สิงหาคม 2558
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
18 สิงหาคม 2558

:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว ::






:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องเสือย้อมแมว ::



ทำไมเราต้องเรียน
เพราะเราต้องทำงาน
ทำไมเราต้องทำงาน
เพราะเราต้องการเงิน
ทำไมเราต้องการเงิน
เพราะเราไม่ต้องการทำงาน

เราต้องลำบากเท่านั้นหรือถึงจะประสบผลสำเร็จ
ไม่มีทางที่ง่ายดาย ความรักก็เช่นกัน

ผมดูประวัติเศรษฐีไม่มีใครใช้เงินมือเติบเลย
มีแต่ประหยัดกันทั้งนั้น
นอกจากความมุมานะแล้วยังมีเหตุใด
ที่ทำให้เขาเหล่านั้นประสบความสำเร็จ
แตกต่างจากผู้คนเป็นหมื่นเป็นแสน

ความรู้ที่มหาวิทยาลัยไม่มีสอน ไม่มีวิชาชีพ
เป็นความรู้จากการที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พี่ก๋าคิดว่าการทำงานเหมือนอยู่ในคุกไหม
ต้องไปตรงเวลา ต้องมีพักเที่ยง
ต้องกลับมาทำงานต่อ
กลับไปนอน พรุ่งนี้ต้องมาทำใหม่
จากความสุข กลายเป็นความหน่าย
มันคงไม่ใช่ชีวิตที่เราต้องการ
แต่เรามิอาจจะกำหนดได้เองเลย
ทั้งเงินเดือนหรือเวลาทำงาน

เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปทำงาน
ผมอยากเก็บความฝันเอาไว้
สักวันมันจะไม่ใช่ความฝัน มันจะกลายเป็นความจริง
เห็นเงินเดือนรุ่นพี่ที่จบไปในตอนนี้
แล้วละเหี่ยใจเหลือเกิน
งานไกล รับน้อย เงินเดือนถูก ส่วนมากไม่รับ ป.ตรี
ถ้าได้ต่ำกว่า 15000 ผมไปขาย ข้าวไข่เจียวขายดีกว่า
ขายน้ำปั่นไปด้วย

ทำแบบรถคันเล็กๆ แต่งรถไปขาย หาเช่าที่ทำเลดีดี
พอมีเงินค่อยทำระบบใหญ่ๆ อย่างการทำแบรนด์เข้าห้างหรือทำร้านประจำ
คิดอยากสบายอย่างเดียวครับ




คำถามโดย : เสือย้อมแมว

















มีเรื่องเล่าว่าโชกุนองค์หนึ่งเกิดเบื่ออาหารอย่างหนัก
ไม่ว่าพ่อครัวทำอาหารอะไรออกมา พระองค์ก็ไม่ทรงโปรด
แถมพ่อครัววังหลวงยังถูกลงโทษอย่างหนัก
เนื่องจากไม่สามารถสรรหาอาหารที่ถูกปากให้กับโชกุนได้

พ่อครัวจำนวนมากต่างสรรหาวัตถุดิบเลิศรสและแปลกประหลาด
มาสร้างสรรค์รายการอาหารวิจิตรพิสดาร
แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจแก้ปัญหาอาการเบื่ออาหารของท่านโชกุนได้เลย

จนที่สุดทางวังต้องปิดประกาศไปทั่วเมืองว่า
หากใครสามารถทำให้ท่านโชกุนกลับมาทานอาหารได้เยอะๆแล้วล่ะก็
จะมีรางวัลให้อย่างงามที่สุด

พ่อครัวตามร้านอาหารชื่อดังต่างพากันเข้าเฝ้า
เพื่อถวายอาหารเลิศรสชั้นยอดของร้านตน

แต่ไม่มีอาหารแม้แต่จานเดียวที่ถูกปากท่านโชกุน

บ่ายวันหนึ่งพระอาจารย์ของท่านโชกุนจึงเดินทางมาที่พระราชวัง
แล้วเชื้อเชิญให้ท่านโชกุนไปทานเมนูเด็ดที่วัด
ท่านโชกุนตามไปพร้อมรับปากกับพระอาจารย์ว่าจะยอมทำตามทุกอย่าง
ขอเพียงให้ได้พบกับรายการอาหารที่แก้อาหารเบื่ออาหารของพระองค์ได้

เมื่อไปถึงที่วัด
พระอาจารย์บอกให้ท่านโชกุนไปตักน้ำใส่ตุ่มของวัด
แม้จะขัดเคืองใจแต่ท่านโชกุนก็ยอมทำตาม
พระอาจารย์ไม่อนุญาตให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ
เข้าไปช่วยท่านโชกุนแม้แต่คนเดียว

ท่านโชกุนจึงต้องตักน้ำอยู่นานชั่วโมงครึ่งกว่าตุ่มน้ำจะเต็ม

เมื่อเสร็จและยังไม่ทันหายเหนื่อย
พระอาจารย์ให้ท่านโชกุนไปถูพื้นกระดานของวิหารอีก

ท่านโชกุนแสดงถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
เนื่องจากปกติท่านไม่เคยต้องทำอะไรเช่นนี้เลย

สองชั่วโมงผ่านไป....
พระอาจารย์ยืนคุมท่านโชกุนทำงานในวัดด้วยความพึงพอใจ

พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน
ท่านโชกุนทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย
รวมทั้งหิวเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำงานหนักมากที่สุดในชีวิต

“เอาล่ะ ตอนนี้ท่านโชกุนได้ทำงานเสร็จแล้ว
อาตมาขอเชิญท่านเสด็จไปรับประทานอาหารได้”


พระอาจารย์กล่าวเชิญชวน

โดยไม่รอช้า ท่านโชกุนรีบเดินทางไปยังหอฉันของทางวัด
เมื่อไปถึงโต๊ะอาหาร มีเพียงข้าวต้ม และบ๊วยเค็มดองหนึ่งผลเท่านั้น

ข้าราชบริพารทุกคนตกใจมากที่เห็นพระอาจารย์ทำเช่นนี้
ทุกคนคิดว่าท่านโชกุนต้องทรงกริ้วมากๆเป็นแน่

“เชิญท่านโชกุนรับประทานอาหารได้
นี่เป็นอาหารเลิศรสที่สุดสำหรับพระสงฆ์”


ด้วยความหิวอย่างมาก ท่านโชกุนคีบบ๊วยเค็มดองขึ้นมากิน
แล้วตักจ้วงข้าวต้มพุ้ยๆๆๆๆใส่ปากอย่างรวดเร็ว

ท่านยื่นถ้วยข้าวและบอกกับพระลูกวัด

“ขอเติมอีกถ้วย”

ทุกคนมองท่านโชกุนอย่างแปลกใจและตกตะลึง
ว่าทำไมอาหารธรรมดาๆของพระสงฆ์
จึงกลายเป็นอาหารจานโปรดของโชกุนไปได้




...............................................




ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอกครับ
ถ้าได้มาง่าย ก็ต้องทำใจไว้เลยว่าเราก็จะเสียไปง่าย
และอาจไม่ทันได้เห็นคุณค่าของสิ่งๆนั้นเลย

ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง ความรัก
ความสำเร็จ ชื่อเสียง
ฯลฯ


การทำงานเหมือนการติดคุกไหม ?

คำถามคือ เราทำงานต่างๆด้วย “ทัศนคติ” แบบไหน
ถ้ารู้หน้าที่ รู้ว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ
และทำให้ดีที่สุด

ต่อให้งานนั้นเป็น งานขัดห้องน้ำ ผัดข้าวผัด
พาแฟนไปดูหนัง ทำงานกลุ่มกับเพื่อน ซักผ้าให้แม่
ขายน้ำปั่น ทำบริษัท หรือแม้แต่บวชเรียน ฯลฯ

ถ้าเรารู้หน้าที่และตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
งานทุกงานล้วน “สำคัญ” เสมอ

ด้วยความสำคัญนั้นเอง
ที่จะสร้างความตั้งใจ ความขยัน ความอดทน
ขึ้นมาในตัวเรา

ไม่ต้องรอให้ได้งานที่รักหรอกครับแล้วถึงอยากทำ
เราสามารถรักงานทุกอย่างที่เราทำก่อนได้
แล้วเรียนรู้ไปจากมัน

ต่อให้เป็นงานที่เราไม่ถนัดหรืออาจไม่คิดชอบสักเท่าไหร่
แต่ถ้าเราเปิดใจ แล้วตั้งใจในขณะที่ทำ
นั่นคือการเรียนรู้ที่จะเพิ่มพูนความสามารถในตนเอง
โดยไม่ต้องรอแต่ว่าฉันจะมีความสุข
เมื่อฉันได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ




......................................





ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ
ไม่มีอะไรสบายๆ เหมือนกับที่เขาหลอกกัน
ว่า ทำงานน้อย ให้เงินทำงานสุขภาพจะแข็งแรง
เกษียณงานได้เร็ว มีเวลาเหลือกับคนที่เรารัก
และมีความมั่นคง ความสบาย ความร่ำรวยรออยู่

มาร่วมทำงานกับเราสิ ....
มาขายผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมนี้กับเราสิ
มาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดนี้สิ
ฯลฯ

ก่อนจะพบว่า....
สุดท้ายกลายเป็นแค่แก๊งหลอกลวง
ต้มตุ๋นและขายฝันให้กับคนที่อยากรวยๆๆๆๆๆๆ
โดยไม่เคยมองดูความเป็นจริงเลยว่าธุรกิจนั้นถูกต้อง ถูกธรรม
และเป็นไปได้จริงหรือไม่ในเชิงธุรกิจ





..............................................





“มูลค่า” และ “คุณค่า” นั้นแตกต่างกันลิบลับ

และถ้าเรายังแยกสองสิ่งนี้ไม่ออก
เราก็จะเป็นโชกุนที่เบื่ออาหารเพราะไม่เคยลำบาก
ทุกอย่างถูกทำ ถูกรอป้อนจนถึงปาก
ความรวยเป็นสิ่งที่ดี
แต่ถ้าเรายังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเราจะรวยไปทำไม
พี่ก๋าคิดว่าความรวยนั้นก็เป็นความรวยที่กลวงเปล่า
และเมื่อได้ความรวยแบบนั้นมา
มันอาจทำร้ายชีวิตเรามากกว่าที่จะสร้างความสุขด้วยซ้ำไป




..................................................





ความรวยของมหาเศรษฐีหลายๆคน
สร้างขึ้นมาจากความยากลำบาก ความอดทนอย่างมหาศาล
ความตระหนี่ถี่เหนียว ความรอบคอบ
ความไม่ประมาท ความกล้าเสี่ยง ใจสู้ และกล้าล้มเหลว

คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้
ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย

ส่งผ่านจากพ่อแม่ไปยังลูกก็ไม่ได้

ทุกอย่างต้องเรียนรู้ สร้างทำ
และฝึกฝนอย่างหนักหน่วง

ไม่มีอะไรง่ายเลยครับ
ไม่มีงานอะไรที่ง่าย ร่ำรวยและสบายๆ
ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆหรอก

ถ้าจะมี...ก็มีแต่ในความฝันเท่านั้นเอง





























Create Date : 18 สิงหาคม 2558
Last Update : 18 สิงหาคม 2558 6:05:56 น. 22 comments
Counter : 1055 Pageviews.  

 
การนั่ง นอน ทำอะไรจำเจ... ก็ทำให้เบื่อไปทุกสิ่งทุกอย่าง
หากเปลี่ยนการปฏิบัติตัว...

ออกกำลังกาย จนความอิ่ม มันพร่องลง เหลือน้อย
มันก็เกิดความอยากอาหาร... เป็นธรรมดา ที่คนไม่ค่อย
รู้ หรือรู้อย่แล้ว แต่ก็ไม่ทำ 555

พูดถึงการรังเกียจ รายรับที่น่าจะได้ "น้อย" ก็โอเค
ครับ..

ผมเห็นคนจีนในไทย เขาทำอะไรเล็ก ๆ น้อยก่อน
คือ อดทน.. แล้วค่อยทำอะไรใหญ่โตได้ภายหลัง ได้

ผมว่าน่านับถือที่สุด....


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:6:19:42 น.  

 




หะ .. หะ ..

ทำอะไร ต้อง ดีที่สุด .. อยู่แล้ว ค่ะ ..

งาน ทุกชิ้น ที่ทำออกไปจากตัว เรา .. ต้อง "ดีที่สุด" ค่ะ ..



ว่าแต่ ..

วันนั้น .. พี่ป๋อง ฝัน .. อยากทำงานอยู่บ้าน ..

ไม่อยากสู้รบกับใคร ..

555555555555555555

สมใจนึก มา 10 กว่าปี ..

วันนี้ .. อยาก "ออกจาก รู" ..



เมื่อ วาน ได้ "ออกจาก ถ้ำ" ด้วยแหละ ..










โดย: foreverlovemom วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:7:02:38 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ค่อยๆทำ ค่อยๆหา แบบสบายใจ ไม่เครียดด้วยใช่มั้ยค้ะ พี่ก๋า
ยิ่งถ้า คิดว่า เราต้องมีเยอะๆ โดยคิดจะทำแค่ ครั้งเดียว มันเครียดเน้าะ
เหมือนความรัก ค่อยๆเดิน จะ เห็นอะไรได้มากขึ้นป่ะค่ะ


โดย: kwan_3023 วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:7:42:12 น.  

 
จากที่อ่านมา คุณเสือย้อมแมว กำลังศึกษาอยู่
แต่กังวลไปสารพัด ผมว่า คนเราต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ
ชีวิตที่ก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ บางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง บางคนยากจน ความมานะพยายามก็แตกต่างกันไป
ช่วงก้าวสำคัญ แต่ละคนมีหลายก้าว
ก้าวที่สำคัญก้าวแรก คือ สอบเข้ามหาวิทยาลัย
ก้าวที่ 2 เรียนให้จบป.ตรี
ก้าวที่ 3 หางานทำ
แต่จริงๆ ใครจะก้าวมากกว่า 3 ก็ได้ครับ หรือ น้อยกว่านี้ก็ได้

ภาพต้นไม้เขียวชุ่มชื้น มีมอสขึ้นเต็มไปหมด รู้สึกถึงความสดชื่น อากาศบริสุทธิ์ เป็นที่ไหนครับ

สวัสดียามเช้าครับ คุณก๋า


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:8:05:19 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog

สวัสดียามเช้าค่ะ เมื่อคืนแสนวุ่นวาย


โดย: kae+aoe วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:8:12:03 น.  

 
สวัสดีคะคุณก๋า
ใช่เลย ของที่เราหามาได้ด้วยตัวเราเองย่อมมีคุณค่าและความภูมิใจ
ใครๆก็อยากมีรายได้ดีหาตังค์ได้เยอะๆ เพื่อการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog

ปล... ครอบครัวเราก็พยายามไปที่สมุย หลังจากห่างหายไปนานเกือบ 10 ปีเช่นนกัน
กว่าจะได้หยุดพร้อมกันและเวลาลงตัว ก็เพราะการทำงานที่รับผิดชอบ
ของแต่ละคนนี่ละคะ
ขอบคุณคะสำหรับคำอวยพร อยู่ 3 วัน 2 คืน
กลับวันนี้ ช่วง ทุ่มคะ


โดย: Tui Laksi วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:8:19:57 น.  

 
เห็นด้วยเลยค่ะ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆจริงๆ
ของที่ได้มาง่ายมักไม่มีคุณค่า และมักเสียไปง่าย
งานทุกงานแม้ไม่ถนัด แต่ถ้าเราไม่อคติกับมันและตั้งใจทำ
ก็จะผ่านไปด้วยดีและอาจรักงานนั้นๆขึ้นมาก็ได้นะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


ข่าวระเบิดเป็นอะไรที่ตกใจมาก สงสารคนเคาระห์ร้ายที่สุด
ส่วนมากเป็นชาวต่างประเทศด้วย
งานท่องเที่ยวจบเลยค่ะคราวนี้ ตรงนั้นเป็นจุดสำคัญซะด้วย
ดูแล้วประเทศไทยจบหลายอย่างเลยค่ะ เศร้าใจจริงๆ



โดย: mambymam วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:8:31:00 น.  

 
วันนี้ขอไม่ออกความคิดเห็นค่ะ

แต่สำคัญระหว่างคนรวยกับคนจนคือทัศนคตินะ

ความคิดของคนรวยกับความคิดของคนจนต่างกัน

ต้องลองไปอ่านหนังสือของคุณโรเบิร์ต คิโยซากิดูค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:8:33:50 น.  

 
อ่านแล้วได้ข้อคิดหลายๆอย่างเลยค่ะ

ทักทายยามสายค่ะพี่ก๋า


โดย: blog pu วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:9:26:48 น.  

 
อ่านตอนกลางๆ เริ่มเขวคิดว่าจะฝากคติว่าความหิวทำให้อาหารธรรมดาอร่อย เหมือนเรานั่งกับพื้นดินกินมาม่าบนชามพลาสติกหลังจากปีนยอดเขาสูงจนเหนื่อยล้า อิอิ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:9:41:08 น.  

 
คุณก๋าเขียนได้ดีมาก ๆ ชอบค่ะ ... เรื่องราวเบื่ออาหารของท่านโชกุน
สนุกดี ... สงสัยท่านโชกุน อยู่สบายเกิน ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อย ๆ
แน่ ๆ เลยเป็นโรคเบื่ออาหาร

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: Tristy วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:9:49:54 น.  

 
"เช่น ผมอยากเขียนกวี
ผมก็ลงมือเขียนเลย ตั้งเป้าหมายแค่ เขียนให้ได้ทุกวัน
แต่ไม่ได้ตั้งความหวังว่าใครจะต้องชอบ อยากอ่าน หรือได้ตีพิมพ์"

ขอบคุณค่ะคุณก๋า ตรงจุดเป๊ะเลยค่ะ ที่คุณก๋าทำเกดก็ทำ ต่างกันที่ว่าเกด"ตั้งความหวัง"ว่าอยากให้มีคนชอบอ่านเยอะๆ และได้ตีพิมพ์ นี่คือความฝันที่ทำให้เกิดความทุกข์ ทั้งๆที่ตอนเขียนก็มีความสุขกับการเขียนอยู่แล้ว เกดทำให้ตัวเองเครียดเอง

พยายามจะเอาอย่างคุณก๋าบ้างค่ะ คือทำโดยไม่ต้องคาดหวังผล พยายามจะอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆค่ะ


โดย: Raizin Heart วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:10:13:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณก๋า

อ่านคำถามคนขี้สงสัยแล้วก็ละเหี่ยใจ

คนตอบก็ตอบดีดี๊ ฮ่า ๆ ๆ

วันนี้โนคอมเม้นท์ค่ะ เพราะเมื่อวานเขียนเรื่องความฝันไปเยอะแระ

ตอนนี้พ่อก๋า คงหุ่นดีขึ้นเยอะ เพราะมีปิยบุตร ช่วยกระตุ้นให้ออกกำลังกาย

มีลูกชายรูปหล่อแล้วยังรักการอ่านการเรียนรู้ การกีฬาอย่างนี้

ต้องถนุถนอมดี ๆ นะคะ ๘ ขวบ ตัวยังกะหนุ่มน้อยแน่ะ

ระวังสาว ๆ หน่อยนะคะ สาวสมัยนี้น่ากลัวน๊า ฮ่า ๆ ๆ ๆ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:11:24:02 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ชอบหลักการสอนของคุณก๋าจังค่ะ
เวลาที่เราได้อะไรมาง่าย ๆ ก็เลยไม่เห็นคุณค่า
พอเราต้องเหนื่อยกว่าจะได้มันมา เราก็จะเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นมาก ๆ เลยนะคะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:13:42:18 น.  

 
โห คุณก๋ายังอ่านตั้งสองสามเล่ม

เราเอ่านเฉพาะเล่มแรก พ่อรวยสอนลูก ก็รู้เลยค่ะว่าไม่ตรงจริต แล้วก็เลยไม่ได้อ่านต่ออีกเลย จนกระทั่งเพิ่งมาอ่านโรงเรียนสอนธุรกิจเมื่อเร็วๆ นี้

เราถึงบอกว่า วิธีคิดและทัศนคติของคนรวยและคนจนต่างกันค่ะ

เพื่อนเราคนหนึ่ง ไม่อ่าน แต่ฟังที่เราเล่า เค้ากลับเก็ทวิธีคิดแบบนั้น และตอนนี้เค้าก็รวยกว่าเรามาก จากการทำธุรกิจ

แต่เราเองนะ..ถ้าเอาอยากทำ เราอยากมีความคิดที่ทำให้รวยได้ แต่..เราจะไม่ทำตัวแบบคนรวยทั่วๆ ไปน่ะ เราอยากรวยเพื่อให้มีความสามารถในการช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้นน่ะค่ะ

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมั้ยนะคะ

อันดับแรกต้องเปลี่ยนวิธีคิดตัวเองก่อนค่ะ ถ้าทัศนคติไม่ได้ ยังไงคงจะรวยไม่ได้อะนะคะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:14:35:37 น.  

 
น้องเขาเป็นเจ้าหนูจำไมแน่ ๆ เลย
ทุกคำถาม มีแต่ทำไม และทำไม 555
ชอบภาพประกอบบล้อกค่ะ เขียวสดชื่น สายน้ำเย็นฉ่ำชื่นใจค่ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:18:59:00 น.  

 
น้ำตกสวยค่ะพี่ก๋า
เห็นข่าวที่กทม.แล้วใจหายนะคะ


โดย: mariabamboo วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:19:32:03 น.  

 
ชีวิตจริงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆและสบายอย่างที่พี่ก๋าว่าจริงๆครับ ส่วนความสุขมันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนแล้วว่าคิดอย่างไร?


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ปีศาจความฝัน วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:19:49:57 น.  

 
พี่ว่า แต่ละคนก็คงมีสไตล์การทำงานที่ต่างกันไปแล้วแต่คน
นานาจิตตัง
มีทัศนคติกับการทำงาน ทุ่มเทมากน้อยต่างกันไปเนาะ

"ถ้าเรารู้หน้าที่และตั้งใจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
งานทุกงานล้วน “สำคัญ” เสมอ"

เห็นด้วยมากๆค่ะ


กับประสบการณ์พี่เอง เวลาเริ่มงานใหม่ๆ เชื่อฟังตั้งใจดีมาก
ไม่ขาดไม่สายเลย
พออยู่ไปนานๆ เริ่มเกเร 555 รแต่ก็รับผิดชอบงามเสมอ

ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ยังจริงเสมอรึป่าวน๊าาา


โดย: anigia วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:21:49:14 น.  

 
จริงๆ แล้วไม่มว่าทำอะไรมันก็หลีกไมท่พ้นความลำบาก ผมนึกถึงคำพระที่ว่าถ้าอยากสนุกกับอะไร อย่านำสิ่งนั้นไปเป็นงานที่ทำแล้วประกอบอาชีพ (หลัก) ไม่งั้นความสนุกจากสิ่งนั้นจะหายไป มันเป็นแบบนั้น เพราะเราทำได้คนอื่นก็ทำได้ แต่มองอีกมุมมันก็เป็นการอัพเลเวลความสามารถของเราในเรื่องนั้นๆ เพียงแต่มันถูกสิ่งที่เรียกว่าแรงกดดันครอบไว้

ใครๆ ก็อยากสบาย แต่ว่าถ้ารวยแล้วคิดว่าก็คงใช้ชีวิตแบบเดิมนี่แหละ เพียงแต่ของใช้ที่ใช้ในการดำรงชีพอาจจะใช้ของเกรดดีกว่าเดิมหน่อย แต่โดยเพื้นฐานแบบเดิมๆ ดีที่สุดแล้ว

บ้านหลังใหญ่ใช่ว่าจะดี ทำความสะอาดทีแทบอ้วกเหมือนกัน จ้างคนก็เสียเงิน ถ้าคิดแต่จ้างคนแล้วไม่ทำงานไม่นานก็หมด


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 สิงหาคม 2558 เวลา:22:49:20 น.  

 




หวัดดีค่ะ คุณก๋า ..










กะเด๋ว มา อีก ..









โดย: foreverlovemom วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:3:40:08 น.  

 
กะว่าก๋า Literature Blog

คราวที่แล้วหมดงบโหวต วันนี้เลยมาโหวตเป็นกำลังใจให้นะคะ

ชีวิตเป็นการต่อสู้ เหมือนที่พี่ก่๋าว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ


โดย: au_jean วันที่: 19 สิงหาคม 2558 เวลา:5:20:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]