำไมเสือไม่เห็นมา
มาช่วยสักหน่อย ทีนี้ไม่นานนะ
สักเดี๋ยวได้ยินเสียงสวบ ๆ ออกมา เอ้า มาแล้วที่นี่คงเสือ
.
พอเสือมาแล้วท่านกำหนดเอาเสือนั้นโดดมางับคอท่าน
ท่านกำหนดเอานะ กำหนดเสือ พอเสืองับคอปั๊บ
ที่นี่ก็ผึงลงเลย หายเงียบเลย จนกระทั่ง ๑๐ โมงเช้า
ฟังซิ รวมตั้งแต่ตีสี่ถึง ๑๐ โมงเช้านานขนาดไหน
นั่นละเวลาลงสนิทอย่างนั้น .. "
.
.................
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
ขอบคุณที่มา fb.วัดป่า
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ