สิงหาคม 2567

 
 
 
 
1
2
4
5
7
8
9
11
12
13
15
16
17
18
19
21
22
23
25
26
28
29
30
 
All Blog
Oh!!my sassy boss ตอนที่ 31 หน้า3
เขารีบเปลี่ยนประเด็นไปทันที


เมขลา “ระดับฉัน ยังไม่ได้แก่มากมาย หัวเข่าก็ยังดี”
กฤษ “อยู่คนเดียวเป็นอะไรไปไม่มีคนเห็นนะครับ”
เมขลา “ฉันก็อยู่คนเดียวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วมีอะไรเหรอจ๊ะ”

เธอถามกฤษอย่างสงสัย


กฤษ “พรุ่งนี้พี่จะมากี่โมง”


เขาหาเรื่องถามเธอ


เมขลา “ก็น่าจะสายๆ ทานข้าว คุยกับคุณแม่ บ่ายๆ ก็กลับ”
กฤษ “ไม่อยู่รอผมเหรอ?”
เมขลา “รอทำไม เดี๋ยววันอังคารเธอก็กลับมานี่แล้ว”


น้ำเสียงดูไร้ความอาลัยคิดถึงอย่างสุดซึ้ง ทำเอากฤษแอบน้อยใจ วันๆ เมขลา ไม่ได้มีความสนใจจะคิดถึงเขาเหมือนที่เขาคิดถึงเธออย่างนั้นหรือ การที่เขาแสดงออกมากขนาดนี้ทำไมเมขลาไม่เข้าใจเขาบ้างเลย แต่ขนาดนี้ของเขาก็เหมือนปกติของเมขลา


เมขลา “เธอ ขอฉันใส่เสื้อผ้าก่อนได้ไหม?”
กฤษ “พี่ก็ใส่ไปสิ ผมคุยได้”


เขาไม่ได้สนใจว่าเมขลาจะอยากมีเวลาส่วนตัว เมขลาจ้องหน้าอย่าง งง งัน


เมขลา “เออ เดี๋ยวรอแป๊ป”


เธอหายไปจากจอโทรศัพย์ กลับมาพร้อมร่างอรชรอ้อนแอ้นในชุดวาบหวิบคอปาดลึกจนเห็นร่อง ชุดบางเบา ไหวๆ โชว์เรือนร่างอย่างดี กระโปรงสั้นเบาบางเห็นขาอ่อนเนื้อนวลเนียน อกตูมที่เต่งตึงนั่นน่าจะไร้บราตัวน้อย ทำไมกัน? เขาทำไมซื้อผ้าซีทรู?กฤษมองค้างแทบกำเดาไหล นี่เธอกำลังยั่วเขาอย่างนั้นหรือ แล้วเวลาเขาอยู่บ้านถึงไม่ทำแบบนี้บ้างล่ะ


ก็เอาสิ อยากชวนคุยนักหนา ใส่ชุดที่ซื้อให้ยั่วเลยจะเป็นไร ชุดที่เขาอุตส่าห์เลือกมาให้ แม้มันจะวาบหวิว ชวนสยิวใจขนาดไหน เมขลาก็ยอมรับว่าช่างรสนิยมดี  เนื้อผ้านิ่มสมราคาที่เลือกสรรมา เข้าพอดีกับรูปร่างเธอ แถวโชว์สัดส่วนให้เห็นอย่างเต็มตา เป็นชายใดเล่าไหนจะเกินต้าน ตอนแรกไม่คิดว่าจะกล้าใส่ น่าอายเวลาอยู่ต่อหน้ากฤษณะ เหลือเกิน แต่ในเมื่อเขาเฟ้นมาให้เธอขนาดนี้ ลองใส่ดูสักครั้งก็ไม่เสียหาย อยากรู้นักว่าเธอจะมีเสน่ห์พอให้เขาหลงบ้างไหม? โธ่....ระดับเธอแล้ว แค่อยู่เฉยๆ เขาก็หลง หาต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นอ่อยให้หัวปักหัวปำไปใยเล่า
จากที่ว่าใจคอหนักแน่นไม่เคยอ่อนไหวกับสตรีเพศมาก่อน ไม่ว่าสาวน้อยสาวใหญ่ แต่เวลานี้อะไรก็ห้ามไม่ไหว แทบอยากจะขับรถไปอยุธยาให้ไวกว่านี้ นี่เขากำลังหื่นอย่างนั้นหรือ ไม่ได้ ต้องเก็บอาการ เรื่องอะไรจะให้เมขลาสำคัญตัวเองผิดว่าอ่อยเขาได้สำเร็จกันเล่า แต่ตอนนี้กำเดากำเริบจนแทบจะคุมเอาไว้ไม่อยู่ แล้วยิ่งหน้าหวานๆ ทำหน้าทำตายั่วๆ โยกย้ายสะโพกที ทำเอาหัวใจกระตุกแตกให้ได้ ดูลัวมันช่างเพลิดเพลินจำเริญหัวใจ เกินที่จะปล่อยให้เธอนอนคนเดียว



เมขลา “นี่ เธอ ฉันจะนอนแล้วนะ”
กฤษ “เดี่ยว พี่จะรีบนอนไปไหน?”
เมขลา “พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นแต่เช้านะ”


เธอบอกเขา


กฤษ “พี่ก็นอนเปิดกล้องไปสิ ผมอยาก...เออ ผมจะดูว่าพี่นอนหลับดีไหม?”
เมขลา “เพี้ยน..”



เธอหลุดปากดุเขา
เมขลานึกสนุกแกล้งทำท่ายั่วยวนชวนอารมณ์เขา แม้สายตาเธอที่หยอกเอินอย่างทะเล้นเหมือนไม่ปะสาอะไร กฤษได้แต่มองอย่างแน่วนิ่งแต่หัวใจสั่นไหว


เมขลา “เธอไม่คิดว่าฉันจะหุ่นน่ากินขนาดนี้เลยใช่ไหม?"


เธอแกล้งใช้คำที่ชวนสยิวใจนัก  แถมทำท่ายังกะนางแมวยั่วสวาท


กฤษ “ใช่”


กฤษณะเผลอหลุดปากตอบ เมขลา ยิ้มที่มุมปากอย่างมีชัย กฤษเหมือนรู้ตัว


กฤษ “ผมไม่ใช่พวกหื่นกามที่หลงไหลในเรือนร่างผู้หญิงหรอก น่าขยะแขยง ผมจะไปบวช”


เขารีบสวนเธออย่างไว เมขลา เบ้ปากกับความหลอกตัวเองของกฤษ ก็เอาซิ ระดับเธอแล้ว ผู้ผ่านโลกมามากกว่าตั้งเป็นรอบ มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเขาคิดอะไร สายตาเด็กน้อยหรือจะปกปิดความต้องการข้างในได้


เมขลา “สาธุ...จะไปเมื่อไหร่เหรอ ฉันจะได้หาผัวใหม่”


คำพูดที่ทิ่มแทงใจนี่คืออะไรกัน มันเป็นความสนุกของเธอที่เคยชินอย่างนั้นหรือ ถ้าเธออยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้ คงขย้ำคอเธอเล่นให้สาสมแก่หัวใจแล้ว ที่ทำให้หัวใจเขาร้อนดุจไพผลาญในยามนี้ ในเมื่อเธอเป็นของเขาแล้ว ก็ยากที่จะปล่อยให้ชายใดมากล้ำกลาย


กฤษ “พี่ก็ละเมอไปเถอะ ตอนนี้ พี่แก่แล้ว ถ้าผัวไปบวช พี่ก็ต้องนอนเหงา ไม่มีผู้ชายคนไหนเขาต้องการแล้วล่ะ”


นี่คือการพัฒนาคำพูดเสียดแทงได้อย่างยิ่งยวด เมขลา ไม่คิดมาก่อนเลยว่ากฤษณะจะสามารถตอบโต้ได้ว่องไวและแสบถึงทรวงได้ขนาดนี้ คำว่าแก่ สำหรับผู้หญิงแล้วมันช่างเหมือนโดนสาดน้ำกรดใส่ มันกัดกร่อนในหัวใจจนเป็นแผลเจ็บปวดทรมานดีนัก


เมขลา “ถ้าฉันแก่แล้ว ก็เหมือนมะพร้าว ยิ่งแก่ ยิ่งมัน ถ้าไม่เคยกินก็ไม่รู้หรอก เชิญไปบวชค่ะ สาธุ”

เมขลาก็คือเมขลา ต่อให้ โดนคำพูดที่เสียดแทงหัวใจขนาดไหน คนอย่างเธอ โกรธได้แต่หายไว ต่อให้ต้องเจอคนประเภทปาก 5 แยกยิ่งกว่า หมอเอก เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้เป็นนางงามจักวาลโลกเด็ดขาด หากเป็นเรื่องที่สั่นคลอนจิตใจเธอเหมือนกับวิชาชีพที่แสนภาคภูมิใจและหวงแหนแล้ว เรื่องอื่นๆ เธอก็ยินดีที่จะต่อปากต่อคำได้ไม่ลดละ


แล้วการที่โดนสามีบอกว่าแก่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันยิ่งเพิ่ม แรงผลักดันที่จะเอาชนะเขามากขึ้นเท่านั้น อยู่ด้วยกันก็ไม่รัก สู้เลิกกันไปให้เขาเสียดายเราจะดีกว่า ให้รู้ไว้บ้าง ถึงเธอจะแก่ แต่ยังทรงพลังและมีคุณค่า ผู้ชายไร้รักอย่างเขา ไม่มีเยื่อไยให้เธอก็ช่างประไร ไม่เห็นจะต้องง้อ


เมขลา “ที่จริง เราจะเลิกกันซะวันพรุ่งนี้เลยก็ย่อมได้ ไม่ต้องรอ อีกแล้วก็แค่ 2-3 อาทิตย์จะครบ 2 เดือน ตามที่คุยกันไว้ การมีเมีย มันทำให้เป็นบาปขวางทางธรรม ฉันแค่แก่ ไม่อยากเป็นมารใคร ฉันจะเรียนคุณแม่ให้ว่า เธออยากจะเลิกกับฉัน เราก็ต่างคนต่างอยู่ แล้วเธอก็จะได้สละทางโลกไปบวชสมใจ”


เธอกล่าวเจื้อยแจ้วท่าทางเอาจริง กฤษณะมองหน้าเธอนิ่ง ราวกับว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ในความจริงเขาเย็นสันหลังเข้าไปถึงกระดูก อยู่กับเมขลามา 5 เดือน กว่า ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรทำแบบนั้น ไม่เคยหวาดกลัวอะไร ที่เขาพูดไป มันกระทบเนื้อเยื่อหัวใจเธอต่อมไหน ถึงขั้นจริงจังปานฉะนี้


เมขลามองหน้าที่ไม่ตอบโต้เธอกลับ หน้านิ่ง ที่ยากจะเดาความคิด แต่เธอคาดเดาเอาว่าเขาคงต้องการเลิกกับเธอจริงจัง เดิมทีวันแต่งงานเขาก็ประกาศตัวแล้วว่าไม่ได้รักเธอ เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว กลับมีแรงสั่นคลอนในใจอย่างไม่น่าเชื่อ ขนาดหมอเอกยังแค่แสบๆ คันๆ แต่พอคิดว่า กฤษณะไม่ได้รักเธอ กลับมีแรงเสียดในอกอย่างแรงจนจุกแน่นหายใจติดขัด


แว๊บหนึ่งในความคิด เธอจะคาดเดาว่า กฤษณะ อาจจะชอบเธอบ้าง หากอยู่ด้วยกันไป เขาก็มีนิสัยไม่เลวร้ายอะไร ถึงจะมีเถียงเธอบ้างก็ย่อมเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มีความอิสระทางความคิด แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ยอมความเองทุกครั้ง


กฤษณะรู้สึกเย็นกระดูกตั้งแต่ปลายนิ้วเท้าจนถึงมันสมอง ราวกับว่ามีไขมันอุดตันตามเส้นเลือดเส้นประสาทจนเลือดลมไม่ไหลเวียนไปเลี้ยง นี่เธอจะเอาจริงดั่งพูดหรือแค่หลอกเขาเล่นๆ ปั่นหัวเขาให้สะเทือนรูขุมขน ใช่....เขา นิ่งเกินไป จนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง และแสดงออกมาเหมือนให้เธอเข้าใจผิด ที่แล้วมา เมขลายังคิดว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ เธอยังปักใจเชื่อว่าเขาถูกบังคับให้แต่งงาน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง ของชีวิตคู่ของเขาที่แม่เป็นคนจัดให้ทุกอย่าง เขาอาจจะมีต่อต้านเหมือนกัน ตรงที่คิดว่า เมขลาเองก็แต่งงานด้วยเงิน ในตอนนั้นเขาอาจจะโกรธ แต่ตอนนี้เขาลืมไปแล้ว มีเรื่องที่เขาอยากจัดการและอยากจะเริ่มต้นการมีครอบครัวแบบที่เขาต้องการแล้ว ชีวิตคู่เรื่องสำคัญคือความเข้าอกเข้าใจกัน ถ้าขาดมันไปแล้ว ก็ย่อมมีแต่ปัญหาในทุกๆ เรื่อง เมื่อมีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิต มันก็ล้วนแต่เป็นอุปสรรคทั้งนั้น

 



Create Date : 31 สิงหาคม 2567
Last Update : 31 สิงหาคม 2567 7:10:08 น.
Counter : 495 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**, คุณหอมกร

  
ตอนนี้สนุกมากๆ ค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 1 กันยายน 2567 เวลา:21:10:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]