ธันวาคม 2566

 
 
 
 
 
1
3
5
6
7
8
10
11
13
14
16
17
19
20
22
23
24
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
Oh!! my sassy boss : ตอนที่ 14 หน้า 4
หมอเอกหยิบแบงค์พันวางลงบนโต๊ะให้แล้วจากไปอย่างเสียดายเวลาอยากอยู่ต่อ แต่เมขลาก็ทำท่ายุ่งเตรียมของเพื่อทำยาไปส่งคลัง

พอหมอเอกไปไม่นาน ผอ เดช ที่เดินตรวจงานดูผลการทำงานของบนตึก เดินเรื่อยมาจนถึงเรือนยาไทย เขาเปิดประตูเข้ามา  เห็นเมขลากับกฤษ ทำงานกันอย่างเงียบๆ เขาก็ทำเป็นเลียบๆ เคียงๆ เดินมาดูว่าทำอะไรกัน

ผอ เดช “หมอเมข ยุ่งอยู่เหรอ”

เมขลามองหน้าผู้บังคับบัญชาที่มาเยือน

เมขลา “ผอ มีอะไรหรือเปล่า?”

ผอ เดช “ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย”

เมขลา “สำคัญเปล่าเนี่ย”

เมขลาหาได้เกรงอกเกรงใจ ผอ เดช เหมือน หมอหรือเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ บางทีเขาก็ใจดีกับเธอมากไป จนใครๆ ก็ว่าเขาลำเอียง

ผอ เดช “เดี๋ยวไปหาผมที่ห้องด้วยนะ”

ถ้าพูดแบบนี้ก็น่าจะสำคัญ ตอนนี้เมขลาก็มีเรื่องว้าวุ่นใจอยู่แม้จะบอกใครใกล้ตัวไม่ได้ แค่บอกกฤษไปเพราะเห็นว่ากฤษ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร น่าจะไม่บอกเรื่องที่คุณนายคุยกับเธอมาที่เธอได้บอกเขาไป พอเคลียร์ยาที่ทำได้พอสมควร เธอก็แค่สั่งกฤษ

เมขลา “เดี่ยวพิมเสนละลายหมด ยาเย็นกว่านี้ค่อยเทลงขวดนะ”

กฤษ “ครับ”

เมขลาเดินตาม ผอ เดช ไปที่ห้องทำงานของ ผอ

เมื่อเข้ามาในห้องที่เป็นการส่วนตัวแล้ว ผอ เดช บอกเธอนั่งลงที่เก้าอี้

เมขลา “มีเรื่องอะไรคะ ผอ”

เธอถามอย่างสงสัย

ผอ เดช “เจ้านายมีเรื่องความลับอะไรกับเธอหรือเปล่า?”

ด้วยความอยากรู้ที่เก็บความสงสัยมาหลายวัน

เมขลา “ก็เรื่องขยายโรงพยาบาล ขยายตึกให้แพทย์แผนไทย ท่านก็เสนอจะทำสปาเพิ่ม ท่านชอบ นวดหน้า พอกหน้า เรื่องความสวยความงาม น่าจะทำเงินได้”

ผอ เดช “แค่นี้เองเหรอ?”

เมขลา “เรื่องทำโรงงานผลิตภัณฑ์สมุนไพรด้วย จะให้หนูเป็นดูแล”

ผอ เดช “อ้อ แต่เรื่องนี้ยังไม่เคยเห็นเสนอเข้าที่ประชุมเลยนะ”

เมขลา “ท่านคงเพิ่งตัดสินใจมั้ง ผอ เองนั่นแร่ะ ไปบอกยอดขายยาสมุนไพรเหรอ ท่านถึงมีโปรเจคนี้ขึ้น”

เธอถามเขากลับ

ผอ เดช “ก็มันมียอดขายนิ เดือนละเกือบ แสน ทางผู้ใหญ่ก็ต้องสงสัยว่ามาจากอะไร มันก็ต้องโชว์แล้วเคลียร์ยอด แต่ทีนี้ มันน่าจะมีปัญหาทางบัญชีหรือเปล่า เพราะเราผลิตเอง แต่พอศึกษาทางด้านกฎหมาย มีคนที่จบแพทย์แผนไทย ทำเพื่อจำหน่วยคนไข้ เลยไม่ผิด ผมก็พึ่งจะรู้นี่ล่ะ ว่าหมอแพทย์แผนไทย ทำยาขายเองได้ ปกติเราจะจ่ายยาที่สั่งเฉพาะทางมาเท่านั้น”

ผอ เดช “ท่านเลยอยากทำโรงงานผลิตและจดทะเบียนให้ถูกต้อง”

ผอ เดช “นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีนะ หน้าที่หมอเมขจะได้ก้าวหน้า มีเงินเดือนเพิ่มด้วย จะได้ไม่ต้องลาออก”

เมขลา “ถ้าหนูจะออก เงินก็รั้งหนูไม่ได้หรอก ถ้าไม่มากพอ อิอิ”

ประกายตาทะเล้นนั้น ผอ เดช จำได้ ตั้งแต่วันแรกที่มาเจอกัน เขากับเมขลาเข้าทำงานที่นี่ไล่เลี่ยกัน ผอ เข้ามาก่อน 3 เดือน และเป็นคนสัมภาษณ์เมขลาเอง

ตอนแรกเห็นหน้าตาใสซื่อน่ารัก แต่ดวงตาจริงใจมุ่งมั่นมีความเป็นผู้นำและดูมีประสบการณ์สูง

เขาเลยตัดสินใจรับเข้ามาทั้งสองก็เหมือนคอยเอาใจใส่กันดีเลยทำให้เหมือนคอยเป็นพี่เลี้ยงให้กันและกัน เขาเลยรักและเอ็นดูเมขลามากกว่าหัวหน้าและลูกน้อง

เมขลา “หนูไปทำงานก่อนนะคะ”

เธอเห็นว่าเรื่องที่ ผอ เดชควรรู้ก็บอกหมดแล้ว ส่วนเรื่องของเธอเอาไว้ให้เธอตัดสินใจให้ได้ก่อนถึงจะบอก ผอ เดช

ผอ เดช “ครับ”
 
พอกลับมาที่เรือนยาไทย เมขลา มองหน้าไร้อารมณ์ของกฤษ ก็หงุดหงิด อยากจะทำอะไรสักอย่างแต่ก็ทำไม่ได้ และไม่รู้จะทำอะไรดี ที่จะทำให้กฤษ ไม่ดูไร้วิญญาณเช่นนี้

กฤษ บอกไม่ถูกว่านี่คืออารมณ์แบบไหน เขาเองก็ไม่เคยเป็นมาก่อน  มันมืดมิด ไร้อนาคต ไม่อยากทำอะไร ไม่ตอบสนองต่อสิ่งไหน ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน ไม่อยากคุย

อยู่คนเดียวก็คิดวนเวียนแค่เรื่องที่เมขลาจะแต่งงาน มองหน้าเมขลาก็มีแต่ความอาลัยที่ต้องจากพรากกันไป หัวใจก็เหี่ยวแฟบแทบไม่ได้ยินเสียงเต้น

บางครั้งเขาเหมือนไม่ได้ยินเสียงกระตุกของมัน หรือว่าเขากำลังไร้หัวใจไปแล้ว มันเกิดจากอะไรกัน หรือนี่จะเป็น อาการที่เขาเรียกว่า "อกหัก"

แล้วเขาจะต้องทนสถานการณ์แบบนี้ไปอีก 3 เดือน เชียวหรือ?
ได้แต่ภาวนาว่า หลังจากที่ฝึกงานเสร็จแล้ว ไม่ค่อยได้เจอกับเมขลา เขาคงคลายความทุกข์นี้ได้ หรือจะทุกข์หนักกว่าเดิม เมื่อเห็นเมขลากระหนุงกระหนิงกับพี่ชายเขา

พอหลังแต่งงาน พี่ชายคงพาเมขลาไปอยู่ด้วย โอกาสที่จะเจอกันคงแทบจะไม่มี แต่ความรู้สึกที่เหลือไว้ คงอยู่ในใจเขา มันช่างเจ็บปวดและทรมานที่ต้องเรียกเธอว่า “พี่สะไภ้”


นี่คงเป็นวิบากกรรมของเขาเอง เคยลั่นวาจาเอาไว้ว่าจะไม่แต่งงาน เคยดื้อรั้นไม่ยอมไปออกเดทกับคนที่แม่หามาให้ นี่จะเป็นด่านเคราะห์ที่เขาจะต้องเจอ และชิมรสชาติความเจ็บปวด
จะว่าไป ชีวิตเขาไม่เคยได้พบเจอความเจ็บปวดมาก่อนเลยในชีวิต ชีวิตที่แสนสุขสบาย ถูกเลี้ยงมาราวคุณหนู มีคนขับรถรับส่งไปโรงเรียนตั้งแต่เด็ก มีคนคอยดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่เล็กจนโต 

หรือนี่อาจจะเป็นหนึ่งเรื่องความเจ็บช้ำเพื่อให้เขาเข้าใจชีวิตการเกิดมาเป็นมนุษย์ ที่จะต้องได้พบ เกิด แก่ เจ็บ ตาย และ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อให้เขาได้เข้าใจ และสามารถละทางโลกได้อย่างไม่สงสัยอะไร

ในเมื่อชีวิตเขายินดีที่จะหันหน้าเข้าทางธรรมอย่างแน่วแน่แล้วนั้น เหตุใดจะต้องวอกแวกด้วยเล่า ก็แค่ หัวใจกระตุกไป เพราะผู้หญิงคนเดียว

ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในช่วงชีวิตแค่ 3 เดือน จะมามีอิทธิพลกับคนที่เกิดแล้วผ่านฤดู ร้อนฝนหนาว มา 26 ปี อย่างไรเล่า

เกิดก็เพิ่งมาเจอ เขาต้องเข้มแข็งมากกว่านี้สิหนอหัวใจ


ในเมื่อเหตุการณ์ทดสอบจิตใจครั้งนี้มันรวดร้าวใหญ่หลวงนัก ขอให้กำหนดลมหายใจเข้าออก ให้นิ่ง อย่าได้ไหวติงกับ มารที่จะโผล่มา ทำให้ใจไม่นิ่งได้อีก

กฤษ นั่งภาวนาในห้อง วันนี้วันอาทิตย์ การอยู่แต่ในห้องมันอาจจะช่วยชีวิตเขาไม่ฟุ้งซ่านได้ ถึงอากาศจะร้อนจนดับแลบ


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


เสียงเคาะประตูดังขึ้น


หน้าใสๆ โผล่มา


เมขลา “เธอฉันเห็นเธอซึมมาหลายวัน พอดีฉันซื้อแตงโมมา ไร้เมล็ดด้วย อากาศแบบนี้ ไปกินแตงโมดับร้อนกันเถอะ”


ไม่พูดเปล่าเธอฉุดแขนลากคนตัวโตออกมาจากห้องจนได้
แล้วแบบนี้ เขาจะตัดทางโลกให้ขาดอย่างไรได้

 



Create Date : 29 ธันวาคม 2566
Last Update : 29 ธันวาคม 2566 7:24:55 น.
Counter : 255 Pageviews.

1 comments
  
พระเอกของเรามโนไปเองทั้งนั้นค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 29 ธันวาคม 2566 เวลา:20:44:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]