ตัณหา คือ ความอยาก
อะไรที่มันทำให้เราเกิดความอยากขึ้นมา
นั่นแหละคือตัณหา
และตัณหานี่แหละที่เป็นตัวนำพา
ความทุกข์ทั้งมวลมาให้
ใครไม่มีตัณหาก็ไม่มีทุกข์
เมื่อไม่มีทุกข์ก็พบแต่ความสุข
เหตุแห่งตัณหา คือ อายตนะหก
ได้แก่ ตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจ
ซึ่งเป็นประตูทั้งหกที่เปิดรับตัวตัณหา
หากเราปิดประตูอายตนะหกนี่้
ตัณหาก็เข้ามาสู่ตัวเราไม่ได้ ความทุกข์มันก็ไม่เกิด
ซึ่งไม่ใช่ง่ายหรอกที่จะปิดประตูทั้งหกนี้
ลองทำดูสักครั้งเพื่อทดสอบตัวเอง
การดับทุกข์นั้นเราต้องอาศัย"สติ"
เท่านั้นเป็นผู้ดับทุกข์
สติ คือ ความระลึกรู้
ต้องรู้ว่าาเรากำลังอยู่ในสภาวะอะไร
และกำลังทำอะไรอยู่
คนมีสติคือคนที่รู้อยู่ตลอดเวลาว่า
ตนเองมีความเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อย่างไร
เช่นกำลังโกรธ กำลังเกลียด
ถ้าเราไม่รู้ถึงสิ่งเหล่านี้ เรียกได้ว่า
เราไม่มีสติอยู่กับตัวเราเลย
เรากำลังตกอยู่ภายใต้อำนาจของกิเลสตัณหา
ซึ่งมันจะบงการให้เราทำอะไร
ก็ต้องทำตามที่มันบัญชา
เขาเรียกว่าตกเป็นทาส
แต่ถ้าเรามีสติอยู่กับตัวเราแล้ว
เราก็รู้ได้ว่าขณะนี้
กิเลสตัณหาได้เข้ามาเล่นงานเราเข้าแล้ว
เรากำลังโกรธ เรากำลังเกลียด
พอรู้อย่างนี้แล้ว เราก็บอกตัวเองได้ว่า
เราจะโกรธ จะเกลียดไปทำไมกัน
เพราะนั่นแสดงได้ว่า
เราได้ตกเป็นทาสของตัณหาซะแล้ว
ดังนั้น การมีสติเท่านั้น
ที่จะทำให้มนุษย์เรามีความสงบสุขอันแท้จริง
ได้การจะมีสติอยู่ตลอดเวลาได้ต้องฝึก
ฝึกในการรู้ตัวทั่วพร้อม
คือให้หมั่นระลึกอยู่เสมอว่า
ขณะนี้เรากำลังทำอะไรอยู่
การฝึกให้สติอยู่กับต้วเรียกว่า
การเจริญสติ.....