:: VIEW Share บน Wheelchair ::
:: VIEW Share บน Wheelchair ::
10 ธันวาคม 2553
ผมพยายามรีบป้อนข้าวหมิงหมิงให้เสร็จก่อนบ่ายสองโมงครึ่ง เพื่อจะไปร่วมงานเปิดตัวนิทรรศการภาพถ่าย VIEW Share ของน้องโสภณ ฉิมจินดา
เมื่อไปถึงสุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์น้องโสภณและอาจารย์ประมวล เพ็งจันทร์ ได้เริ่มต้นการพูดคุยกันไปแล้ว.... ผมหยิบกล้องมาเริ่มต้นถ่ายภาพน้องโสภณบนเวที และหูก็ฟังอย่างตั้งใจกับทุกประโยคที่น้องโสภณได้พูดบนเวที
โดยความสัตย์จริง ผมไม่มีข้อมูลอะไรมากนักเกี่ยวกับตัวน้องโสภณ น้องเป็นบล็อกเกอร์คนหนึ่งในบล็อกแก๊งค์ เมื่อได้รับคำเชิญชวนจากน้อง ผมยังลังเลว่าจะไปร่วมงานดีหรือไม่ เพราะวันศุกร์ผมต้องทำงานตามปกติ แล้วการพาหมิงหมิงไปด้วย โอกาสนั่งฟังดีดีไม่มีหรอกครับ 555 ต้องวิ่งไล่จับกันทั่วงานแน่ๆ (งานนี้ภาระหนักเลยตกเป็นของมาดามไปครับ 555)
แม้จะต้องเดินเข้าๆออกๆนอกห้องแสดงผลงาน แต่หลายประโยคที่น้องโสภณพูดบนเวทีก็จับจิตจับใจเหลือเกิน
ผมชื่นชมทัศนคติของน้องโสภณมากครับ
น้องเดินทางท่องเที่ยวและถ่ายภาพ แม้จะต้องนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ตลอดเวลา แถมวิธีการที่เลือกใช้ในเดินทางท่องเที่ยวยังเลือกวิธี “โบกรถ” ซึ่งไม่ง่ายเลยกับการเดินทางด้วยวิธีนี้ แต่น้องโสภณก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ถ้าเราจะทำ
ประโยคบนเวทีที่น้องโสภณพูดว่า
“ถ้าผมหรือคนพิการต้องรอให้สถานที่ท่องเที่ยว มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการก่อน แล้วค่อยไปเที่ยว ผมคงไม่ต้องไปเที่ยวที่ไหนกันพอดี”
ประโยคแบบนี้ล่ะครับที่จี๊ดเข้าไปที่ใจผม หลายครั้งอยากไปเที่ยว แต่ก็กลัวความไม่สะดวกสบายต่างๆ จนที่สุดความอยากเลยกลายเป็นข้อเรียกร้อง จนทำให้ไม่ได้เดินทางไปไหนสักที
หรือ แนวคิดที่น้องโสภณบอกว่า
“ผมใช้ความเห็นแก่ตัวของผม ร้องขอให้เซเว่นในหมู่บ้าน ช่วยทำทางลาดให้คนพิการ ร้องขอให้ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำ ช่วยขยับขาโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการ ตอนนี้เซเว่นในหมู่บ้านทำทางลาดให้แล้ว ผมจะเรียกร้องไปที่เซเว่นเพื่อขอให้ทำทางลาดทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนพิการทุกคน”
วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้ร้องขอ “การช่วยเหลือ” แต่เรียกร้อง “การอำนวยความสะดวก” เพื่อให้คนพิการได้ช่วยเหลือตัวเอง....
จิตใจแบบนี้ไม่เรียกว่า “ความเห็นแก่ตัว” หรอกครับน้องโสภณ แต่เป็นจิตใจที่คิดถึงผู้อื่นก่อนคิดถึงตัวเองต่างหาก....
ผมเดินดูภาพถ่ายของน้องโสภณไปด้วยความชื่นชม ภาพสวย แต่ที่มาของภาพแต่ละภาพงดงามกว่า ลองนึกถึงวินาทีที่เราจะต้องถ่ายภาพๆหนึ่ง ซึ่งนอกจากต้องรอเวลา ต้องเลือกมุมถ่ายภาพ ซึ่งต้องทำงานแข่งกับเวลา อย่างเช่น ภาพพระอาทิตย์อาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน น้องโสภณยังสามารถเก็บภาพความงดงามนั้นได้หลายต่อหลายภาพ
น้องบอกกับผมว่า
“ไม่ง่ายเลยครับพี่ก๋า ที่ผมจะขยับที่เพื่อหามุมถ่ายภาพ”
แต่หลายภาพจากงานนิทรรศการนี้ แสดงให้เห็นว่า น้องโสภณอยู่ “ถูกที่ ถูกเวลา” จริงๆครับ และนี่เป็นคุณสมบัติของช่างภาพผู้มากความสามารถ...
ผลงานภาพถ่ายบางส่วนฝีมือของน้องโสภณครับ
ผู้ฟังในงานวันนั้นมีไม่มากนัก แต่ผมเชื่อว่าทุกคนที่นั่งฟัง ล้วนตั้งใจฟังอย่างจริงจัง เกินครึ่งในห้องนั้นเป็นผู้พิการ และผมเชื่อเหลือเกินว่า ทุกคำถาม-คำตอบที่น้องโสภณพูดไว้ในห้อง จะจุดประกายและทำให้คนพิการที่ยังท้อแท้ใจ ได้ลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆอย่างกล้าหาญอีกครั้ง
และทำให้ความพิการทางกายเป็นเพียง “ความไม่สะดวกเล็กๆน้อยๆ” แทนที่จะเป็น “อุปสรรคและปัญหาใหญ่ของชีวิต”
ขอขอบคุณน้องโสภณด้วยนะครับ ที่ให้โอกาสพี่ก๋าได้ไปเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ดีมากๆในครั้งนี้
ขอบคุณแง่คิดมุมมองดีดีที่มอบให้ เชื่อแน่ครับว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนมากมาย ที่ได้รับรู้เรื่องราวของน้องโสภณ
Create Date : 27 ธันวาคม 2553 |
|
123 comments |
Last Update : 27 ธันวาคม 2553 5:09:15 น. |
Counter : 8682 Pageviews. |
|
|
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณก๋า มาดาม หมิงหมิง ด้วยนะคะลูก
ชื่นชมกับใจสู้ ของน้องโสภณ ด้วยเหมือนกันค่ะ
ขอร่วมเรียกร้องให้ ประเทศนี้ ช่วยทำสิ่งที่จะ
อำนายความสะดวกให้กับบุคคลพิเศษเหล่านี้ด้วยเถอะค่ะ
น้องเค้ามีผลงานเป็นภาพถ่ายอย่างเดียวเหรอคะ
น้องเขียนหนังสือ ด้วยหรือป่าวคะ
อยากอุดหนุนให้กำลังใจเค้าค่ะ
ปล. สดชื่น กับ วันแรก ของสัปดาห์ นะคะ