ตุลาคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
19 ตุลาคม 2554

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::




:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::








เด็กไทยจำเป็นมากแค่ไหน
ที่จะต้องเรียนเพื่อให้”มีความรู้แบบฝรั่ง”
ที่เอาแนวคิดของระบบการศึกษาที่เน้นให้นักเรียนมี Critical Skills
หรือความสามารถในการเชิงวิจารณญาณ
ที่ไม่เน้นการท่องจำแบบบ้านเรา
ซึ่งความสามารถนี้ยังรวมถึงการไม่จำต้องเชื่อตามที่ครูผู้สอนบอกทั้งหมด
นักเรียนสามารถแยกแยะข้อเท็จจริงได้ด้วยตัวเอง

และการเรียนรู้แบบฝรั่งที่สอนให้กล้าแสดงออก
กล้าที่จะคิดแย้งเห็นต่าง จะเป็นปัญหาไหม
เพราะสังคมไทยยังมีระบบอาวุโสในการทำงาน
ซึ่งต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาทุกอย่าง





คำถามโดย : คล้ายดาว
วันที่ : 8 มิถุนายน 2554
เวลา : 23:03:37 น.





















สวัสดีครับคุณคล้ายดาว



ผมไม่แน่ใจว่าเอาเข้าจริงๆแล้ว
“องค์ความรู้” ในโลกสามารถแบ่งแยกเป็นโลกตะวันตก
หรือโลกตะวันออกได้อย่างชัดเจนหรือไม่
การจัดชุดการศึกษาหรือการออกแบบระบบการศึกษานั้น
เกิดขึ้นจากการที่นักการศึกษาในประเทศนั้นๆ
ออกแบบรูปแบบในการจัดชุดการศึกษาขึ้น
เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพสังคม วัฒนธรรมของผู้เรียนในชาตินั้นๆ


















ในความเป็นจริง คือ วิธีคิดของเรากับของชาวตะวันตกนั้น
มีความแตกต่างกันมากในทุกๆด้าน
แต่นักการศึกษาของเรากลับไปยกเอา “รูปแบบ” ของการศึกษา
มาทั้งดุ้น โดยไม่คิดถึง “ภูมิปัญญา” ดั้งเดิมที่เรามีอยู่เลย


สิ่งที่สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น
ผมยกตัวอย่างเรื่องบ้านก็ได้ครับ
บ้านเมืองของเราเป็นเมืองในเขตร้อนชื้น
ซึ่งสภาพอากาศมีความร้อนชื้น มีฝนเกือบครึ่งปี
บ้านทรงไทยในสมัยก่อนจึงมีชายคาที่ยื่นยาวเพื่อกันฝนสาด
ทรงหลังคาสูงโปร่งเพื่อการระบายอากาศที่ดี
การเลือกใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลักในการก่อสร้าง
เพราะไม้มีความยืดหยุ่นตัวสูง
และระหว่างไม้แผ่นต่อแผ่นนั้นมีช่องว่างเล็กๆ
สามารถทำให้ลมลอดผ่านได้
บ้านทรงไทยจึงมีอากาศเย็นสบายโดยแทบไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเลย

แต่เมื่อวิทยาการของชาวตะวันตกแผ่เข้ามาถึง
สถาปนิกชาวไทยนำรูปแบบบ้านทรงยุโรป
หรือแม้แต่ออกแบบตกแต่งบ้านสไตล์โรมันฝรั่งเศส
โดยไม่คิดคำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเรา
ผลที่ได้คือ เราได้บ้านที่ทันสมัย แต่มีปัญหาในการอยู่อาศัย
ที่สุดแล้วเราแก้ปัญหาบ้านร้อนกันง่ายๆ
ด้วยการใช้เครื่องปรับอากาศ
สร้างบ้านเสร็จต้องมาต่อเติมกันสาดเพื่อกันฝนในภายหลัง ฯลฯ














“การศึกษา” ที่ขาดปัญญาและทอดทิ้งสิ่งเก่าที่เคยมีอยู่
ทำให้เรามองข้าม “ปราชญ์ชาวบ้าน” จำนวนมากมาย
ที่ท่านได้ทิ้งมรดกทางปัญญาเอาไว้ให้ลูกหลาน
แต่น่าเสียดายที่เราไปยึดติดในองค์ความรู้ใหม่จากตะวันตกเสียแล้ว



เราอยากเจริญทัดเทียมตะวันตก
เลยคิดว่าถ้าเราศึกษาแบบเขา คิดแบบเขาได้
เราจึงจะเป็นผู้เจริญอย่างแท้จริง













ผมไม่ปฏิเสธ “ความรู้ใหม่” นะครับ
แต่ไม่อยากให้เราหลงลืม “ภูมิปัญญาดั้งเดิม” ของเราด้วย


สิ่งเก่าใช่ว่าจะล้าหลัง ล้าสมัยไร้ค่าไปเสียทั้งหมด
เราจะทิ้งรากเหง้าทางความคิดของเรา
แล้วไปรับสิ่งใหม่เพราะเชื่อว่ามันดีกว่า ทันสมัยกว่า
โดยไม่มีการพิสูจน์เลยหรือ ?


ใช่ ไอแพด ไอพอด ไอโฟน หรือแม้แต่เทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ
เป็นสิ่งสำคัญ
แต่วันที่โลกถล่มดินทลาย เราคงเอาเจ้าเทคโนโลยีเหล่านี้มาต้มกินไม่ได้


วันที่เราเดินหลงป่า
เราคงอยากรู้ว่าพืชชนิดใดมีพิษ ผลไม้ชนิดไหนทานได้
คงไม่มีใครคิดแต่ว่าจะสั่งเคเอฟซีที่กลางป่าได้อย่างไรหรอกกระมัง















เรามักจะพูดกันเสมอในแวดวงวิชาการว่า
“ระบบการสอนแบบท่องจำ” เป็นสิ่งที่ล้าสมัยและตกยุค
เมื่อก่อนผมก็เคยเชื่อแบบนั้นครับ
เพราะช่วงที่ผมเรียนครุศาสตร์นั้น
เราพูดถึงการนำหลักสูตรของอเมริกา
ว่าด้วยการสอนแบบให้เด็กคิดแบบบูรณาการ
การสอนแบบให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ฯลฯ
เราเรียนรู้การวิเคราะห์หลักสูตร ด้วยวิชาการของชาวตะวันตก

แต่สิ่งที่ผมมาคิดได้วันนี้
ผมกลับมองเห็นคุณค่าของการท่องจำ
ไม่น้อยไปกว่าการสอนให้คนคิดเองทำเอง เรียนรู้เอง


ไม่ใช่เพราะการสอนแบบเคี่ยวเข็ญให้ท่องจำนี่หรือ
ทุกวันนี้ผมยังท่องสูตรคูณได้หมด
ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่หัวใจอินเตอร์แค่ซื้อของทอนเงินง่ายๆ
ยังร้องเรียกหาเครื่องคิดเลขตลอดเวลา




















สิ่งที่การศึกษาในตะวันตกพยายามสอน
นั่นคือ การเน้นให้ผู้เรียนสามารถช่วยเหลือตนเองได้
กล้าคิด กล้าทำ กล้าลองเสนอมุมมองใหม่ๆ

ใช่ --- สิ่งนี้ไม่ง่ายเลย
หากจะนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสังคมบ้านเรา
ซึ่งการทำงานเต็มไปด้วยอาวุโส
ที่ไม่ชอบให้ใครโต้แย้ง หักหน้า
หรือนำเสนอความคิดเห็นที่แตกต่าง...
















นี่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของระบบการศึกษา
แต่ต้องพูดไปให้ลึกถึงคุณค่า ความเชื่อ ทัศนคติและวัฒนธรรม
ที่สังคมทั้งระบบหล่อหลอมเรามามิใช่หรือ



ผมชอบตัวอย่างในการเจรจาธุรกิจของชาวญี่ปุ่นครับ
เศรษฐีอเมริกาเคยเข้าไปเจรจาค้าขายกับชาวญี่ปุ่น
ด้วยความเป็นฝรั่งเมื่อเริ่มต้นประชุมเจรจา
ฝ่ายอเมริกายื่นข้อเสนอข้อสัญญามากมายให้ชาวญี่ปุ่นอ่าน
ปรากฏว่าคนญี่ปุ่นรับสัญญาไว้ด้วยรอยยิ้ม วางมันลงข้างกองเอกสาร
แล้วชวนคุยถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการค้าขายเลย
คนอเมริกากระสับกระส่ายพยายามดึงคู่เจรจาให้กลับมาอยู่ในการพูดคุย
แต่ไม่เลย...คนญี่ปุ่นไม่สนใจ
จากนั้น...จบการประชุมโดยไม่มีข้อสรุป....


สองสามครั้งหลังที่เข้าร่วมประชุมกัน
เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นเดิม
ไม่มีความคืบหน้าใดใดในการเจรจาค้าความ

ที่สุดฝรั่งคนนี้ทนไม่ไหวตัดสินใจพูดออกไปตรงๆเลยว่า
ทางญี่ปุ่นจะ “ตกลง” หรือ “ไม่ตกลง”

ญี่ปุ่นตอบว่า “ไม่แน่ใจ”
















การที่คนๆหนึ่งจะกล้าแสดงออก
กล้าที่จะคิดแย้งเห็นต่างไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมตะวันตก
ตบโต๊ะด่าทอกันได้ แต่หลังประชุมก็พูดคุยกันได้ตามปกติ
นั่นเป็นเรื่องของสังคมและวัฒนธรรมที่หล่อหลอมให้คนของเขาเป็นอย่างนั้น

แต่ผมกลับคิดว่าข้อดีของความเป็นขี้เกรงใจ
ความเป็นคนซ่อนงำประกายปัญญาของตนเองไว้
กลับเป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งที่ชาติตะวันตกไม่คุ้นเคย

เพราะไม่คุ้นเคย เลยรับไม่ได้กับวิธีคิดแบบตะวันออกมิใช่หรือ
ที่สุดแล้วฝรั่งเค้าลงทุนศึกษาปรัชญาตะวันออกเลยนะครับ
ไม่ว่าจะเป็น สามก๊ก ซุนวู คัมภีร์ห้าห่วงมุซาชิ เต้าเต๋อจิง ฯลฯ


เพื่อจะได้เข้าใจจิตใจของคนเอเชีย



เช่นกัน ชาวเอเซียก็ควรศึกษาแนวคิดของชาติตะวันตกให้เข้มข้นไม่น้อยไปกว่ากัน

ในความแตกต่างขึ้นอยู่กับ “ความพลิกแพลง” ในการปรับใช้แนวคิดนี้ต่างหาก
ว่าใครจะตีหลักปรัชญาที่ซ่อนอยู่ ใครจะเข้าใจกลยุทธ์
วิถีชีวิต วิธีคิดของแต่ละฝ่ายได้มากกว่ากัน....

















ไม่มีวิธีใดที่ดีที่สุดในการใช้ความรู้ที่มีไปต่อยอด

การมี “ความรู้” มาก
สู้คนที่นำความรู้ไปใช้ไม่ได้

การนำความรู้ไปใช้
สู้คนที่พลิกแพลงความรู้ไม่ได้


ซุนวูเขียนไว้ว่า



“รู้เขา รู้เรา
รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”

แต่ผมคิดว่า

“รู้จักตนเอง
ไม่ต้องรบ ก็ชนะ” ครับ









































Create Date : 19 ตุลาคม 2554
Last Update : 19 ตุลาคม 2554 5:16:46 น. 96 comments
Counter : 1957 Pageviews.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า มาดาม และ หมิง หมิง

ขอบคุณ ... คำถามชวนคิด
ขอบคุณ ... คำตอบโดนใจ สร้างสรรค์ให้คิดเพิ่มเติมค่ะ พี่ก๋า

ชอบค่ะ... หลายตอนที่ตอบ
โดยเฉพาะ

ผมไม่ปฏิเสธ “ความรู้ใหม่” นะครับ
แต่ไม่อยากให้เราหลงลืม “ภูมิปัญญาดั้งเดิม” ของเราด้วย

เหมือนชอบให้กล้า สร้างสรรค์ คิดช่วยเหลือตัวเอง เป็นผู้ใหญ่ได้แบบฝรั่ง
แต่ต้องมีความอดทน เข้มแข็ง อ่อนน้อมแต่ไม่แข็งกระด้าง มีสัมมาคาราวะ มีน้ำใจ ไม่เห็นตัว ช่วยเหลือ แบ่งปัน - มีรอยยิ้ม (สยามเมืองยิ้ม) และ อนุรักษ์วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทยค่ะ



vote ค่ะ


โดย: Gunpung วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:5:46:23 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะ คุณก๋าและหมิงหมิงสุดหล่อ

เอา น้องกุ้ง มาฝากค่ะ



ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะemo


โดย: iamorange วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:6:00:00 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณก๋า...
คำตอบโดนใจจริงๆ


โดย: พี่ฟ้า... (kuvasu ) วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:6:05:04 น.  

 
แวะมาทักทายอรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะพี่ก๋า

แปะไว้ก่อนนะคะ
เด๋วมาใหม่อีกรอบ


โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:6:05:57 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้องก๋า.. เช้านี้ หนาวเช่นเคย..


โดย: poongie วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:6:57:42 น.  

 
วิถีบางอย่างของเค้าก็น่าสนใจนะคะ สาวว่าคนไทยเอามาใช้ไม่เป็น ถ้าเราเอามาใช้จริงๆ เลยแต่สิ่งที่เหมาะสมกับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของไทย ก็ดีนะคะ แต่แปลกตรงที่ หลายคนเอาของเค้ามาทั้งหมด เรื่องราวก็เลยดูไม่เป็นที่เป็นทางแบบปัจจุบัน


โดย: sawkitty วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:6:58:52 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

วันนี้ทักทายช้าไปนิ้ดนึง
เพราะเนื้อหาเยอะ
เลยกลับมาอ่านที่ทำงานเช้านี้ต่อคะ
....
เนื้อหาเยอะและละเอียดคะ
เห็นด้วยเรื่องการท่องจำในบางเรื่อง
...การท่องสูตรคูณ..
ทุกวันนี้ยังต้องคิดคำนวณ
บวกลบเลขเอง
นัยว่า..เป็นการฝึกสมองด้วยค่ะ
คงเหมือนเพื่อนหลายคนที่ชอบ
เล่น Crossword หรือ Sudoku
เพื่อให้สมองได้ทำงานตลอดเวลา
......

ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวข้อคิดที่เยอะมากในวันนี้
อ่านนาน คิดนานเลยจ้า
ระบบการศึกษาทางโน้นสำหรับเด็กประถมมัธยม
ใช่ว่าเด็กจะทำได้ทุกคน
เด็กมีความเครียดจากระบบการศึกษานั้นเองเหมือนกัน
อันนี้เป็นประสบการณ์ตรงที่เกิดในครอบครัวตัวเองค่ะ ^_^



โดย: A IP: 119.46.151.21 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:02:13 น.  

 
ตอนนี้รบกับน้ำอย่างเดียวจ๊ะหมิง หมิง


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:16:01 น.  

 

ปืนสีเหลืองอันนี้ อันเดียวกันที่โดน 36 ค้อน อิๆๆ


โดย: พี่ฟ้า... (kuvasu ) วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:16:03 น.  

 
หมิงหมิง จะไปเล่นสงกรานต์แล้วหรอ


โดย: kwan_3023 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:31:17 น.  

 
สวัสดีค่า คุณก๋า

ซุนวูเขียนไว้ว่า
“รู้เขา รู้เรา
รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”

แต่ผมคิดว่า

“รู้จักตนเอง
ไม่ต้องรบ ก็ชนะ” ครับ

เห็นด้วยกับซุนก๋า ค่า 55555555

ภาพนี้ถ่ายตอนไปไหนเอ่ย
เค็งนะ ไม่เคยถ่ายกับยักษ์ที่สนามบินด้วย
ตอนจะกลับมานิวฯ ไม่มีอารมณ์ค่า 555555
คือ อยากอยู่ไทยถาวระนะค่า 55555


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:34:05 น.  

 





สวัสดีครับพี่ A



ตอนนี้เราชอบวัดค่าความสำเร็จของคน
ที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ

แต่ผลของค่าตัวเลขไม่ไ่ด้เป็นดัชนีชี้วัดเลยว่า

ถ้าคนเรารวยขึ้น แล้วชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น


ประเทศเกาหลีที่เรากำลังคลั่งไคล้เขา
ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและบันเทิง
แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงอัตราฆ่าตัวตายของคนเกาหลี
ที่พุ่งสูงขึ้นมาเป็นอันดับสองของโลก...


"การศึกษาในระบบ" ไม่น่าจะใช่คำตอบสุดท้าย
ของการพัฒนาคน เศรษฐกิจและสังคม


ผมคิดว่า "ภูมิปัญญา" เป็นความคิดที่ตกผลึกแล้วของคนโบราณ
หลายสิ่งหลายอย่างเป็๋นสิ่งดีและมีคุณค่า
แต่เรามองเลยผ่านไปเพราะคิดว่านั่นคือความเชย ล้าสมัย

แล้วคนที่ฉลาดกว่าก็เอาภูมิปัญญาของเราไปต่อยอด
แล้วสร้างความมั่งคั่งได้
สุดท้ายก็กลับเอามาขายให้เราซื้อในนามของผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต....


ผมยังยืนยันว่า ผมจะสอน "วิชาเกิน" ให้ลูกครับ
"วิชาการ" แสวงหาไป เรียนรู้ไป
แต่มันเป็นเพียงการฝึกให้เรารู้จักคิดอย่างเป็นระบบ
แต่" วิชาเกิน" นี่ต่างหาก
ที่จะทำให้เราเข้าใจชีวิต
และรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิต
เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่าที่แท้จริง






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:35:45 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ

เห็นด้วยกับวันนี้อย่างยิ่ง


โดย: อัสติสะ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:40:55 น.  

 
ในความแตกต่างขึ้นอยู่กับ “ความพลิกแพลง”
ในการปรับใช้แนวคิดนี้ต่างหาก
ว่าใครจะตีหลักปรัชญาที่ซ่อนอยู่ ใครจะเข้าใจกลยุทธ์
วิถีชีวิต วิธีคิดของแต่ละฝ่ายได้มากกว่ากัน....

โดนค่ะพี่ก๋า จะระบบไหน ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการและวิธีคิดจริง ๆ

เคยเถียงกับคนข้าง ๆ ตอนมูรินโญ่ ของเรียลมาดริดที่ให้สัมภาษณ์ว่า "ครอบครัวสอนให้คิดอย่างไรก็พูดและทำอย่างนั้น" ฝรั่งแท้เชียว

พอถามกลับ ตอนที่เอานิ้วไปจิ้มตาโค้ชของบาซาร์หน่ะ เรียกว่าทำไปโดยไม่ได้คิดนะนั่น ฮีนิ่ง ไม่ตอบอ่ะ


โดย: ostojska วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:42:20 น.  

 

 
สวัสดียามเช้าค่ะ




โดย: Calla Lily วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:44:57 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่ วันนี้เป็นรูปแอร์พอร์ทที่แสนคุ้นเคยของบ้านเรา


โดย: Summer Flower วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:46:12 น.  

 
อรุณสวัสดิ์คร๊าบน้องก๋า....อากาศทางเชียงใหม่เป็นไงบ้างครับฝนยังตกอยู่ไหมครับ


โดย: phaclam วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:53:10 น.  

 
ทักทายในวันที่น้องบีบีใช้การไม่ได้ตั้งแต่เช้าค่ะพี่ก๋า

เดี๋ยวขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ
ยังไม่ได้อ่านเลย
แบบว่า...ขอทักทายเพื่อนๆ ก่อน แหะๆ


โดย: fonrin วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:7:53:24 น.  

 
น้ำท่วม พี่ยุ่นก็เริ่มไม่แน่ใจน้องยิ้ม แล้วครับ
ถ่ายรูปได้ครับ แต่ห้ามใช้แฟลช


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:03:05 น.  

 
หวัดดีค่ะน้องก๋า
ไม่ได้มาทักหลายวันเลย
มัวแต่ดูข่าวน้ำท่วม หุหุ


โดย: kapeak วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:10:39 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ คุณก๋าและหลานหมิงหมิง เห็นด้วยกับข้อคิดของคุณก๋าเลยนะ ไม่ปฎิเสธความรู้ใหม่ แต่อย่าหลงลืมภูมิปัญญาชาวบ้าน คนไทยชอบยื่นมือไปรับอารยธรรมตะวันตกแบบหลับหูหลับตา ควรจะแยกแยะว่าสิ่งไหนเหมาะสมกับสภาพของไทย แล้วก็รับมา อันนี้จะทำให้เมืองไทยไม่ล้าหลัง ทุกวันนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองดัดจริตพูดไทยปนฝรั่ง ศัพท์ภาษาไทยไม่กระดิกหู นึกว่าตัวเองเท่ห์ แต่ขอโทษเถอะ ทุเรศ นะไม่ว่า


โดย: KeRiDa วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:11:14 น.  

 
สวัสดีวันใหม่ค่ะคุณก๋า

“รู้จักตนเอง
ไม่ต้องรบ ก็ชนะ”


โดย: blueberryblossom วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:11:49 น.  

 
ระบบการศึกษาเรากำลังจะเปลี่ยนค่ะ
แต่เด้กเราต้อง mature ด้วย
คนที่บ้านต้องหัดให้เด็กสู้และเผชิญชีวิต
คนที่บ้านเป็นครูคนแรกของเด็กๆ
0-3-5 ปี เป็นอย่างไร
เวลาที่เด้กจะเป็นผู้ใหญ่ก็จะเป็นเช่นนั้น
การศึกษาเป็นอาหารสมองเป็นปัจจัยเสริม
ในการเจริญเติบโตและอนาคต

ฐานของเด้กต้องมั่นคงค่ะ
แต่ หมิง หมิง ฐานมั่นคงแน่นปั๊งแน่น



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:11:53 น.  

 

แต่บางเรื่องที่ดูไม่มีเหตุผล
นั่นล่ะครับพี่อุ๊
มันเต็มไปด้วยเหตุผลจริงๆ

โอยยยย ประโยคกระแทกใจ .. สงสัยต้องทบทวนใหม่ ^^

ชอบตัวอย่างเรื่องบ้านค่ะ .. และ
การนำความรู้ไปใช้ สู้คนพลิกแพลงความรู้ไปใช้ไม่ได้


โดย: Life & Learn วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:11:54 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

สวัสดีเช้าวันพุธครับคุณก๋า


โดย: panwat วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:15:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า วันนี้มาอ่านคำตอบที่โดนๆๆมากเลย และคำถามก็ดีมากเลยทำให้ผู้อ่านได้แง่คิดและความรู้อีกมากเลยค่ะคุณก๋า ชอบคำตอบของคุณก๋าทุกข้อเลยค่ะ กิ่งโหวตให้เลยนะคะ แต่จะเป็นหมวดอะไรดีนะ ตอนท้ายๆก็น่าจะเข้ากับข้อคิดธรรมมะนะคะ โหวตเหมือนเดิมละกันเน้อ อิอิ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

มีความสุขกับครอบครัวในวันพุธค่ะ




More Morning Break Comments



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:43:18 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะคุณก๋า


โดย: phunsud วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:46:12 น.  

 

สวัสดีเช้าวันพุธค่ะ คุณก๋า

มีความสุขและรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ...


โดย: ปลายจันทร์ IP: 110.171.29.148 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:8:55:01 น.  

 
รบกวนฝากข่าวหน่อยจ้ะ (ถ้ารบกวน ลบได้เลยจ้ะ)



...................



ขุนเขา ริมน้ำชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะวิกฤตทางอุทกภัยในหลายจังหวัด

โดยการจำหน่ายหนังสือ 7 เล่ม (จากผลงานทั้งหมด 8 เล่ม) ในราคาพิเศษ 100 บาท เพื่อนำรายได้ 50% มอบสมทบทุนให้แก่ทีมอาสาปันยิ้ม นำไปซื้อยา เวชภัณฑ์ ถุงยังชีพ และสิ่งจำเป็น โดยประสานงานร่วมกับแพทย์ พยาบาลอาสาจากโรงพยาบาลต่างๆ

สาเหตุที่เลือกบริจาคให้ทีมอาสาปันยิ้ม เนื่องจา่กมีคนอ่านหนังสือขุนเขา ริมน้ำที่ไว้ใจได้เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินงาน ต้องการให้เงินบริจาคแปรเปลี่ยนเป็นเวชภัณฑ์ สิ่งของจำเป็นเพื่อถึงมือผู้เดือดร้อนอย่างรวดเร็วและสามารถรับรู้ได้ โดยมีแพทย์ พยาบาลอาสาผู้มีความรู้จริงร่วมทีมในการลงพื้นที่ อีกทั้งหน่วยงานองค์กรใหญ่ต่างๆมียอดบริจาคและเงินคงค้างจำนวนมหาศาลอยู่แล้ว


สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ //www.facebook.com/event.php?eid=250389838344427




โดย: p_tham วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:10:31:47 น.  

 

ชอบมากมากเลยค่ะ อ่านแล้วทำให้นู๋อมยิ้มไปด้วยตลอดเลยค่ะ
...
สวัสดีค่ะ พี่ก๋า
มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:10:34:14 น.  

 
อ่านไปแล้ว .. ก็ทำให้เรารู้ได้ว่า
ของบางอย่างก็เหมาะกับบางอย่างเท่านั้น

เมืองไทยของเรามันก็มีแบบแผนบางอยาง
เมืองนอกก็มีแบบแผนอีกอย่าง แต่ใช่ว่าความแตกต่าง
จะไม่สามารถนำมาเปลี่ยนแปลงได้ เพราะสิ่งท้าทาย
มันก็คือ การนำความแตกต่างมาศึกษาและก็ประยุกต์
ให้เข้ากับความต้องการหรือว่าพื้นฐานที่เรามีอยู่
แน่นอนว่าไม่ง่าย แต่ว่ามันก็ไม่น่าเกินความพยายาม
(ถ้าหากว่าต้องการทำจริงๆ นะค่ะ)


แต่นั่นล่ะค่ะ การเริ่มต้นอะไรบางอย่าง
บางทีมันก็ยากที่จะไปเปลี่ยนแปลง .. คาดว่าน่าจะ
ใช้เวลาบ้างกับเรื่องนี้ และเรื่องอื่นๆ เลยล่ะค่ะ

เด็กไทยสอนให้คิดได้ ... แต่ว่ามันต้องมีโอกาส
และก็ต้องเปลี่ยนแนวการสอนเลยล่ะค่ะ เพราะว่าระบบ
การเรียนของเราต้องบอกว่า ด้อย เหลือเกิน
เมื่อเทียบกับซีกโลกอื่นๆ ... แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดี

เราเองมีความรู้น้อยกับเรื่องนี้ (และเรื่องอื่นๆ)
เลยไม่สามารถแจงได้ แต่รู้ว่าทุกสิ่ง ทุกอย่างบนโลก
เราสามารถนำมาประยุกต์ได้จริงๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:10:55:55 น.  

 
แวะมาอ่านความเห็นของคุณก๋าค่ะ เข้าใจตอบนะคะ ^^

วันนี้อ่านหนังสือของคุณ Paulo Coelho เรื่อง The Witch of Portabello
และก็เจอคำพูดให้คิดว่า

What does learning mean: accumulating knowledge or transforming your life?

นั่นสินะ :)


โดย: BeachBum IP: 122.104.127.71 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:10:57:55 น.  

 
ไม่มีวิธีใดที่ดีที่สุดในการใช้ความรู้ที่มีไปต่อยอด

การมี “ความรู้” มาก
สู้คนที่นำความรู้ไปใช้ไม่ได้

การนำความรู้ไปใช้
สู้คนที่พลิกแพลงความรู้ไม่ได้


ซุนวูเขียนไว้ว่า


“รู้เขา รู้เรา
รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง”

แต่ผมคิดว่า

“รู้จักตนเอง
ไม่ต้องรบ ก็ชนะ” ครับ


------------------------------------

^
^
^

เอิ๊กกกกกกกก เอิ่มมมม ...... โดนคะ โดน


โดย: บ่งบ๊ง วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:11:29:58 น.  

 
สวัสดีครับพี่ BeachBum



การศึกษาที่แท้จริง
จะเปลี่ยนแปลงตัวเราอย่างถึงราก


คำถามคือ ระบบการศึกษาในปัจจุบัน
มันเคยสอนให้เราคิดในแนวนี้หรือเปล่า


หลายคนคิดว่าปัญหาของการศึกษาไทย
อยู่ที่ระบบ ปรัชญาการสอน กระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนอาคาร สถานที่และครูผู้สอน ฯลฯ

ซึ่งสิ่งต่างๆที่ว่ามา
มันอยู่นอกตัวของเราทั้งสิ้น

ผมคิดว่าปัญหาที่แท้จริงของการศึกษา

อยู่ที่ "ตัวเรา" ครับ

มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก
ครูที่เก่งที่สุดในประเทศ
ก็ทำให้เราเกิด "ปัญญา" ไม่ไ่ด้

เพราะถึงเราจะมีความรู้มากมายสูงส่งเพียงใด
หากเราไม่ได้นำความรู้ที่มีนั้น
ไปสร้างสรรค์และก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวเองและผู้อื่น

ผมก็ยังคิดว่าความรู้นั้น
เป็นเพียงซากความรู้ที่ยิ่งเรียนรู้จะยิ่งสร้าง
บุคลากรที่ไร้คุณภาพและเห็นแก่ตัว
ออกมาทำร้ายโลกและสังคมอย่างไม่รู้จบเลยครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:01 น.  

 
เฮอะๆ คุยเรื่องนี้

ตายแล้วเกิดใหม่ ยังสรุปไม่ได้หรอกค่ะ ว่าการศึกษาของประเทศนี้เป็นแบบไหน ประเทศนี้จุดยืนโอนเอียงไปมาตามแรงลม อิอิ

ที่แน่ๆ การศึกษาของนนนี่ตั้งแต่เรียนมาในประเทศนี้เอามาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ซะอย่างเดียว ยกเว้นสูตรคูณ เอิ้กๆๆๆ

นนนี่เองยังไม่รู้เลยว่า ถ้าลูกโตจะให้เรียนแบบไหนดี

จะอินเตอร์ ส้วมหน้าบ้านนี่แอบหวาดเสียว

จะแบบไทยแท้กลัวจะไม่ทันโลก



โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:11:35:09 น.  

 
ตอนนี้เราชอบวัดค่าความสำเร็จของคน
ที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจ

แต่ผลของค่าตัวเลขไม่ไ่ด้เป็นดัชนีชี้วัดเลยว่า

ถ้าคนเรารวยขึ้น แล้วชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น
ู^
^
จริง ตัวเลขทางการเงินกับความสุขมันไม่จำเป็นต้องไปด้วยกัน
ความสุขขึ้นกับวิธีคิดมากกว่าตัวเงิน

ส่วนเรื่องท่องจำ ก็เห็นด้วยเป็นบางส่วน
งานหลายๆด้านที่ต้องใช้ข้อมูล การท่องจำเป็นเรื่องสำคัญมาก
แต่จำแล้วก็ต้องประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์ด้วย

เหมือนการทำขนม หรือปรุงยา แม้จะมีสูตรชั่งตวงวัดแบบเป๊ะๆ มีขั้นตอนการปรุงตามมาตรฐาน
แต่ทุกสูตรจะมักจะไม่ลืมห้อยท้ายด้วยวลีที่ว่า
"according to art"


โดย: พจมารร้าย วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:11:55:20 น.  

 
ของเก่ามีดี ของใหม่ก็มีดี
แต่ว่าสองอย่างก็มีเสียเหมือนกันค่ะ
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่า คนเก่าแก่
มีความรู้แบบพื้นบ้าน ... มารวมกับเทคโนโลยี
ความรู้ใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าได้
เราว่าจะดีเลยค่ะ

ของเก่าดีๆ เห็นชัดเรื่องความรู้พื้นบ้าน
ได้เลยก็เรื่องของยา ... สมุนไพรไทยๆ ธรรมดา
นี่ล่ะค่ะ ยังมีประโยชน์อยู่มาก .. นำออกมาสกัด
ทำออกมาช่วยเหลือต่างๆ ก็เรียกว่าเหลือเชื่อ
ได้เลยนะค่ะ ..



โดย: JewNid วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:12:12:04 น.  

 
วันที่เราเดินหลงป่า
เราคงอยากรู้ว่าพืชชนิดใดมีพิษ ผลไม้ชนิดไหนทานได้
คงไม่มีใครคิดแต่ว่าจะสั่งเคเอฟซีที่กลางป่าได้อย่างไรหรอกกระมัง ..

เปรียบเทียบซะไม่อยากใช้ไอทีใหม่
แต่อยากเรียนรู้วิถีเก่าที่สอนให้เราดูแลและรัีกษาตัวเองได้ค่ะพี่ก๋า
อิอิ
ขอเอาบล๊อกไปแชร์ที่กลุ่มนะคะ
ฉัตรหายแล้วค่ะ ขอบคุณพี่ก๋ามากๆ ค่ะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:12:16:51 น.  

 
ต้องให้ลูกลองเรียนดูก่อนรึคะ

ดูกันไป อิอิ


แต่ขอเถียงใจขาด

เงินกับความสุขไม่จำเป็นต้องเดินไปด้วยกัน

ในยุคนี้

จำเป็นค่ะ ไม่ต้องมากขนาดเป็นพันๆล้าน

เอาแค่พอกินพอใช้ไม่เดือดร้อน

แล้วไม่เครียดถึงจะมีความสุข


ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป


แต่ละคนต้นทุนชีวิตไม่เหมือนกัน

ต้องมาปรับใช้กันไป



โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:12:35:23 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ตอนนี้น้ำยังมาไม่ถึงค่ะ และก็หวังว่าอย่ามาเลยนะคะเพราะตอนนี้ยังไม่ต้องการน้ำค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ^_^
กลับบ้านไปหาแม่เมื่ออาทิตย์ก่อนค่ะ แวะเอาต้นข้าว จากท้องทุ่งนามาฝากค่ะ


ภาพ ณ อ.ประทาย จ.นครราชสีมาค่ะ


ขากลับ วันนั้นลำตะคองน้ำเยอะพอดู แต่เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเพื่อนไปมาบอกว่าลำตะคองน้ำเยอะมาก เต็มเขื่อนเลย


ถึงจะไม่ได้มาหาบ่อยๆ แต่ก็ยังคิดถึงอยู่เสมอนะคะ












คิดถึงเสมอค่ะ


ที่ทำงานเจ้านายไม่ไห้เซลวิ่งงานแล้วหล่ะค่ะวันนี้อยู่กันที่ออฟฟิศนี่หล่ะค่ะ ลูกค้าหลายแห่งปิดงานค่ะเพราะน้ำมาเยอะ

และตอนนี้เพื่อนหายค่ะ เพื่อนคนนี้ทำงานอยู่ที่ นวนครค่ะ ขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันจันทร์หลัง 3 ทุ่มแล้วค่ะ พยายามติดต่อก็ไม่มีการตอบกลับเลย เขาไม่ติดต่อหาใครเลยค่ะ เช็คที่ศูนย์อพยพแล้วเจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่มีคนชื่อนี้และข้อมูลยังไม่อัพเดท T_T ตอนนี้เพื่อนๆกำลังระดมกำลังตามหาเต็มที่เลย อาจจะยุ่งๆหน่อยนะคะ อาจจะยังไม่ได้มาหา อย่าเพิ่งงอนนะคะ


โดย: ภายใต้ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:12:41:10 น.  

 
การศึกษาเป็นสิ่งที่อยู่กับตัวและติดตัวไปตลอดชีวิต ยิ่งเรียนมาก ยิ่งรู้มาก ฟังมาก ก็ยิ่งเข้าใจมาก

คนจน ทำไมถึงพยายาาให้ลูกเรียนสูงๆ เพราะคนจนไม่มีมรดกที่จะมามอบให้ลูกเมื่อโตขึ้นการศีกษาอย่างเดียวที่จะเป็นของมีค่าให้ลูกได้ เมื่อก่อนคนที่บ้านเจนเขาทำนาอย่างลำบากเพื่อส่งให้ลูกเรียนสูงๆ บาคนได้เป็ฯหมอ เป็นครู เป็นอาจารย์ เป็น อบต และเป็นนายอำเภอ ด้วยความที่พ่อ แม่ยากจน ไม่มีเงิน ซืื้อ หมู ไก่ มาให้กิน นอกจาก ผักที่ปลูกเองและปลาที่หามาได้ เพราะเขากินปลาเขาฉลาดกันมากเลยค่ะ ^_^


โดย: ภายใต้ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:12:45:19 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องกิจ

มากมายหลากหลายมุมมองและความคิด

ถ้าคนไทยรู้จักปรับ รู้จักเปลี่ยนในสิ่งที่ควรปรับและสิ่งที่ควรเปลี่ยน

ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในสายตาของน้องกิจ




โดย: พี่หมู IP: 125.27.0.111 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:13:37:38 น.  

 
ขอบคุณค่ะ พ่อก๋า

คล้ายตามพ่อก๋าค่ะ ว่าแนวคิดและปัจจัยการศึกษาของฝั่งยุโรปกับฝั่งบ้านเรา มีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน เรียกว่ายกไปทั้งดุ้นไม่น่าจะให้ผลดีค่ะ หากรู้จักหยิบยกส่งที่จะให้ผลดีมาใช้ เรียกว่าน่าจะให้ผลที่เต็มที่มากกว่าค่ะ
ระบบการเรียนของที่นี้ เท่าที่สังเกตุเห็นจากเด็กๆ ครุที่โรงเรียนเน้นให้นักเรียนเรียนรู้ พัฒนาการตามวัยค่ะ เรียนกว่า เกรดแปดถึงจะเริ่มให้เกรดนักเรียน แปดปีแรกของโรงเรียน เรียนๆ เล่นๆ กันซะส่วนมาก ไปป่าบ้าง ไปห้องสมุด ไปเข้าค่าย ไปพิพิจภัณฑ์ ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ ป้าบ๋วยแทบจะไม่เห็นเด็กที่บ้านเอาการบ้านมาทำที่บ้านเลยค่ะ ครูจะเขียน อีเมลล์ เป็นจดหมายประจำสัปดาห์ว่าเด็กจะทำอะไรบ้าง มีการบ้านอะไรบ้าง เด็กจะมีล๊อกเกอร์ที่โรงเรียน ไม่ต้องแบบกระเป๋าหลังแอ่นเลยค่ะ ที่สำคัญ พอจบเกรดสาม(ม.3) บ้านเรา เห็นหลายคน เร่ิมออกหางานทำ เริ่มย้ายออกจากบ้าน ถ้าอายุเกินสิบแปด หรือไม่ก็ไปเรียนไกลๆ บ้านเพื่อจะได้อยู่อพาร์เม้น เริ่มรับผิดชอบตัวเอง เท่าที่เห็นนะค่ะ แต่ก็ไม่ทุกคน แต่จะเห็นได้ว่า เด็กที่นี้แสดงความเห็นได้ฉะฉาน ไม่ค่อยเขิลอายค่ะ

หากป้าบ๋วยเองก็มองว่า มันไม่ใช่ผลดีทีเดียวค่ะ ยังอยากให้สาวๆ ที่บ้าน ยึดถึอวัฒนธรรมไทย แม้แต่การเรียนก็ไม่อยากให้ทิ้ง ยังชอบการเรียนเป็นแบบท่องจำ แต่นั่นแหละค่ะ ตอนนี้ได้แค่ค่อยๆ ใส่รายละเอียดไปทีละน้อย

รักษาสุขภาพนะค่ะ

จ๊วบๆ หมิง หมิง รูปหล่อด้วยค่ะ


โดย: ป้าบ๋วย IP: 85.229.94.123 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:13:39:04 น.  

 
แหะ ๆ กดส่ง เสร็จ พึ่งจะเห็นว่าเขียนผิดหลายตัวเลยค่ะ

จบเกรดเก้าค่ะ ไม่ใช่เกรดสาม เทียบเท่า ม. สามบ้านเราค่ะ จริงๆ แล้วเด็กส่วนมากจะเข้ายิมนอเซียม หรือเทียบเท่า ม.4 จนจบ จึงจะเริ่มทำงาน แต่ก็มีบ้างที่ดร๊อปกลางคันออกมาทำงาน เพราะอายุครบ 18 ปี ทำงานได้แล้ว (ไม่เป็นที่ปกติ หรือเป็นที่ครหาว่าเรียนไม่จบ ออกกลางคันค่ะ เรียกว่าธรรมดาสำหรับสังคมมากๆ)​


โดย: แก้ไขคำผิดค่ะ IP: 85.229.94.123 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:13:42:53 น.  

 
อุ๊ย คุณก๋า

ตอบฉับไว 55

หาค่าเทอมหัวหมุนๆติ้วๆเลยคร่า

ขอบคุณคำแนะนำดีดีนะคะ




โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:03:00 น.  

 
ก่อนอื่นขอบคุณคุณก๋ามากค่ะ สำหรับความรู้ และปัญญาที่คุณก๋ามอบให้
อาเมิ่งว่าไม่ว่าการศึกษาของตะวันตก หรือตะวันออกก็มีทั้งจุดดีและจุดด้อยในตัวของเขา ที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น แม้แต่ในประเทศไทยเราเอง แต่ละภาคเราก็ยังมีอุปนิสัยและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป
แต่ไม่ว่าจะเรียนแบบไหนสิ่งสำคัญที่สุด ก็เหมือนที่คุณก๋าพูดไว้ก็คือ "รู้จักตนเองไม่ต้องรบ ก็ชนะ" นั่นคือสิ่งที่เราควรเน้นมากที่สุด ก็คือ EQ หรือคุณธรรม คนที่มีความเก่งแต่ขาดคุณธรรม ก็ทำลายทั้งตนเองและทำร้ายผู้อื่น
สิ่งที่เราควรสอนเด็ก ๆ ควบคู่ไปด้วยกับการศึกษาที่พยายามพัฒนาใ้ห้คนเก่งขึ้น คือคุณธรรม และจริยธรรม
คนเก่งที่รู้จักพอ และรู้จักชนะตนเองคือคนที่มีคุณค่าต่อสังคม
ปรัชฌาเศรษฐกิจพอเพียง และคำสอนของพ่อหลวงของเรานั่นแหละที่เราควรนำมาสอนที่สุด
ถ้าไม่เชื่อพ่อ แล้วลูกจะเจริญได้อย่างไร


โดย: อาเมิ่ง IP: 118.175.19.66 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:03:05 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า มาดาม และน้องหมิงหมิง วันนี้ชอบคำตอบคุณก๋าจัง โดนใจมาก ไอ้เรื่องการท่องจำสูตรคูณ เพราะเราท่องจำมาตั้งแต่้เด็กเราจึงนึกได้จำได้ เด็กสมัยนี้จำไม่ได้ เพราะใช้เครื่องมือเช่นเครื่องคิดเลข เล็กสอนลูกให้ท่องสูตรคูณให้ฟังก่อนนอนทุกวันมาเดี๋ยวนี้เริ่มโตเวลาทำการบ้านชอบแอบเอาเครื่องคิดเลขมาเป็นตัวช่วยทุกที555 สุดท้ายเห็นด้วยอย่างยิ่งกับบรรพบุรุษเราที่นุ่งห่ม และทำที่พักอาศัยให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมหรือพื้นที่ที่อยู่อาศัยในครั้งโบราณกาล ถ้าคนไทยยังคงปลูกบ้านยกใต้ถุนสูง บางครั้งเหตุการณ์นำ้ท่วมครั้งนี้คงไม่เลวร้ายเหมือนตอนนี้นะคะ


โดย: หญิงแก่น วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:03:54 น.  

 
ผมเห็นด้วย ที่ให้เด็กกล้าแสดงออก มิใช่มิสเตอร์เยส
เซอร์. แหะ ๆ ไม่อยากจะบอกว่า หน่วยงานของรัฐ
หรือเอกชล ที่ต้องการคนแบบนี้ ว่าเข้าไปนั่น อดกัด
นิด ๆ ไม่ได้.

แต่ภูมิปัญญาของคนไทยสมัยโบราณ ดีอยู่เยอะ เป็น
สิ่งที่หาดูได้ยาก ดูแล้วทึ่ง เช่น คนไทยจะปลูกบ้านมี
ชายคายาวยื่นออกมา เพราะเป็นเมืองฝน

บ้านพื้นเมืองทางเหนือ มีหน้าต่างน้อย หลังคาไม่สูง
มากนัก เพราะอากาศมันหนาว เป็นต้นครับคุณก๋า


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:14:49 น.  

 
ทำลายระบบอาวุโสนั่นซะ

มันไม่มีประโยชน์มากนัก

เป็นโทษซะมากกว่า


หือๆๆๆemoemo


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:17:19 น.  

 
สวัสดีครับพี่หมู


ถ้าคนไทยรู้จักปรับ รู้จักเปลี่ยนในสิ่งที่ควรปรับและสิ่งที่ควรเปลี่ยน

ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรในสายตาของน้องกิจ

.
.


น่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกนะครับพี่หมู แหะๆๆๆ

อันนี้ไม่ไ่ด้ประชด
แต่เชื่ออย่างนั้นจริงๆครับ

แต่ก่อนที่จะเป็นอย่างนั้น
คงต้องแก้ที่ระบบการศึกษาของเราเป็นอันดับแรก
ตามด้วยสร้างรากฐานของครอบครัวที่ดีกว่าที่เป็นอยู่น่ะครับ

ถ้าทำได้
ผมว่าอะไรๆจะดีขึ้นแน่นอนครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:40:26 น.  

 
สวัสดีครับอาเมิ่ง



คุณธรรม และจริยธรรม

.
.


สองคำนี้เราคงต้องครุ่นคิดกันให้ดีเลยนะครับ
ว่ามันคืออะไร ?
แล้วเราจะสร้างสิ่งนี้ให้เกิดกับบุตรหลานของเราได้อย่างไร


ถ้าเรามัวแต่สร้างคนเก่งๆๆๆๆๆๆ
มันจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดหรือเปล่า
ในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:14:43:02 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

หากไม่ได้เข้ามา ต้องพลาดโอกาสอ่านบทความดีดีในวันนี้
เพราะเราลืมรากเหง้าของตัวเอง
และเลือกสิ่งที่เหมาะกับเราไม่เป็น เห็นเขาทำอะไรก็เอามาทั้งดุ้น




แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:15:48:48 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงง
คิดถึงหมิงหมิง
ลองเข้าบล็อกนี้พลางภาวนาอย่าดับๆๆๆคอมพ์จ๋าอย่าดับ


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:15:58:30 น.  

 
น้องก๋าน้ำเข้าปากเกร็ดแล้วครับ
คอนโดพี่คงไม่รอด
แม้ว่าตอนนี้หนีมาตจว.แล้ว
แต่กังวลว่าจะกลับไปทำงานไม่ได้ถ้ามันท่วมมากท่วมนาน


โดย: peeradol33189 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:16:00:27 น.  

 
สวัสดีครับน้องก๋า ค่อยๆอ่านจนจบครับผม ^^

เขียนได้ดีมากๆนะครับ สรุปได้ดีอีกด้วยครับ ชื่นชมๆครับผม ^^






โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:16:02:54 น.  

 
แวะมาจนจะเย็นแล้วค่ะคุณก๋า วันนี้เช้า ๆ วุ่น ๆ หน่อยค่ะ
ตัวเองก็เคยคิดเหมือนกับคุณคล้ายดาวนะคะ
ตอนที่กำลังตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้ลูก ตอนนั้นจะเอาลูกไปอยู่กรุงเทพฯด้วยซ้ำ
อ่านบล็อควันนี้แล้ว ตอบคำถามในใจได้หลายข้อเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

สวัสดียามเย็นเลยก็แล้วกันค่ะคุณก๋า



โดย: บ้านสีขาว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:16:18:33 น.  

 
เห็นละอ่อนบ่าเดี่ยวเฮียนแล้วอิดแตนขนาด
เห็นข้อสอบคณิตละอ่อน ป.5 ตี้เปิ้ลสอบวัดระดับอะหยังสักอย่าง
อิอิ สิบข้อผ่อแล้วปี้ยะบ่าใด้สักข้อ

emoemo


โดย: BongKet วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:16:20:40 น.  

 

สวัสดีจ้ะคุณก๋า

ไม่ได้สวัสดีกันหลายวัน หมิงหมิงก็ยังแวะเวียนไปหาป้าหนูสม่ำเสมอ...ขอบคุณครับ...

เวลาใครก่นด่าการศึกษาบ้านเราว่าไปไม่ถึงไหน ทำไมต้องเรียนประวัติศาสตร์ ทำไมต้องท่องจำ พี่ไม่ค่อยกล้าคุยกับใคร (นอกจากคนสนิทๆ กลัวจะแรง) แต่เคยคุยกับลูกว่า เพราะท่องจำไม่ใช่หรือ เราเลยจำสูตรคูณได้ มีบทอาขยานหลายบทที่ทุกวันนี้เราก็ยังนึกออก จำเรื่องได้ นี่เพราะไม่ใช่การท่องจำหรือไง หลักสูตรใหม่ที่พยายามบูรณาการทุกสิ่งอย่างลงไป เพื่อให้เด็กทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันสมัย ก็ยังต้องใช้อยู่...ไม่งั้นจะไม่ทันเค้า "เค้า" ที่ว่า ไม่รู้ใครเหมือนกัน...

บางทีเด็กๆ กล้าแสดงออกมากเกินไป..ก็เข้าใกล้คำว่า "ก้าวร้าว" เหมือนกันนะ บางทีพี่อาจจะโบราณเกินไปก็ได้...เนอะ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:16:27:46 น.  

 
การศึกษาของไทยปัจจุบันมีแต่ท่องๆๆๆ จำๆๆๆ ค่ะพี่ก๋า แม่ส้มพูดเสมอว่าไม่เหมือนสมัยก่อนที่เรียนรู้นอกสถานที่ตามคันนา ในไร่ แปลงเพาะปลูกต่างๆ บ่อปลา คือเรียนรู้และปฏิบัติไปด้วยในวิถีชีวิตที่เป็นธรรมชาติ

ส้มยังเคยสงสัยเลยว่าทำไมต้องเรียนเลขยกกำลัง เรียนรูท เรียนสูตรคณิตอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ทั้งที่ในชีวิตก็ได้ใช้แค่ + - x / เท่านั้น แล้วตัวเองก็เป็นคนที่ไม่เอาอ่าวด้านคิดเลขเลยตกตลอดเลยค่ะ จนบัดดนี้ก็ยังคงสงสัยอยู่

ยิ่งเรื่องที่ไม่เข้าใจแล้วจะให้ไปถามครูนี่ไม่เลยค่ะ เพราะเคยเจอครูสอนคณิตตอนอยู่ ม.1 บอกว่าถ้าไม่เข้าใจตรงไหนไปถามได้ พอไปถามกลับถูกครูดุว่าเมื่อกี้สอนแล้วไม่รู้จักจำไปถามเพื่อนเอง หรือเป็นเพราะส้มอยู่ห้องสุดท้ายของชั้นครูเลยไม่อยากสนใจห้องที่ว่า "บ๊วย" คะพี่ก๋า



โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:17:00:48 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกิจ&ming ming&มาดาม&ทุกๆท่านค่ะ

ส่งรูปไปให้แล้วนะคะ วันนี้ทำไมเนื้อหามันเยอะจังเหอๆ?
พี่อ่านตามและคิดตาม และก็ และ...เฮ้อเหนื่อย ตาลาย
คงต้องอ่านอีกรอบมั้งจึงจะเข้าใจ อิอิอิ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากๆ

พี่เห็นด้วยกับคุณกิจค่ะ บางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเอาแบบฝรั่งเขาหรอก เช่นการสร้างบ้าน พี่ว่าบ้านทรงไทยเรานั้นดีที่สุด เหมาะกับสภาพดินฟ้าอากาศบ้านเรา
ถึงนํ้าจะท่วม เราก็อยู่ชั้นบนได้ ซื้อเรือมาพาย ถ้านํ้ายังไม่ลด แต่ปีนี้เมืองไทยเจอหนักจริงๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เรื่องอาวุโสนี่แหละปัญหาใหญ่สำหรับข้าราชการไทย หรืองานเอกชน เพราะคนมันมีอีโก้เยอะ พี่ว่าคนใหญ่คนโตสิควรจะเอาใจลูกน้อง ไม่ใช่ให้แต่ลูกน้องเอาใจ
มีเงินเยอะอยู่แล้ว เวลาเทศกาลอะไร ซื้อของไปให้เจ้านาย ถ้าเป็นเมืองนอกเรอะ เจ้านายต้องให้ลูกน้องที่เงินเดือนน้อยกว่า ถูกไหมล่ะ? ถูกต้อง เจ้านายดีมากๆ รักนายน่ะ อันนี้อาจจะคิดต่างนิดนึงแฮ่ๆ

การท่องจำนั้นดี พี่ยังฝึกลูกพี่เสมอๆ ทั้งแบบไทยและฝรั่ง
น้องซีเก่งเลขมากที่ประถม ท่องสูตรคูณได้หมด
คะแนนท็อปตลอด ไม่เคยมีการบ้านเลย หนังสือเอามาทิ้ง
เวลาสอบเสร็จแล้ว แปลกแต่จริง พอขึ้นมัธยมต้องให้นักเรียนใช้เครื่องคิดเลข โอ้พระเจ้าจอร์ช คิดได้ไงเนี่ย?
การบ้านก็เยอะๆ เลยทำให้เด็กเบื่อการเรียน ถึงจะได้เกรดดี เค้าก็ม่อยากต่อมหาวิทยาลัยอยู่ดี อยากไปเรียนฝึกงาน ทำงาน เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลก ฯลฯ

แต่โรงเรียนก็ดีไปอย่าง ที่ให้นักเรียนคิดเป็น รู้จักแสดงออก มีความคิดเห็นส่วนตัว ให้เด็กไปฝึกงาน
ให้รู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ วันนี้ลูกพี่ก็จะ
ไปฝึกงานอีกตอนเย็นๆ รวมแล้วเกือบ2 ชั่วโมง
เขาบังคับให้ไปทุกคน ให้ได้ 20ชั่วโมง ต้องทำรายงานด้วยค่ะ อาทิตย์ที่แล้วเห็นบอกว่าสนุกมาก ได้สอนศิลปะเด็กๆ

อย่างสอนเรื่องเพศศึกษา พี่ว่ามันก็ดี ทำให้เด็กรู้ว่าควรจะป้องกันยังไง ไม่ให้ท้องในวัยเรียน และป้องกันโรคต่างๆ
เขาจะสอนการใช้ถุงยางอนามัย คือสอนทั้งเด็กผู้หญิงผู้ชาย เมืองไทยก็ควรจะสอนให้มากๆเรื่องนี้ เด็กจะได้เข้าใจ ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดปัญหาแล้วค่อยมาแก้ทีหลัง

พี่ก็ไม่ได้ตามฝรั่งเต็มร้อย คือยัง50-50 ก็เลือกเอาแต่ส่วนที่ดีๆมาปรับใช้กับลูกพี่ค่ะ เอาส่วนดีทั้งสองวัฒนธรรมมาใช้ถึงยังไงก็ยังมีความเป็นไทย ให้นอบน้อมถ่อมตน ใครๆถึงจะเอ็นดูบ้างเนาะ

สร้างคนให้เก่งมันต้องทั้งเป็นคนดีและคนเก่งในคนเดียวกัน
เป็นคนเก่งแต่เป็นคนไม่ดี ขี้โกง ก็อย่าเป็นซะดีกว่า
เป็นการประจานพ่อแม่ไปด้วย ว่าพ่อแม่สอนไม่ดี
ถ้าลูกๆดี เท่ากับเป็นการสรรเสริญพ่อแม่ไปในตัว
ได้เห็นลูก...ก็ได้ห็นพ่อแม่แล้วส่วนหนึ่ง

ขอบคุณนะคะกับคำตอบของเมื่อวานนี้...
แรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่นั้นสำคัญที่สุด
แรงบันดาลใจที่ดี มีคุณค่ากับความรักและความหลงไหล
ในงานศิลปะทุกแขนงจริงๆครับ อันนี้พี่ก็เห็นด้วยค่ะ
น้องซีเค้าก็ไม่มีครูที่สอนศิลปะให้ มีแต่เรียนรู้ด้วยตัวเอง
ถ้าเค้าได้เจอครูที่เก่งๆอย่างคุณแอนดี้ คุณเดวิด หรือคุณคันโซ่ฯลฯ ก็คงจะได้รู้เคล็ดลับของแต่ละคน

ครูที่ดี คือ ครูที่สอนลูกศิษย์ได้เก่งกว่าครู
ถ้าลูกศิษย์ไม่เก่ง พอเขาไปเป็นครู ลูกศิษย์ก็จะยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ ต้องมีใจรักในอาชีพครู จึงจะเป็นครูที่ดีและเก่ง


โดย: ชัญญา IP: 88.159.116.230 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:17:03:47 น.  

 
สวัสดีครับพี่ชัญญา


ครูที่ดี คือ ครูที่สอนลูกศิษย์ได้เก่งกว่าครู
ถ้าลูกศิษย์ไม่เก่ง พอเขาไปเป็นครู
ลูกศิษย์ก็จะยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ ต้องมีใจรักในอาชีพครู
จึงจะเป็นครูที่ดีและเก่ง


.
.
.

ถูกใจกับประโยคนี้ครับพี่ชัญญา

รวมถึงประเด็นการสอนเรื่องของเพศศึกษาในโรงเรียนด้วย

จนถึงวันนี้เราก็ยังสรุปไมไ่ด้ว่าเด็กของเราควรเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาแบบใด
และครูผู้สอนจะสอนยังไง
ถึงจะไม่เป้นการชี้โพรงให้กระรอก

หารู้ไม่ว่ากระรอกเดี๋ยวนี้ขุดโพรงจนพรุนกันไปหมดแล้ว แหะๆๆๆ


เด็กเรียนรู้ผ่านคลิปโป๊
แล้วความรักและเซ็กส์จะไปเหลือความงดงามได้ยังไง

แต่พอครูจะสอนก็ไม่รู้จะสอนยังไงถึงจะไม่เกินขีดความรู้ที่เด็กควรรู้

ผมว่านี่เป็นวิชาที่สอนยากที่สุดเลยล่ะครับ
เพราะเป็นวิชาที่เด็กก็อยากรู้มากที่สุดเช่นกัน/font>





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:18:26:10 น.  

 


โดย: uter วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:18:30:43 น.  

 
ตอบได้ใจเหมือนเคยเจ้า

แหะ แต่ว่าไอแพด ไอโฟน ไอพอด มีไว้ศึกษาหื้อฮู้
และตักตวงประโยคจากมันหนาเจ้า
แต่ยังคงความเป็นไทย คนเมือง
และเด็กบ้านนอกไว้เต็มเปี่ยม อิอิอิ

ตะก่อนปี้ปาน้องเต็นท์ปิ๊กสะเมิงบ่อยหนา
ปาไปเซาะหน่อ ปาไปถกหอม อยู่กล๋างต้ง
อยากหื้อได้สองวัฒนธรรม และความเป๋นอยู่

ตั้งแต่อัดน้องเต็นท์เรียนพิเศษ ทั้งเสาร์-อาทิตย์
บะมีเวลาทำอย่างตะก่อน น้องเต็นท์ห่างจาก
สะเมิงพอสมควร ปิ๊กสองเดือน เตื้อสองเตื้อ โดยเฉลี่ย
บะได้ปาไปทำกิจกรรมเหมือนตะก่อนเลย

แต่ก่ยังดีหนา ชอบกิ๋นไก่ป็อบ พิชซ่าขอบชีส (กิ๋นก้าขอบ 55)
แต่น้ำเต็นท์ชอบน้ำตะไคร้ที่สุด อิอิ

แต่ตั้งแต่นี้ไป ปี้คงจัดตารางหื้อน้องเต็นท์ใหม่
เป็นเรื่องหนักใจ๋พอสมควร หน้อยไปก่แย่ หนักไปก่เอ็นดู
ลองผิด ลองถูก โดยเอาน้องเต็นท์ฮับได้ว่าเจ้า
.
.

ช่วงนี้ติ๋ดต๋ามสถานการณ์น้ำท่วมใกล้ชิดเจ้า
สอยตั๋วแอร์เอเชียไว้ จะไปชะอำกันเสาร์-จันทร์นี้
อ้ายเต้ยไปถ่ายพรีเวดดิ้งหื้อเพื่อนเจ้า
หนึ่งใน 3 เพื่อนสนิทตี้นัดกัน บ้านอยุ่ในพื้นที่เสี่ยง
อดไปหนึ่งละ อีกเพื่อนหนิงอยุ่แถวปางกะปิ ยังบะมีหยัง
แต่เพื่อนหมวย ตี้จะเอารถมาหื้อตี้สนามบิน
บ้านอยู่สมุทรปราการ ยังหวั่น ๆ รอดูสถานการณ์

ซ้ำกระเตงไปกั๋นหมอ 4 คนป้อแม่ลูก บวกแม่ปี้แห๋มคน
ยังบะฮุ้ชะต๋ากรรมเลย แต่ก่แพคกระเป๋าไว้รอ 55


โดย: JinnyTent วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:19:07:08 น.  

 
สวัสดีตอนค่ำๆครับพี่ก๋าที่บ้านหนาวยังครับ


โดย: raknakubkondee วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:19:38:17 น.  

 
แวะมาเก็บรายละเอียดย้อนหลังค่ะพี่ก๋า
ตอบได้โดนใจดีจังเลยค่ะ
ได้แง่คิดดีค่ะ


โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:19:47:19 น.  

 
ตืนเต้นกับสภาวะน้ำที่กำลังไหลบ่าเข้า กทม.มากค่ะพี่ก๋า ลุ้นกัน ชม./ชม.เลย


โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:19:48:47 น.  

 
พอขึ้นต้นด้วยเรือ่งการเรียนละก็สนใจอยู่มากทีเดียวคะ

โดยส่วนตัว รู้ไว้ไม่เสียหลาย

แต่ไม่ตองมากมายขนาดท่องจำและใช้ในชีวิตประจำวัน

แค่รู้พอแก้ไขปัญหาในบางเรื่องได้ก็พอ

ถ้่ารู้จักปรับอะไรก็ลงตัว จริงมั้ยคะ


โดย: ปันฝัน วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:19:56:28 น.  

 
เรื่องเพศศึกษานี่ คนไทยเราไม่เคยพูดคุยกับลูกๆเลย
แต่มาอยู่ที่นี่พี่ได้ยินแฟนพี่เค้าสอนลูกๆทั้งคนโตและคนเล็กว่า ผู้ชายมันก็หวังอยู่อย่างเดียวนะแหละ...
ฉะนั้นอย่าไปใจอ่อนหรือยอมง่ายๆ ยิ่งถ้าผู้ชายบอกว่า
ถ้าไม่ยอมมีอะไรด้วย จะเลิกรัก เลิกคบ พ่อบอกงั้นเลิกกันตอนนี้เลย555 เพราะนั่นไม่ใช่สุภาพบุรุษตัวจริง
Gentleman be always gentleman.

พี่ว่ามันก็สอนยากเหมือนกันเนาะ เพื่อนฝรั่งบางคนเขามีลูกโตกว่า เขาเล่าว่าสอนลูกใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดด้วย
แต่ของพี่จะสอนแค่ว่า ยังเด็กอยู่ เรียนจบ มีงานทำแล้วค่อยคิดเรื่องมีแฟน ตอนนี้ไม่ต้องมีดีที่สุด รักตัวเองดีที่สุด
จะได้มีเวลาทำอะไรให้กับตัวเอง เรียนก็ยุ่งพอแล้ว
มีแฟนยิ่งจะไม่มีเวลาให้ตัวเอง เค้าก็คิดตามที่พี่พูดน่ะ

ก็ยกตัวอย่างให้ฟังเรื่องเด็กแถวบ้านยาย ยังไม่จบม.3
ท้องก็ต้องออกจากโรงเรียน แต่งงานกัน ยังไม่ได้ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่นเลย เป็นการสูญเสียโอกาสดีๆในชีวิตไป
เรื่องของคนอื่น...บางทีก็ให้แง่คิดและประสบการณ์ที่ดีกับเราได้ ทำให้เขาคิดดีๆทำแต่สิ่งที่ดีๆ บุหรี่นี่จะไม่สูบเลย

เวลามีใครมาส่งที่บ้าน พี่จะถามใช่เป็นเพื่อนหรือแฟน?
เค้าจะตอบว่าเป็นเพื่อนในห้องเฉยๆ เมื่อก่อนเคยมีคนชอบ
เรียนเทควันโดเหมือนกัน แต่ว่าอยู่ห่างกันตั้ง75 กิโลเมตร
ตอนนี้ยิ่งไม่ได้เจอกันเลย คงเป็นแค่เพื่อนธรรมดาไปแล้ว555 รักในวัยรุ่นเนาะ คงไม่ยั่งยืนหรอก เดี๋ยวก็ลืม

เรื่องมีอะไรกันนั้น ลูกพี่ยังไม่มีหรอก เพราะเค้าจะเชื่อพี่มากๆและเป็นคนขี้อาย เขาจะเล่าให้ฟังหมดทุกเรื่องเลย
และบอกว่ายังไม่อยากมีแฟนตอนนี้ คิดจะเป็นโสดด้วย
ไม่อยากมีลูก เขากลัวเลี้ยงได้ไม่ดี อยากไปเที่ยวรอบโลก

วันหน้าเขาโตกว่านี้อาจเปลี่ยนความรู้สึกก็ได้ ถ้าเจอคนที่ดีและเหมาะสมกับตัวเค้าเนาะ อายุยังน้อยอยู่ ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ถ้าเราดีซะอย่าง แฟนน่ะหาไม่ยากหรอกเนาะ 555

มีหนังสือวัยรุ่นที่เขาอ่าน มีถามตอบปัญหาเรื่องที่วัยรุ่นอยากรู้ รวมถึงเรื่องเซ็กซ์ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสียในนั้น
ถ้าเด็กไม่อยากรู้อยากลอง มันก็ไม่มีปัญหาอะไร
เวลาเค้าอ่านแล้วมาเล่าให้ฟัง บางทีก็อิ๋วๆ คือไม่ชอบ
เด็กบางคนติดโรคด้วย แต่ไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ต้องรักษา
และป้องกัน คือมันก็สอนไปในตัว ถ้าเรามองในแง่ดี

ลูกผู้ชายพ่อควรสอนลูกไม่ให้ไปรังแกเพศที่อ่อนแอกว่า
รวมทั้งไม่ควรไปทำลายความบริสุทธิ์ของหญิงสาวถ้าไม่รัก
อาจจะโบราณไปหน่อยสำหรับพี่ จะมีอะไรกับใครควรใช้
ถุงยางอนามัย จะได้ปลอดภัยทั้งสองฝ่าย อย่าคึกคะนองอย่างเดียว อย่าคิดว่ามันคงไม่เกิดกับเราหรอก

โรคหลายๆโรคมันติดต่อและแพร่ถึงกันได้หลายทาง
รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ก็ทำให้ได้รับเชื้อที่ไม่พึงปรารถนา
พวกที่ติดโรคได้ง่ายๆ เพราะอะไร? เพราะมั่ว มากคู่ครอง
ไม่มีการป้องกัน ถุงยางอนามัยถึงมันช่วยไม่ได้100%
แต่มันก็ป้องกันได้ดีกว่าคนไม่ได้ใช้ ยิ่งคนที่เปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ นั่นเสี่ยงกว่าคนอื่นๆเลย

พี่ว่าเด็กผูู้หญิงคงไม่อยากรู้อยากลองเท่ากับเด็กผู้ชายมั้ง?
ถ้าเด็กผู้ชายไม่มีความต้องการ ไม่เป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน
ฝ่ายหญิงคงไม่อยากเริ่มก่อน อันนี้คิดแบบตัวพี่เองเป็นหลัก555 ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกค่ะ หุหุหุ
แต่นี่มันไฮเทคไปแล้ว อะไรก็ฉุดไม่อยู่เนาะทั้งชายหญิง


โดย: ชัญญา IP: 88.159.116.230 วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:20:11:38 น.  

 
สองทุ่มแล้ว .. เป็นเวลามืดๆ แบบหวั่นๆ ของชาวกรุง
ที่ตอนนี้กำลังหวาดระแวงกันว่าน้ำจะมาหรือเปล่า
แล้วจะมาตอนเราพร้อมหนีหรือเปล่า ..

แงๆ ขนาดฟังข่าวยังปวดตับ
แต่คนที่เจอยิ่งกว่านะค่ะ งานนี้ต้องการ
กำลังใจและแรงกายอย่างแรงเลย


โดย: JewNid วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:20:22:00 น.  

 
แวะมาโหวตให้คุณก๋าค่ะ ช่วงนี้หายไปที่ละนานเลย เพราะเทศบาลต้องตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยค่ะ ฝากความคิดถึงน้องหมิงด้วยนะคะ

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: poepum วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:20:43:14 น.  

 
จองตั๋วล่วงหน้าไว้เมินละเจ้า
บ้านพักก่จองไว้แล้ว

ได้ก้ารออย่างเดียว สองจิตสองใจเหมือนกั๋น
รอจ๋นวินาทีสุดท้ายนะ ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปบะได้
รถบะมีหื้อใจ๊ ก่อาจจะบะไป
น้องแต๊งค์หน้อยเกินกว่าจะลุยเจ้า


โดย: JinnyTent วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:07:05 น.  

 
แวะกลับมาโหวตค่ะพี่ก๋า
เมื่อตอนเย็นๆเน็ตอืดมากมาย
ปุ่มโหวตไม่ยอมขึ้นให้ เลยกดโหวตไม่ได้
แหะๆๆ เลยพยายามกลับมาอีกครั้ง สำเร็จแล้วค่ะ อิอิ

กะว่าก๋า Diarist ดู Blog


โดย: ดอกหญ้าหน้าบ้าน วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:12:24 น.  

 
emoemoemo

รู้สึกดีกับคำตอบของคุณก๋าอีกแล้ว


โดย: เหมือนพระจันทร์ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:16:01 น.  

 
พูดได้ดีเลยคุณก๋า กดให้เลย :)) ... ตรงใจที่สุดคือเรื่องท่องสูตรคูณนี่แหละ
ยังไงพี่ก็ให้เครดิตการท่องจำแบบบ้านเรา ... พี่ก็ไม่รู้นะว่าเด็กเด็กตะวันตก ในโรงเรียนเขาสอนเด็กให้คิดกันยังไง .. ลูกตัวเอง พ่อเขาก็สอน ตะกี๊ เลยลองถามลูกว่าลูกคูณเลขในใจยังไง อย่าง 92 x 11 เขาบอกง่ายมาก ก็เอา (10 x 11) x 9 + (2 x 11) คำตอบ คือ 1012

ถามว่าคิด 110 x 9 ยังไงให้เร็ว เขาก็บอก ว่า (100 x 9) + (10 x 9) = 990 ... แล้วก็เอามาบวกกับ 22 คำตอบคือ 1012 ... ถามมาอีกซิแม่ น้าน ... เดี๋ยวขอแม่เช็คคำตอบด้วยเครื่องคิดเลขก่อนนะ


โดย: Tristy วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:21:12 น.  

 
สวัสดีเจ้าป้ออุ้ยก๋า ต๋อนนี้หนูเปียกปอนมากมายแต่ก็ต้องยอมปั่นรถถีบฝ่าฝนมาใช้เน็ตต่อที่ร้านควิก ไหน ๆ ก็ออกมาแล้ว

เห็นด้วยที่ว่าการท่องจำก่อมีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะตอนเฮาเป็นละอ่อนน้อย ๆ เวลาเป็นละอ่อนเฮาก่ออยากแค่เล่นไปวัน ๆ บ่าอยากเจ้าใจ๋อะหยั๋งตี้มันยุ่งยากซับซ้อน เลยต้องถูกบังคับหื้อท่อง หื้อฮ้องกอไกถึงฮอนกฮูกกับเอทูแซ่ดเป็นเพลง บ่าว่าจะระบบไหนถ้าผ่อหื้อถูกตางใจ้หื้อเป็นประโยชน์ก่อดีตึงนั้นเน๊าะ


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:26:08 น.  

 
สวัสดีคะพี่ก๋า

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยคะ

จริงๆ แล้วก็ไม่ควรรับของเค้ามาทั้งหมด

ควรนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบ้านเราจะดีกว่า

เชียงใหม่ ลมหนาวเริ่มมารึยังคะ

ศรีราชา ช่วงเช้าเริ่มเย็นๆ แล้วนะคะ


โดย: strawberry banana&cream วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:30:33 น.  

 
หนูว่าไม่มีปัญหาหรอก เพราะ รร ที่้สอนแบบนั้นส่้วนใหญ่เป๋็น รร อินเตอร์ เด็กที่จบหมดค่าเทอมเป๋็นล้านคงไม่มีใครคิดรับราชการเอาเงินเดือนแปดพันแน่


โดย: น้องผิง วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:34:51 น.  

 
พี่ชัญญาครับ

ต้องบอกว่าพี่โชคดีมากเลยครับ
น้องซีก็เติบโตมาในครอบครัวที่สอนได้ดีมากๆ

ความจริงผมมองว่าเรื่องเพศศึกษาเป็นเรื่องปกติมากในบ้านเรา
แต่พอเราไปปกปิดมากเท่าไหร่
เด็กก็ยิ่งอยากรู้
พออยากรู้แต่ไม่มีคนแนะนำ
เลยไปจำต้นแบบผิดๆ
ไปทดลองกันเิองโดยไม่มีความรู้

การมีเซ็กส์ด้วยสัญชาติญาณ
ผมว่ามันเหมือนกับคนที่ขับรถไม่เป็น
แต่ดันไปขับรถสปอร์ตบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์
โอกาสเกิดอุบัติเหตุโดยไม่คาดฝันมันมากเหลือเกินครับ

วินาทีนี้สังคมที่เปิดกว้างของไทย
เรื่องเซ็กส์กับวัยรุ่น
ไปไกลเกินกว่าคนรุ่นเราจะจินตนาการถึงแล้วครับ

ตอนนี้ผู้หญิงคงไม่คิดว่าเสียเปรียบได้เปรียบแล้วล่ะครับ แหะๆๆ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:38:50 น.  

 
สวัสดียามค่ำครับคุณก๋า


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:39:03 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า


โดย: Insignia_Museum วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:21:58:10 น.  

 
ปิ๊กก่อนเน้อปี้ก๋า เสื้อเริ่มชื้นซึมเข้าเนื้อละ ฮ่า ๆๆ กำเดียวจะบ่าสบายเอาแต้ ๆ ถ้าบ่ายุ่งนักเดี๋ยววันพูกมาใหม่


โดย: prunelle la belle femme วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:22:25:17 น.  

 
สวัสดียามดึกครับพี่ก๋า

ผมคิดว่า องค์การศึกษาคงคล้ายๆ กัน
แต่การนำมาประยุกต์ใช้ ประยุกต์สอนคงแล้วแต่พื้นที่นะครับ สอนให้เหมาะกับพื้นที่

อย่างถ้าไปสอน เศรษฐศาสตร์ ให้ คนอยู่ในป่า
ก็คงต้องสอนให้เหมาะสมกับการอยู่ป่า





โดย: กลิ่นดอย วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:22:31:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ

วันนี้พี่เป็นครูเด็กประถมแล้ว..

การเรียนการสอน ยึดแบบฝรั่ง ก็คงจะยังไม่ได้

แต่ก็ไม่นิยมชมชอบที่จะให้เด็กท่องจำนะคะ

การเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ควรเิริ่มจากครอบครัวเลยล่ะค่ะ

เิริ่มจาก คุณครูคนแรกของเด็กเลยค่ะ...



โดย: LoveTurJang วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:22:39:48 น.  

 
สวัสดียามดึก


เฮ้ออ อยากให้ผู้มีอำนาจในเมิองไทยมาอ่านบทความนี้มั่งการศึกษาไทยจะได้ขึ้นกว่านี้


ไปนอนล่ะค่ะ วันนี้ง่วงมากZZZZZZ....zzzzz


โดย: คล้ายดาว วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:22:58:32 น.  

 
ยังไม่นอนเลยพี่ก๋า

นั่งติดตามข่าวน้ำท่วมอยู่ครับ
เป็นห่วงพี่สาวที่อยู่บ้านกทมคนเดียว
ลุ้นๆ อยู่เหมือนกันครับ เลยนอนมะหลับซะแล้ววันนี้ อิอิ
ชักเริ่มเข้าใจ พ่อแม่แล้วครับ ว่าทำมั๊ย ทำไม ท่านห่วงเราจริงๆ....

เพราะท่านรักเรานี่เอง

มาเข้าใจเมื่อเราเป็นคนห่วง เองบ้าง




โดย: กลิ่นดอย วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:23:05:25 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณก๋า ครับ
ภูมิปัญญาของคนไทย กับ แนวคิดการศึกษาตะวันตก
หากคนที่นำมาต่อยอด รู้เรื่องทั้งสองนี้เป็นอย่างดี
ผมเชื่อว่ามีแต่ประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังครับ


โดย: ถปรร วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:23:13:31 น.  

 

ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่กะก๋า
กำลังเตรียมตัวเดินทาง
แอบคิดว่าขากลับจะลงสุวรรณภูมิได้มั้ย


โดย: TheKPP วันที่: 19 ตุลาคม 2554 เวลา:23:32:06 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า ในมุมมองพี่แล้วการศึกษาไทยในปัจจุบันเองก็ปรับใช้แบบผสมผสานทั้งไทยและตะวันตกมาตั้งนานแล้ว ซึ่งมันก็ขึ้นกับโรงเรียนอีกว่าต้องการเน้นและจะเป็นแบบไหน ถ้ามองเด็กใน กทม. และเด็ก ตจว. แล้ว มีความแตกต่างกันมากเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับ่วาเราจะใช้เกณฑ์อะไรในการวัด เด็ก กทม.เอาตัวรอดได้เก่ง กล้าพูด กล้าแสดงออก แต่เด็ก ตจว. อาจะมีความอ่อนน้อม ถ่อมตน เลยไม่ค่อยกล้าพูด/บอกกับผู้ใหญ่ว่าตนเองต้องการอะไร

พี่เองทำงานกังองค์กรต่างชาติ หลายอย่างพี่ก็ชอบกับการทำงานแบบนี้ คือให้เรากล้าพูด กล้าแสดงฝีมือเต็มที่ ไม่ต้องคำนึงถึงความเป็นอาวุโสค่ะทำให้เราได้แสดงฝีมือเต้มที่ แต่เราเองก็ต้องสอนให้ฝรั่งเข้าใจวัฒนธรรมไทย และการทำงานกับคนไทย ซึ่งการผสมผสานการทำงานหรือการเรียนแบบไทยและตะวันตกด้วยกันก็จะเป็นประโยชน์กับเด็กมากที่สุด


โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:0:07:37 น.  

 
เข้ามาขอบคุณพี่ก๋า่มากๆๆๆ เลยนะคะ ที่คอยช่วยเหลือกัน คอยตรวจทาน วิจารณ์สร้างสรรค์งานให้ :D

ตอนนี้เดินมาได้เพิ่มอีกก้าวหนึ่งแล้ว...

เป็นกำลังใจให้ป๊อบด้วยนะคะพี่ก๋า
และจะขอยึดพี่ก๋าเป็นที่ปรึกษาต่อไปนะคะ ฮ่าๆๆ


โดย: onedermore IP: 110.49.250.204 วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:0:45:46 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ก๋า ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมหาเสียนาน หวังว่าคงยังไม่ลืมกันไปนะคะ

บล็อคนี้ คำตอบของพี่ก๋า เป็นสิ่งที่โนใจมากมายในขณะนี้ ที่ต้องเจอะเจอกับปัญหาเรื่องช่องว่างทางการศึกษา ระหว่างคนรุ่นเรา ๆ (ขอเหมาว่าเรา ๆ แล้วกันเน๊อะ) เพราะเชื่อว่า วิธี วิถี และแนวคิดทางการศึกษาในสมัยนึง ใกล้เคียงกัน พูดภาษาเดียวกนอยู่บ้าง ยังไม่ได้ก้าวกระโดดเหมือนเดี๋ยวนี้ อยากจะบอกว่าตอนนี้ แทบจะต้องไปนั่งเรียนกับหลาน ๆ กันใหม่เสียเลย กว่าจะมาสอนการบ้านเขาได้รู้เรื่อง เพราะมีการเปลี่ยนวิธีในการถ่ายทอด วิธีคิด และแนวทางกันใหม่ จนเราคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ซึ่งบางทีก็แทบจะกรี๊ดในออกมาว่า บ้าไปแล้ว แค่การบ้านเลขเด็กป.1 ทำไมเราถ่ายทอดให้เขา เขาไม่เก็ทเลย ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่เด็กเดี๋ยวนี้ ต้องมีแอสเซสเซอร์รี่เสริม ต้องมีลูกคิดรางเล็ก ต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือ(ทีมันไม่น่าจะจำเป็น ในสมัยเราที่เราก็อยู่กันมาได้ เรียนกันมาได้)

เล่นเอากลุ้มไปเลยทีเดียว ไม่ทราบพี่ก๋าเจอปัญหานี้กับน้องหมิงหมิงไหมคะ พอเด็กทำการบ้านแบบที่เราสอนไม่เข้าใจ แกก็จะเล่นๆๆ ไม่สนใจ พอไปเรียนก็สมาธิสั้นอีก เพราะทุกอย่างไวไปหมด เร้าและกระตุ้นให้เด็กเร็ว ๆ ๆ ดึงดูดความสนใจจนทำอะไรได้ไม่นาน ซึ่งคิดว่าในอนาคต คงเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอนเลย เฮ้ออออ...


โดย: คมไผ่ วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:1:19:37 น.  

 
เรื่องนี้ยาว ถ้าจะให้ถก เคยมีนักวิชาการ/ครูภาษาไทย/นักเขียน ตั้งคำถามว่า

"จะเรียนภาษาไทยให้เก่งไปเพื่ออะไร" ในวันภาษาไทยแห่งชาติ น่าคิดนะครับพี่ก๋า เด็กไทยสมัยนี้พิมพ์ไม่ค่อยจะถูกหรอก พิมพ์ผิดยอะ ซึ่งเราก็ไม่อาจทราบได้ว่าตั้งใจ หรือเขาพิมพ์ผิดเพราะไม่ทราบ

ผมมองว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นค่านิยมของสังคมไทยที่ยากจะเยียวยา ตัวอย่างเช่นการเรียนภาษา ถามว่าเรียนกับครูไทย หรือฝรั่งดีกว่ากัน คำตอบที่ผมได้คือ ดีคนละแบบ และถ้าจะให้ดีควรเรียนแบบผสม คือทั้งครูไทยและฝรั่ง นอกเสียจากว่าฝรั่งคนนั้นเข้าใจภาษาไทยอย่างลึกซึ้ง อันนั้นถือเป็นกรณีพิเศษ

คงไม่มีอะไรดีที่สุดในโลกนี้ หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่มีอะไรเพอร์เฟ็ค เพราะสิ่งที่เพอร์เฟ็คมันคือสิ่งที่ไร้ค่าที่สุด เพราะไม่เพอร์เฟ็คนี่แหละถึงได้พัฒนาได้ เพราะไม่เพอร์เฟ็คนี่แหละถึงได้ทำให้มันดีขึ้นได้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:1:32:42 น.  

 
ต่ออีกนิดเรื่องเรียนภาษาไทย

ที่พวกนักวิชาการ/ครูภาษาไทย/นักเขียน พูดแบบนั้นเนื่องมาจากปัจจุบันสมัครงานหรือทำอะไรก็แล้วแต่ภาษาไทยแทบจะไม่สำคัญเลย สนแต่ภาษาที่สองที่สาม

ผมเคยนั่งฟังอาจารย์แม่พูด ท่านพูดเกี่ยวกับภาาไทย P' คือ พี่ แล้วถ้า P'อ ไม่ใช่พ่อเลยเหรอ ท่านด่าได้แรงมาก แต่ท่านพูดทิ้งท้ายได้น่าสนใจว่า "สิ้นภาษาคือสิ้นชาติ" นอกเรื่องไปหน่อยไม่ว่ากันนะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:1:35:48 น.  

 
อรุณสวัสดิ์เจ้าอ้ายก๋า น้องหมิงหมิง มาดาม
เรื่องหลักสูตรการศึกษาของไทย เป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงหื้อเข้ากับ สิ่งแวดล้อม ทุกด้านของไทย
เห็นตวยอ้ายก๋า ทุกประการเจ้า..

ขอบคุณเน้อเจ้าสำหรับคำตอบเรื่อง โกอาน..
emoemo


โดย: Mein Schatz วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:3:41:45 น.  

 
ไม่ได้เกลียดเฮียมูรินโญ่นะคะ
ชอบวิธีการคิด หลาย ๆ อย่างก็ยังเห็นด้วยกับเฮียอยู่ค่ะ
ถึงจะปากจัดไปนิดก็เถอะ

++

วันนี้อัพบล็อกใหม่ คิดถึงพี่ก๋า
เลยแวะมาส่งข่าวแต่ไก่โห่ค่ะ


โดย: ostojska วันที่: 20 ตุลาคม 2554 เวลา:4:44:46 น.  

 
สวัสดีคะ พี่ก๋า ว่างเอาวิชาเกินมาสอนกันมั่งนะคะ


โดย: saaikaew IP: 192.168.1.116, 124.121.58.99 วันที่: 23 ตุลาคม 2554 เวลา:18:11:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]