สิงหาคม 2558
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
10 สิงหาคม 2558

:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณลัลลาบาย ::






:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณลัลลาบาย ::




ไม่เข้าใจ"วิจิกิจฉา" กับ "กาลามสูตร" ค่ะ
ที่ได้อ่านดูดิฉันพอเข้าใจได้ว่า “วิจิกิจฉา”
คือ ไม่ให้สงสัยในความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ให้เชื่อในพระรัตนตรัย

แต่กาลามสูตรบอกว่าอย่าเชื่อใน 10 สิ่ง
โดยการบอกกันมา สืบกันมา เป็นต้น
ดูแล้วขัดแย้งกัน เลยเกิดความสับสน
ช่วยอธิบายหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ




คำถามโดย : ลัลลาบาย


















ผมขออนุญาตอธิบายตามความเข้าใจของผม
ซึ่งอาจจะไม่ได้ตรงกับหลักธรรมคำสอนที่คุณเคยเล่าเรียนมา
ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ












วิจิกิจฉา คือ ความลังเลความไม่แน่ใจความสงสัย
ความเคลือบแคลงในกุศลธรรมทั้งปวง
ความลังเลเป็นเหตุที่ทำให้ไม่แน่ใจในศรัทธาที่ตนมี

ความสงสัยดีไหม --- ดี
ถ้ามีพอประมาณ มันเป็นตัวกระตุ้นให้เราอยากค้นคว้าหาคำตอบ
เพื่อแก้ปมในสิ่งที่เราอยากรู้

แต่ถ้ามีมากเกินไป
จะทำให้ขาดความเชื่อ
เมื่อไม่เชื่อก็ขาดศรัทธา

เคยได้ยินคำว่า “ศรัทธาเคลื่อนภูเขา” ไหมครับ

ชายคนหนึ่งต้องเสียเวลาเป็นวันเพื่อเดินอ้อมภูเขา
วันหนึ่งเขาจึงลงมือขุดอุโมงค์ด้วยจอบเพียงด้ามเดียว
เขาเชื่อมั่น (ศรัทธา) ว่าตนเองสามารถขุดอุโมงค์ด้วยตัวคนเดียวได้
ใครเดินผ่านมาผ่านไปถามว่าเขาทำอะไร
พอเขาบอกไปว่าจะขุดอุโมงค์ทะลุภูเขา
เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินอ้อมไกลๆ
ทุกคนก็หัวเราะเยาะอย่างขบขัน
หลายคนสงสัยว่าเขาบ้า บางคนบอกว่าไม่มีทางทำได้แน่ๆ
แต่เขาไม่สนใจ ลงมือขุดทุกวันๆๆๆ
จนในที่สุดเขาก็ขุดอุโมงค์ได้สำเร็จ

เวลาที่เราจะลงมือทำอะไร
ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนหนังสือ ปอกผลไม้
ลดน้ำหนัก หรือแม้แต่ปฏิบัติธรรม
ถ้าเรามัวแต่สงสัยว่าจะทำได้หรือเปล่า ?
จะทำยังไง จะสำเร็จหรือเปล่า
ทำไปแล้วคนอื่นจะรู้สึกกับเรายังไง ฯลฯ

ใจที่เต็มไปด้วยความลังเล สงสัย
ทำให้เราไม่กล้าลงมือทำ
เมื่อไม่ลงมือทำก็ทำได้แต่เพียงเก็บความไม่มั่นใจ
และความลังเลสงสัยไว้ในใจ


วิจิกิจฉาจึงเป็นตัวหนึ่งซึ่งเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้
ในสิ่งที่ผมเรียนรู้มาไม่มีการสอนนะครับ
ว่า วิจิกิจฉาคือ การห้ามไม่ให้สงสัยในความดีของพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ หรือบังคับให้เชื่อในพระรัตนตรัย

การตั้งข้อสงสัยว่าพระพุทธที่แท้คืออะไร
พระธรรมที่แท้คืออะไร
พระสงฆ์ที่แท้คืออะไร ?

ไม่ใช่ความผิดบาป เป็นเพียงการตั้งธงสงสัย
เพื่อหาทางค้นคว้าหาคำตอบให้ตัวเองเชื่อมั่นและศรัทธา
ในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์

ความลังเลสงสัยไม่ใช่เรื่องผิด
แต่ถ้ามีมากเกินไปจะเป็นตัวบั่นทอนศรัทธา
และทำลายเวลาที่เราจะใช้ในการแสวงหาคำตอบเพื่อการหลุดพ้น

เช่น ถ้าใครคนหนึ่งมัวแต่สงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงหรือไม่ ?
พระองค์เป็นคนชนชาติใด ?
พระพุทธเจ้าทำไมสามารถเกิดแล้วก็เดินได้ทันที ? ฯลฯ

คำถามบางคำถามเมื่อถามแล้ว
ยากที่จะหาคำตอบที่แท้จริงได้
และหากเรามัวแต่ไปเสียเวลาค้นหาคำตอบ
นั่นจะทำให้เราพลาดประเด็นที่สำคัญกว่า
เช่น ศาสนาพุทธมีหลักคำสอนใดเป็นสำคัญ ?
หรือจะปฏิบัติอย่างไรเพื่อชำระจิตให้ใสกระจ่างบริสุทธิ์ เป็นต้น

ชีวิตคนเรานั้นสั้นมาก
เกินกว่าที่จะรู้ไปทั้งหมดทุกเรื่อง


ถึงมีคำสอนว่า “หมื่นรู้มิสู้ปล่อยวาง”
นั่นคือ เมื่อใดก็ตามที่เราศึกษาจนรู้
แล้วนำสิ่งที่รู้นั้นมาน้อมนำตรวจสอบตนเอง
จนคลายสิ่งที่สงสัยไปได้เรื่อยๆทีละข้อๆ

นั่นคือหนทางการปฏิบัติธรรมอันนำไปสู่การค้นพบว่า
ความทุกข์ในชีวิตของเราคืออะไร
และทำอย่างไรเราจึงจะพ้นไปจากการครอบงำของความทุกข์










ส่วน “กาลามสูตร” คือ พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ
ณ หมู่บ้านเกสปุตตนิคม แคว้นโกศล
กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้
ให้แก่พุทธศาสนิกชน เพื่อไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงาย
โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ
โดยมีอยู่ 10 ประการ ได้แก่


1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา

2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา

3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ

4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์

5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรกะ

6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน

7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล

8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว

9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้

10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา




ผมคิดด้วยซ้ำครับหลังจากอ่านกามลามสูตรจบ
ว่าอย่างแรกที่ไม่ควรเชื่อก็คือ เชื่อในกาลามสูตรนี่ล่ะครับ
แต่เป็นการไม่เชื่อ เพื่อจะเปิดโอกาสให้เราได้ลองทดสอบ
ว่าคำสอนของพระพุทธองค์นั้นเป็นจริงอย่างที่พระองค์กล่าวไว้หรือไม่

ถ้าจริงแล้วค่อยเชื่อ
ถ้าใช่แล้วค่อยศรัทธา

ผมคิดว่านี่คือ หัวใจของกาลามสูตร

เหมือนมีคนบอกว่าผมว่านั่งสมาธิดีนะ
แต่ผมเป็นคนไม่ชอบนั่งสมาธิแบบหลับตา
เมื่อไม่ชอบจึงไม่เชื่อว่าจะมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น
ที่คนเราจะเข้าถึงสมาธิได้
ผมจึงลงมือค้นคว้าหาวิธีที่ตนเองชอบและถนัด
จนมาพบกับการนั่งเขียนพู่กันเดียว
ทุกครั้งที่ผมลงมือวาดพู่กันเดียว
จิตผมเกิดสมาธิ เกิดความนิ่ง
และเมื่อฝึกฝนตนเองอย่างต่อเนื่อง
ผมคิดว่าผลของการวาดพู่กันเดียวนั้น
ใกล้เคียงกับการนั่งสมาธิเช่นกัน










ในการปฏิบัติธรรมจึงไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว
ไม่จำเป็นต้องจำกัดตนอยู่เพียงความเชื่อว่า
ศาสนาใดดีที่สุด หรือ ศาสดาองค์ใดยิ่งใหญ่ที่สุด

ถ้าเราใช้หลักกาลามสูตรในการปฏิบัติธรรม
จะเป็นศาสนาใด วิธีใด รูปแบบความเชื่อใด
ย่อมเป็นหนทางแห่งการฝึกฝนตน ค้นคว้า แสวงหา
และค้นพบศรัทธาในรูปแบบที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก มาทำให้เราเชื่อว่าวิธีนี้ดีที่สุด
ศาสนานี้ดีที่สุด ศาสดาองค์นี้ยิ่งใหญ่ที่สุด

คำตอบแห่งการค้นพบทางจิตวิญญาณ
ควรเป็นสิทธิ์ของเราในการค้นพบตัวตน
ด้วยรูปแบบที่เหมาะสมและใช่ที่สุดสำหรับเรา
เมื่อค้นพบจนเจอวิธีการและรูปแบบที่เหมาะสม
จิตในขณะนั้นจะแทบไม่เหลือวิจิกิจฉาหรือความลังเลสงสัยเลย


ธรรมะจึงเป็นเรื่องปัจเจก
พึงรู้ได้ด้วยตนเอง
และจะรู้เช่นนี้ได้
มีเพียงการลงมือปฏิบัติและตรวจทานความคิดความเชื่อของตนเอง
ไปโดยตลอดเส้นทางแห่งการเรียนรู้นั่นเอง




















 

Create Date : 10 สิงหาคม 2558
30 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2558 6:05:59 น.
Counter : 1489 Pageviews.

 

สอบถามสักข้อค่ะ บางคนชอบพูดว่าไม่ได้เป็นตัวเค้าไม่มีทางรู้ว่ารู้สึกอย่างไร แค่เพียงเราเตือนสติให้เข้มแข้งกลับบอกว่า คนพูดย่อมพูดได้คุณก๋ารบกวนตอบในก๋าราณีให้หน่อยค่ะ

 

โดย: ชื่อ กวิน IP: 1.46.227.230 10 สิงหาคม 2558 6:40:13 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

แบบนี้ ต้องเชื่อในสิ่งที่ เราสัมผัส เอง หรือป่าว ค่ะ

 

โดย: kwan_3023 10 สิงหาคม 2558 7:07:55 น.  

 



สวัสดีครับคุณกวิน


เดี๋ยวขอคิดคำตอบนิดนึงนะครับ
แล้วจะมาตอบในบล็อกครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 10 สิงหาคม 2558 7:44:24 น.  

 


สวัสดีค่ะน้องก๋า

 

โดย: newyorknurse 10 สิงหาคม 2558 8:53:18 น.  

 

การหมดซึ่งวิจิกิจฉา สำหรับเรามันคือผลของการปฏิบัติแล้วน่ะค่ะ ไม่ใช่การบอกว่า "ไม่ต้องทำ" หรือ "ห้ามทำ" (ไม่ต้องสงสัยหรือห้ามสงสัย)

เมื่อปฏิบัติเต็มพร้อม เราจะไม่สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อีกว่ามีจริงหรือ อริยสงฆ์มีจริงหรือ ฯลฯ

ส่วนกาลามสูตร เป็นการวางตน วางใจ ปฏิบัติ พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้บอกให้ "เชื่อ" นะคะ แต่ให้ปฏิบัติ ให้มาพิสูจน์จนเห็นจริงเอง รู้จริงเอง และเมื่อนั้นแหละค่ะ เราจึงจะไม่มีวิจิกิจฉานะคะ

สำหรับเราเราว่างั้นนะคะคุณก๋า

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 10 สิงหาคม 2558 9:03:15 น.  

 

ไม่เคยเข้าใจ 2 คำนี้เลยค่ะ ไม่รู้ว่ามันยากที่จะเข้าใจหรือไม่เปิดใจเรียนรู้

ทักทายยามสายค่ะพี่ก๋า

 

โดย: blog pu 10 สิงหาคม 2558 9:43:15 น.  

 

กาลามสูตร เคยได้ยินมาบ้างค่ะ
แต่เพิ่งกระจ่างในความหมายวันนี้เอง



 

โดย: mambymam 10 สิงหาคม 2558 9:55:51 น.  

 






ข่าว ลือ .. เยอะ ..

ภาพ ลวงตา .. แยะ ..


น่าเบื่อ ..








 

โดย: foreverlovemom 10 สิงหาคม 2558 10:10:28 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ก๋า

อ่านไปงงไป หรือไม่มีสมาธิไม่รู้ค่ะ

วันนี้เพลียมากๆค่ะ ทำหลายอย่างเกิ๊น พี่ก๋าสบายดีนะคะ

 

โดย: ลอยละล่อง บล็อกแกงค์ 10 สิงหาคม 2558 10:22:47 น.  

 

สวัสดียามเช้าค่ะพี่ก๋า...อุ๊ย ยามสายค่ะ

 

โดย: kae+aoe 10 สิงหาคม 2558 10:50:09 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณก๋า

ขอปรบมือให้ห้าร้อยแปะ กับคำตอบที่เคลียร์มาก ๆ สำหรับคำถามนี้
พี่อ่านไป ก็นึกอยู่ในใจว่า คุณก๋านี่ใกล้เข้าพระปริยัติมากขึ้น ๆ ทุกทีแล้ว อิ ๆ

ในทางกลับกัน พระปริยัติ กับพี่ รู้สึกว่ากำลังห่างออกไปทุกที
มันรู้สึกเบื่อ ๆ ยังไงก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

วันนี้ ไม่มีคอมเม้นท์อะไรเพิ่มเติม เพราะสมองไม่ค่อยทำงาน
เนื่องจาก คุณป่วนมาเยี่ยมเยียนค่ะ
ยิ่งอายุมากขี้นเท่าไร การมาเยี่ยมก็หนักมากตามอายุไปด้วย

ตอบได้ดีมาก ๆ ค่ะ สมควรได้รับการโหวต

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog


 

โดย: พรหมญาณี 10 สิงหาคม 2558 13:40:37 น.  

 

แวะเข้ามาอ่านครับ บางประโยคถูกใจก็นั่งอ่านซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแหละครับ

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: PZOBRIAN 10 สิงหาคม 2558 13:44:41 น.  

 

พี่อุ้มแวะมาอ่าน
มาโหวตข้อคิดและธรรมะ
โดนใจจ๊ะ
โหวตผ่านมือถือ
วันนี้สะดวกเพราะพ่อหลับกลางวัน

 

โดย: อุ้มสี 10 สิงหาคม 2558 14:54:07 น.  

 

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tui Laksi Sports Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
PZOBRIAN Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

นั่นสิคะคุณก๋า
ชีวิตคนเราสั้นนัก สั้นเกินกว่าจะรู้ทุกสิ่ง
ชอบคำพูดนี้มากค่ะ บางทีเราอยากรู้ สงสัยมากเกินไป
ไม่เป็นผลดีกับเราจริง ๆ ค่ะ

 

โดย: Close To Heaven 10 สิงหาคม 2558 15:09:53 น.  

 

มาทักทายยามบ่ายค่ะคุณก๋า
หมื่นรู้มิสู้ปล่อยวาง โดนใจค่ะ
บางทีรู้เยอะ รู้นิสัยคน รู้ความชั่ว รู้ความจริง รู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ฯลฯ
กลับยิ่งทำให้เจ็บปวดนะคะ

 

โดย: เนินน้ำ 10 สิงหาคม 2558 15:26:05 น.  

 


มีความสุขมากมากนะคะ พี่ก๋า

 

โดย: white in the dark 10 สิงหาคม 2558 16:54:16 น.  

 

พี่ไม่ได้บอกว่า การปฏิบัติธรรม นั้นไม่ดี

แต่พี่คงไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม และไม่สงสัยด้วยค่ะ


*** หมาหนังกลับ เห็นแล้ว ละเหี่ยใจค่ะ อนาถแท้

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 10 สิงหาคม 2558 17:53:51 น.  

 

ยามเย็นๆ สวัสดีค่ะพี่ก๋า

 

โดย: sawkitty 10 สิงหาคม 2558 18:16:27 น.  

 

อยุธยา ร้อนมากคุณก๋า เดินกันหัวแดงเลย เมฆบาย ไม่สู้ เลยขอนั่งรอ แม่เดินนานเกิน

 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 10 สิงหาคม 2558 18:38:55 น.  

 

วันนี้ป่วยค่ะหลับไปครึ่งวันตื่นมาคึกลงสวนเย็นนี้ป่วยต่อ
วานนี้พี่หมิงๆคงสนุกน่าดูนะคะ

 

โดย: mariabamboo 10 สิงหาคม 2558 20:02:00 น.  

 

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

 

โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 10 สิงหาคม 2558 20:53:46 น.  

 

"ศรัทธาเคลื่อนภูเขา" ชอบประโยคนี้มากค่ะ มีเพื่อนคนหนึ่ีงเคยโทรมาหาเกดถามทำไรอยู่เกดบอกเขียนนิยาย เพื่อนหัวเราะบอก "คนเพ้อเจ้ออย่างแกเขียนนิยายไม่จบหรอก" อีกหลายเดือนต่อมาเพื่อนคนเดิมโทรมาอีกถามทำไรอยู่ บอกเขียนนิยาย เพื่อนหัวเราะแล้วบอก "ก็บอกแล้วว่าแกเขียนไม่จบหรอก" เลยตอบไปว่า "จบไปสองเรื่องแล้ว นี่เรื่องที่สาม" และส่งลิงค์ให้เพื่อนอ่าน สามวันต่อมาเพื่อนโทรมาขอโทษที่เคยดูถูก แต่เกดไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรนะคะ ตอนแรกที่เขียนก็คิดแค่ว่าถ้าเขียนไม่จบก็จะไม่ทำอย่างอื่น (ยกเว้นงานประจำที่จำเป็นต้องทำ) จะไม่ไปเที่ยว ไม่ช้อปปิ้ง ไม่ทุกอย่างจนกว่าจะเขียนจบ เกดใช้เวลาหนึ่งเดือนเขียนจบเรื่องที่หนึ่งค่ะ ไม่รู้อันนี้เรียกว่าศรัทธาหรือเปล่า?

 

โดย: Raizin Heart 10 สิงหาคม 2558 21:05:55 น.  

 

คุณก๋าเขียนได้ดีจริง ๆ ... ถึงตอนนี้พี่เป็นชาวคริสต์ แต่พี่ก็ยังเคารพในคำสอนหลาย ๆ เรื่องของพุทธศานา เหมือนที่คุณก๋าว่า เรื่องความเชื่อเป็นเรื่องของปัจเจก ... พี่ก็เชื่ออย่างนั้นนะคะ

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog

 

โดย: Tristy 10 สิงหาคม 2558 21:06:07 น.  

 

อุ้ยย่ะ! คำถามหนนี้ยากเลย ผมเพิ่งเคยได้ยินคำว่าวิจิกิจฉานี่ละครับ แต่ก็เป็นคำถามที่ดีนะครับ อย่าสงสัยในความดีมันฟังแล้วแปลกๆ แต่ฟังที่พี่ก๋าอธิบายก็เข้าใจครับว่าสงสัยจนไม่ยอมลงมือทำอะไรก็ไม่ก่อไม่สร้างอะไร
กิ่วแม่ปานสวยจริงๆครับ ช่วงหน้าฝนแบบนี้คงชุ่มฉ่ำน่าดู ปีที่แล้วผมขึ้นไปช่วงวันแม่ หมอกอย่างหนาเลย

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
NENE77 Home & Garden Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
Ariawah Auddy Photo Blog ดู Blog
anigia Parenting Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ชีริว 10 สิงหาคม 2558 21:43:17 น.  

 

ขอบคุณค่า
มีเรื่องรบกวนถามค่ะพี่ก๋า เส้นทาง 107 ไปเชียงดาว เขาสูงดอยชันไหมคะ แม่โมกะจะไปหยุดวันแม่นี้ แต่ยังไม่เคยขับดอยไหนนอกจากดอยนางแก้วเลยค่ะ กังวลนิด ๆ ทางราดยางดีไหมคะ กี่เลนส์พี่ก๋าพอจะทราบไหมคะ

 

โดย: mariabamboo 10 สิงหาคม 2558 21:45:59 น.  

 

วิจิกิจฉา อันนี้เพิ่งเคยได้ยินครับ แต่กาลามสูตร ได้ยินบ่อบ บล็อกผมยังเคยเอามาลงเลย


บอลเพิ่งผ่านไป 1 นัด ต้องดูกันยาวๆ ครับ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 10 สิงหาคม 2558 22:32:22 น.  

 

วันนี้เรื่องยากค่ะพี่ก๋า นิคต้องอ่านช้าๆสองรอบ
วิจิกิจฉา คำนี้เพิ่งเคยได้ยินและทราบความหมายค่ะ

แต่นิคชอบเหตุผลในกาลามสูตรมากกว่า
--จงเชื่อผลเชื่อเหตุสังเกตเทอญ

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 10 สิงหาคม 2558 22:57:31 น.  

 

จริงค่ะพี่
แต่นิคอ่านคำตอบแล้วชอบคำอธิบายเลยค่ะ
..สงสัยมากไปก็ขาดความเชื่อ
ไม่เชื่อก็ขาดศรัทธา..
ขาดศรัทธา(ในสิ่งใดๆ) ชีวิตนี่ล่องลอยเบาหวิวเลย

 

โดย: ที่เห็นและเป็นมา 10 สิงหาคม 2558 23:39:03 น.  

 

พระอรหันต์แต่ละรูป ค้นพบหลักธรรมด้วยตนเอง แตกต่างกันไป ตามวาสนาของแต่ละรูป บางรูปพระพุทธองค์ก็มาชี้แนะแนวทางสว่างให้

ต้องเรียนรู้หลักธรรม ธรรมชาติ แก่นแท้ด้วยตนเอง

ฝันดีครับ คุณก๋า

 

โดย: เศษเสี้ยว 11 สิงหาคม 2558 0:07:12 น.  

 

กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog

อ่านถึงที่ว่า..คุณก๋า ทำสมาธิด้วยการเขียนพู่กัน..
พี่จะเล่าประสบการ์คล้ายๆกะคุณก๋าให้ค่ะ
ปกติ จะนั่งหลับตาก่อนนอน หรือไปวัดปฏิบัติธรรมค่ะ
ที่นี่ทุกๆต้นเดือน พี่ต้อง เกะสลักแตงโม....บางครั้งสองใบ
มีอยู่วันนึงขณะนั่งเกะไปใจก็วางเข้ากลางทำสามิไปด้วย
อยู่ก็มีองค์พระผุดขึ้นมาให้เห็นที่ศูนย์กลางกาย หากใช้ลมหายใจ
สูดเข้าไป ก็ตรงที่สุดลมค่ะ.. วันนั้นมีปิติมากๆ เห็นอยู่หลายชั่วโมง...
จนกระทั้งต้องกลับไปทำงาน เราอยู่และเล่น พูดคุย กับเรื่องหยาบๆทางโลกมาก ใจไม่จรดทำสมาธิต่อองค์พระเลยหายไปเลยค่ะ

 

โดย: โอพีย์ (Opey ) 11 สิงหาคม 2558 0:29:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]