ความเมตตาของหลวงพ่อคำเขียน
หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ
มาจำพรรษาแรกที่วัดป่าสุคะโตเมื่อปี ๒๕๑๙
ความตั้งใจของท่านแต่เดิมคือ
เพื่อปักหลักที่ใดที่หนึ่งเพื่อสอนกรรมฐานอย่างต่อเนื่อง
แต่มาอยู่ได้ไม่นาน ชาวบ้านจากบ้านท่ามะไฟหวาน
ก็นิมนต์ให้ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสที่นั่น เพราะขาดพระ
ท่านรับปากเพราะคิดว่าจะไปเพียงชั่วคราว
ครั้นไปถึงก็พบว่าชาวบ้านที่นั่นมีปัญหาหลายอย่าง
หนึ่งในนั้นก็คือ เด็กเล็กที่เจ็บป่วย
เพราะตามพ่อแม่ไปทำไร่ในที่ไกล ๆ
บางคนถึงกับป่วยหนักจนตาย
ท่านเห็นแล้วก็ไม่สามารถนิ่งดูดายได้
จึงแก้ปัญหาด้วยการรับเด็กเล็กเหล่านั้นมาดูแลที่วัด
จะได้ไม่ต้องไม่เจอโรคภัยในป่า
นั่นคือจุดเริ่มต้นของศูนย์เด็กเล็กแห่งแรก
ของจังหวัดชัยภูมิ
ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดระแวง
ของเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะภูโค้งเมื่อปี ๒๕๒๑
เป็นเขต สีชมพู คือเป็นเขต
แทรกซึมของคอมมิวนิสต์
สิ่งที่หลวงพ่อทำเวลานั้นผิดแผกจากพระทั่วไป
ทางการจึงสันนิษฐานว่าท่านอาจเป็น
แนวร่วมกับคอมมิวนิสต์
แต่ที่จริงหลวงพ่อทำเพราะเมตตาจิตล้วน ๆ
อยากช่วยเหลือเด็กเล็ก ๆ และชาวบ้าน
เท่าที่ท่านจะทำได้
เป็นเพราะศูนย์เด็กนี้เอง
ข้าพเจ้าจึงได้รู้จักกับหลวงพ่อคำเขียน ในปี ๒๕๒๓
ได้ปีนเขาขึ้นมาที่วัดภูเขาทอง
(สมัยนั้นยังไม่มีถนนจากแก้งคร้อขึ้นมา)
เพื่อดูว่าจะช่วยเหลืออะไรท่านได้บ้าง
เพราะตอนนั้นข้าพเจ้ายังเป็นฆราวาส
ทำงานสนับสนุนพระและชาวบ้าน
ที่ช่วยเหลือเด็กขาดอาหาร
อันเป็นปัญหาใหญ่ของเมืองไทยเมื่อ ๓๐ กว่าปีก่อน
จำได้ว่าเมื่อมาพักแรมที่วัดภูเขาทอง
หลวงพ่อให้การดูแลอย่างอบอุ่น
จัดหาที่หลับที่นอนและหมอนมุ้งให้ด้วยตัวท่านเอง
เมื่อข้าพเจ้ามาบวชอยู่กับท่านที่วัดป่าสุคะโต
ก็ยังเห็นท่านดูแลเอาใจใส่อาคันตุกะอย่างดีเช่นเดิม
ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังสาละวนกับกิจอื่นอยู่
หลวงพ่อก็จัดที่นอนให้แก่อาคันตุกะ
เสร็จเรียบร้อยแล้ว
โดยที่ข้าพเจ้ายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย
อาคันตุกวัตรของหลวงพ่อนั้น
เป็นที่น่าประทับใจมาก ท่านถือเป็นธุระของท่านเอง
ไม่เคยปล่อยหรือสั่งให้ศิษย์หรือพระลูกวัด
อย่างข้าพเจ้าทำเลย เป็นเช่นนี้อยู่นาน
จนภายหลังท่านมีอายุมาก
อีกทั้งมีพระและอุบาสกอุบาสิกา
อยู่ประจำวัดมากขึ้น ท่านจึงวางมือในเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามความใส่ใจอาคันตุกะของท่าน
ก็ยังมีอยู่อย่างสม่ำเสมอ
เมื่อท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดป่าสุคะโต
ท่านมีโครงการหลายอย่างเพื่อช่วยชาวบ้าน
บางอย่างก็ได้ลงมือทำ เช่น พุทธเกษตร
เพื่อชักชวนชาวบ้านหันมาหา
การทำเกษตรเพื่อพึ่งตนเอง
แทนที่จะปลูกแต่มันหรืออ้อยเพื่อขาย
ซึ่งมีแต่จะทำให้เป็นหนี้มากขึ้น
บางอย่างก็เป็นแค่ความคิดแต่ไม่ได้ลงมือ
เช่น การฝึกอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าให้แก่ชาวบ้าน
ท่านตั้งใจจะหาทุนซื้อจักรเย็บผ้ามาไว้ที่ศาลานอก
ให้ชาวบ้านได้ฝึกมือ แต่โครงการนี้ก็ไม่ได้ทำ
เพราะระยะหลังหลวงพ่อหันมาเน้นหนัก
การสอนกรรมฐานมากขึ้น
เนื่องจากมีคนเข้ามาฝึกสติกับท่านอย่างต่อเนื่อง
ความเมตตาของหลวงพ่อไม่ได้มีกับคนเท่านั้น
กับต้นไม้ ท่านก็มีมาก
ท่านรักป่าและใส่ใจต้นไม้มาก
เวลาเดินสำเร็จป่า หากเห็นต้นไม้ล้มแต่ยังไม่ถึงตาย
ท่านจะพยายามพยุงและช่วยชีวิตต้นไม้เหล่านั้น
ท่านเล่าว่า ตอนเป็นฆราวาสไม่เคยมีนิสัยเช่นนี้
เห็นต้นไม้ก็คิดแต่จะตัด
แต่กรรมฐานได้เปิดใจท่าน
ให้มีเมตตาต่อสรรพชีวิต
ไม่ว่า คน สัตว์ หรือต้นไม้
ท่านจึงพยายามอนุรักษ์ป่าที่วัดป่าสุคะโต
อย่างเต็มที่แม้อุปสรรคจะมากมาย
ขณะเดียวกันก็ปลูกป่าที่วัดภูเขาทองจนร่มครึ้ม
ทั้ง ๆ ที่ตอนท่านมานั้น วัดภูเขาทองโล่งเตียน
เพราะเจ้าอาวาสองค์เก่าตัดต้นไม้หมด
เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการเล่นว่าว
แม้ทุกวันนี้หลวงพ่อชรามากแล้ว
เรี่ยวแรงก็ถดถอย แต่ภาพหลวงพ่อปลูกต้นไม้
รดต้นไม้ ก็ยังเป็นภาพที่คนวัดเห็นคุ้นตา
ท่านไม่ได้สอนเท่านั้น แต่ท่านทำให้ดู
และทำด้วยใจรัก ธรรมชาติที่วัดป่าสุคะโต
จึงเจริญงอกงาม สร้างความรื่นรมย์แก่ผู้เยี่ยมเยือน
และผู้อาศัยจนทุกวันนี้
เขียนเล่าเรื่องพระไพศาล วิสาโล
ขอบคุณที่มา fb. วัดป่าสุคะโต เพื่อธรรมะและธรรมชาติ