:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณลัลลาบาย ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามคุณลัลลาบาย ::
จุดประสงค์ของการเรียนคืออะไร ทำไมถึงเรียนแล้วไม่จำ พอครูกลับมาถามก็จำไม่ได้ เป็นเพราะความผิดพลาดของเราหรือว่าอะไรคะ
คำถามโดย : ลัลลาบาย
มีเรื่องหนึ่งที่ผมเสียใจมากเกี่ยวกับการศึกษา นั่นคือ ผมรู้ช้าเกินไปว่า การศึกษาที่แท้จริง คืออะไร ? ถ้าในตอนที่เป็นนักเรียน เป็นนักศึกษาผมรู้ในสิ่งนี้ ทัศนคติ ของผมที่มีกับการเรียนรู้ คงจะทำให้ตัวเองรู้สึกสนุกและเป็นสุขกับการเรียนมากกว่าที่เป็น
แท้จริงแล้ว การศึกษา คือ ภาพจำลองของการฝึกแก้ปัญหา
และเป็นการสอนให้เราเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาอย่างมีหลักการ เริ่มตั้งแต่การแก้ปัญหาที่ง่าย ไปสู่การแก้ปัญหาที่ยากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มต้นจากการจำ นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่จากสิ่งเก่า
ในเด็กเล็ก...การเรียนรู้เริ่มต้นผ่านการเล่น การร้องเพลง การออกกำลังกาย เพื่อเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกาย
เมื่อโตขึ้นมาจึงเริ่มหัดจำตัวอักษร เริ่มเรียนรู้ที่จะผสมตัวอักษรให้เป็นคำ เริ่มบวกลบเลขจากหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย จนกลายเป็นหลักพัน หลักล้าน
เมื่อได้ฝึกแก้ไขปัญหาไปเรื่อยๆ โจทย์ ที่ต้องแก้ไขจึงเริ่มเพิ่มความยากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ว่าในท้ายที่สุด...เราจะเลือกเรียนสาขาใดในระดับปริญญา นั่นคือการเพิ่มทักษะในการแก้ปัญหาของเราให้ซับซ้อนมากขึ้น เสมือนจริงมากขึ้น มันคือการจำลองภาพ ปัญหา ที่จะเกิดขึ้น เมื่อเราเรียนจบและต้องออกไปทำงาน
กระบวนการเรียนรู้จะฝึกให้เรารู้จัก แก้ปัญหา อย่างมีระบบ มีรูปแบบความคิด รู้จักวางแผน รู้จักลำดับความสำคัญของงาน ฝึกให้รู้จักเป็นคนรับผิดชอบ มีวินัย
ถ้าในขณะเรียน ถ้าเราเป็นคนไม่ตั้งใจ เหยาะแหยะ ไม่มีระเบียบ ขี้เกียจ ฯลฯ ทุกอย่างจะสั่งสมจนเมื่อเรียนจบออกไปทำงาน ความไม่เอาไหน ความไร้ประสิทธิภาพก็จะติดตัวเราตามไปด้วย
ไม่ว่าคุณจะเลือกเรียนในสาขาใด วิชาใด มันคือ การเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาในสาขาวิชาความรู้นั้นๆอย่างมีขั้นตอน จากง่ายไปหายาก จากเรียบง่ายไปสู่ความซับซ้อน จากการจำนำไปสู่การคิดสร้างสิ่งที่แตกต่างและดีกว่าสิ่งเก่าหรือวิธีการเดิมๆ
การศึกษา คือ การสั่งสม สั่งสมประสบการณ์ในการแก้ปัญหา ให้เราเกิดความเคยชินกับอุปสรรค และฝึกหาหนทางที่ถูกต้องที่สุด เพื่อให้ได้คำตอบหรือวิธีการที่ดีที่สุด ในการเรียนรู้และทำงาน รวมไปถึงการใช้ชีวิต
...................................
เรียนแล้วไม่จำ ครูถามแล้วจำไม่ได้
คงต้องย้อนกลับไปดูที่ตัวเราว่าเราตั้งใจฟังดีแล้วหรือยัง ณ จุดเริ่มต้นของวิชานั้นๆซึ่งง่ายที่สุด เราเข้าใจพื้นฐานวิชาแล้วหรือยัง หากเริ่มต้นฐานยังไม่แน่น ยิ่งเรียนก็ยิ่งงง คงต้องกลับไปย้อนศึกษาใหม่ให้ฐานแน่นเสียก่อน แล้วค่อยต่อยอดวิชาที่ยากขึ้นต่อไป
อีกประเด็นคือ คงต้องไปดูวิธีการสอนของอาจารย์ ว่าลำดับการถ่ายทอดองค์ความรู้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนยากง่ายหรือไม่ มีเทคนิคอะไรที่ดีและทำให้นักศึกษาเข้าใจได้มากขึ้นหรือไม่
..................................
เรียนไม่เก่ง ไม่ชอบในวิชาที่เรียน ครึ่งหนึ่งเป็นความไม่สนใจในวิชาที่เราต้องปรับปรุงแก้ไข ครึ่งหนึ่งเป็นเทคนิคการสอนของครูที่ยังไม่ดีพอ
แต่สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าครูจะสอนยังไง ถ้าเราเรียนรู้โดยรู้ว่า เรียนไปเพื่อ ฝึกแก้ไขปัญหา แล้ว เราก็ควรต้องตั้งใจ มุ่งมั่น ขวนขวาย ที่จะแสวงหาความรู้ในทุกๆรูปแบบ ในทุกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือด้วยตนเอง ถามผู้รู้ หาอาจารย์ที่ปรึกษา หาเพื่อนเก่งๆติวให้
และที่สำคัญที่สุด การ ไม่รู้ ไม่ได้เป็นความผิดบาป ไม่ใช่เรื่องของความฉลาดหรือโง่เขลา ไม่รู้ ก็ไปเรียน ... เรียนจน รู้ ต้องรู้ชนิดที่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
แล้ว ความรู้ เช่นนี้จะติดตัวเราไปตลอด
ไม่ว่าวันข้างหน้าเราจะไปเจออะไรในชีวิต เจอปัญหาชีวิตหนักหนาสาหัสแค่ไหน วิธีคิด ที่ติดตัวเรา จะเป็นสิ่งที่ทำให้เราผ่านพ้นปัญหาไปได้ ไม่ว่ามันจะหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม
หากมอง การศึกษา ในแง่นี้แล้ว มันไม่ใช่แค่เรียนเก่งหรือไม่เก่ง ไม่ใช่แค่เกรด หรือเกียรตินิยม แต่มันคือ การศึกษาเพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ให้กล้าหาญที่จะไม่ขลาดหวาดกลัวกับอุปสรรคขวากหนามในชีวิต และทำให้เราเป็นคนที่กล้าคิดเพื่อจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะทำหรือเป็นอะไรก็ตาม
Create Date : 19 สิงหาคม 2558 |
|
20 comments |
Last Update : 19 สิงหาคม 2558 6:04:04 น. |
Counter : 1093 Pageviews. |
|
|
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ทุกวันนี้ ยังอยากย้อนเวลากลับไปตอนสมัยเรียนเลยนะคะ
ถ้าย้อนเวลาได้ จะ ตั้งใจเรียน จะ เชื่อฟัง คำพ่อกับแม่ และ คำที่ ครูสอน เวลาเรียน ให้ ดีกว่านี้ จริงๆ ค่ะ รู้สึกเสียดายเหมือนกันนะคะ
แต่ แม่ บอกว่า แค่นี้ ก้อดีแล้ว ดูแลตัวเอง ได้
แต่ ทุกวันนี้ ก้อ ยังเรียน อยู่นะคะ เรียนรู้กับประสบการณ์จริงๆ และ ต้องค่อยๆ เรียนรู้จริงๆ ค่ะ