:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณคล้ายดาว ::






จิตเดิมแท้ คือ จิตที่หมดกิเลสกระนั้นหรือ ?


แล้วกิเลสคืออะไร?



ในความคิดฉัน กิเลสคือ อารมณ์ ที่คอยชี้นำความต้องการ

เพื่อกระตุ้นให้ชีวิตของเรา ดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด


ซึ่งน่าจะรวมถึง sex ด้วย ( นับ sex เป็นกิเลสมั้ย?)


ในเมื่อกิเลส คือสิ่งที่บ่งบอกการมีชีวิตในโลกใบนี้
แล้วกิเลส คือสิ่งเลวร้ายหรือ
ถึงต้องไล่ไปจากจิตให้หมด?

แล้วแทนที่จะไล่ไป
ทำไมถึงไม่เปลี่ยนมาเป็น
การเรียนรู้ที่จะอยู่กับกิเลสอย่างมีความสุขล่ะ





คำถามโดย : คล้ายดาว
วันที่ : 24 สิงหาคม 2554
เวลา : 18:04:58 น.























ผมมองกิเลสเป็นเพื่อน
ไม่ว่าจะรักหรือเกลียดเพื่อนคนนี้
เขาก็ต้องอยู่กับเราไปจนเราดับสิ้นชีวิต


รถยนต์หนึ่งคัน
ถ้าเรายืนมองดูโดยพิจารณาอย่างถ่องแท้
มันเป็นรถยนต์ขึ้นมาได้
เนื่องจากมีส่วนประกอบต่างๆกัน
มีล้อ ยาง เกียร์ ถังน้ำมัน กระจกหน้าหลัง พวงมาลัย
คันเร่ง ระบบไฟฟ้า เครื่องเสียง ฯลฯ



ถ้าเราแยกส่วนประกอบออกมา
แล้วหยิบมาพิจารณาทีละชิ้น

นั่นย่อมไม่ใช่ “รถยนต์”...





เช่นเดียวกัน...เมื่อมองเข้ามายังร่างกายของเรา
นั่นย่อมหมายถึงการประกอบขึ้นมาของธาตุ
เซลล์ และส่วนประกอบต่างๆมากมาย
เช่น ตา หู เลือด หนอง ตับ ไต ไส้ พุง กระดูก ฯลฯ


ถ้าเรามี “ดวงตา” เพียงอย่างเดียว นั่นย่อมไม่เรียกว่า “ชีวิต”
แต่ชีวิตที่ไร้ดวงตา ยังสามารถเรียกว่า “ชีวิต” ได้


ชีวิตประกอบไปด้วยส่วนประกอบต่างๆมากมาย
รถยนต์ก็เช่นเดียวกัน
แม้จะมีส่วนประกอบที่ครบครันหรือขาดตกบกพร่องไปบ้าง


แต่รถยนต์คันหนึ่งจะวิ่งแล่นไปได้
ย่อมต้องมี “น้ำมัน” เป็นพลังงานขับเคลื่อน

“กิเลส” ก็เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนชีวิต















ทุกวันนี้เรามีคำสอนให้ตัดกิเลส
ให้หนีกิเลส ไกลห่างจากมันได้ไกลเท่าไหร่ยิ่งดี
บ้างบางคำสอนไปไกลถึงให้อยู่เหนือกิเลส อยู่เหนือดีเหนือชั่ว




แต่รถคันละร้อยล้านก็ไร้ความหมาย
ถ้าไม่มี “น้ำมัน” เป็นตัวขับเคลื่อน

มนุษย์ผู้ถูกสร้างขึ้นมาให้มี “ความอยาก”
เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนชีวิตก็เช่นเดียวกัน
เมื่อใดที่ไร้กิเลส เขาย่อมไม่ต่างอะไรจากก้อนหินก้อนหนึ่ง
ที่นิ่งสงบงันและใช้ชีวิตไปโดยแห้งแล้งขาดชีวิตชีวา














สิ่งสำคัญคืออย่าเติมน้ำมันจนล้น
อย่าเติมความอยากเข้าสู่ชีวิตจนไม่สามารถควบคุมมันได้

ความอยากในระดับที่ควบคุมได้
เป็นตัวยั่วให้เราคิดขยับและปรับเปลี่ยนตนเอง
เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการพัฒนาในสิ่งต่างๆ
ทั้งด้านวิทยาการและการใช้ชีวิต


ความอยากก้าวหน้า เซ็กส์ เงินทอง ชื่อเสียง
ตำแหน่งแห่งหนในหน้าที่การงาน ความรัก ความหวัง
การได้ครอบครองสิ่งต่างๆ
ฯลฯ


เหล่านี้แม้เป็นกิเลส
แต่มันมีแง่มุมทั้งในเชิงบวกและลบ
มีทั้งทำให้ชีวิตเติมเต็มและขาดพร่อง

อยู่ที่เราจะ “รู้ทัน” สิ่งที่เขามากระทบกับความคิดของเราหรือไม่
อยู่ที่เมื่อเราได้มันมา
แล้วเราทำใจยอมรับในวันที่ต้องเสียมันไปหรือไม่
อยู่ที่เรารู้ทันสิ่งที่เรารู้หรือเปล่า ว่าทุกสิ่งที่เราครอบครอง
ไม่มีอะไรเลยแม้แต่สิ่งเดียวที่เป็นของเราอย่างแท้จริง














หลายคนปฏิบัติธรรมเพื่อให้ชีวิตตนเองสะอาดและหมดจด
เคร่งครัด เคร่งเครียดจนลืมไปว่า

ร่างกายมนุษย์นั้น
นอกจากประกอบไปด้วยเซลล์ต่างๆมากมาย
ยังประกอบไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ

วันใดที่เรา “ขจัด” และ “ปราบ” เชื้อโรคในตัวเราจนหมด
ร่างกายเราจะอ่อนแอเพราะขาดภูมิต้านทาน
เซลล์ต่างๆที่เสื่อมสลายไปจะไม่ถูกสร้างเสริม
และเซลล์เก่าที่มีอยู่จะหยุดนิ่งและไม่พัฒนาตนเองอีกต่อไป...

นี่คือ สิ่งที่ธรรมชาติสร้างเอาไว้
เพื่อให้ชีวิตมนุษย์นั้นมีความสมดุล















กิเลสเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิต
ทำให้เราอยาก ---
แม้ความอยากจะทำให้เราเหนื่อย ต้องดิ้นรน
เสาะแสวงหาสิ่งต่างๆเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ชีวิต
แต่นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ชีวิต














รถยนต์มีหน้าที่ต้องเดินทาง
ชีวิตมนุษย์มีหน้าที่ต้องทำ

เราเกิด เรากิน เราเติบโต เราทำงาน
เราเรียนรู้ เราสืบพันธุ์ และเราตาย
ไม่มีช่วงไหนในชีวิตที่กิเลสไม่ทำงาน


ขอเพียงเรารู้ทันกิเลส
ขอเพียงเราอยู่ร่วมกันมันอย่างเข้าใจและรู้ทัน

เป็นนายมัน --- อย่าให้กิเลสครอบงำชีวิตเราในทุกวินาที
แพ้บ้าง ชนะบ้าง เรียนรู้จากกิเลส
เอากิเลสเป็นครู


กิเลสก็จะกลายเป็นสิ่งที่มีทั้งคุณประโยชน์และโทษในตัวมันเอง













เซ็กส์เป็นกิเลสไหม ?

ผมว่าเป็นครับ...
เป็นกิเลสที่ผ่านได้ยากเสียด้วย

ธรรมชาติสร้างเซ็กส์ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างเผ่าพันธุ์
แต่ใครจะไปคิด...
ทุกวันนี้เซ็กส์ไปไกลเกินกว่าที่คนจะจินตนาการถึง
มันจึงมีทั้งด้านที่งดงามสุขสมและด้านที่หดหู่หม่นทึบ
ด้านที่ร้าวรานเจ็บปวดและด้านที่เร่าร้อนทุรนทุราย

แต่ต่อให้ลุ่มหลงมัวเมาในเซ็กส์ยังไง
คงไม่มีใครคิดจะตกเป็นทาสมันไปตลอดกาล


กินข้าวด้วยกับข้าวเดิมๆที่ว่าอร่อย
กินทุกวันก็เบื่อ

ทำงานซ้ำๆเดิมๆหลายปี ยังหน่าย

นับประสาอะไร..

สาวสวย ... สวยยังไงวันหนึ่งก็เหี่ยวเฉาโรยรา
หนุ่มหล่อกล้ามโต แก่มาทุกส่วนล้วนแห้งเหี่ยวไม่น่ามอง



ถ้ามองเห็นแต่เซ็กส์
คงยากจะมองเห็นความรัก


เหมือนกับรถที่ไม่มีน้ำมัน
ต่อให้รถสวยยังไงคงไม่น่าขับ
















สำหรับผมแล้ว
กิเลสเป็นครูครับ
และเราต้องอยู่กับครูคนนี้ไปอีกนาน

เป็นสิ่งดีแน่ๆที่เราจะรู้จักครูให้มากขึ้น
รู้ทันครู ไม่ถูกครูคนนี้ครอบงำ
และบังคับบัญชาชีวิตให้ต้องดิ้นไป
ตามทางแห่งการเสาะแสวงหาครอบครอง
จนชีวิตเหน็ดเหนื่อยและเป็นทุกข์


ส่วนใครจะเจอหนทางไหน
ในการอยู่ร่วมกับกิเลสได้อย่างพอดี
ไม่เหนื่อยหน่ายกับชีวิต
และไม่เพิกเฉยกับความสวยงามที่มีของชีวิต



คงต้องค้นคิดหาหนทางของตนเองต่อไป

Create Date : 18 เมษายน 2555
Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 7:19:58 น.		82 comments
Counter : 1323 Pageviews.
Share Tweet