มิถุนายน 2566

 
 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
Oh!! my sassy boss : ตอนที่ 5 หน้า 3
เมขลาประสานมือเธอเขากับฝ่ามือใหญ่แล้วยกขึ้นตรงหน้า

หมอเอกมองหน้าเธอใจเต้นกับท่าทางราวคนรักจับมือกันประสาน แล้วเธอก็ดันไปข้างหลัง มันคือท่าดัดข้อมือเท่านั้นเอง

หมอเอก “โอ้ยยยย.”

หมอเอก “นี่คุณ ทำไมทำแต่ท่าเจ็บ”

เขาต่อว่าเธอ

เมขลาไม่ได้สนใจคลึงๆ หลังมือหมอเอกเสร็จแล้ว ข้างหนึงแล้วดัดอีกข้าง ทำเช่นเดียวกัน

เมขลา “ใจเสาะ ไม่อยากถูกดัด ก็ไปผ่า ก็เลือกเอาจะทำอย่างไหน?”

เธอไม่เคยปราณีเขาจริงๆ อย่างนั้นหรือ เมื่อนวดเสร็จแล้วเธอวางมือเขาลงที่เตียง

เมขลา “เสร็จแล้ว แล้วก็เอายาหม่องไปนวดเองล่ะกัน”

หมอเอกทำหน้าตื่นเต้น ไม่ใช่ว่าเขานวดเองไม่เป็นหรอกนะ แล้วเขาจะหาเรื่องมานวดทำไม

หมอเอก “ผมนวดไม่เป็น”

เมขลาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ว

เมขลา “ไม่เห็นจะยากเลย คุณก็แค่ถูๆ ถ้านวดเองไม่ได้ก็ให้หมอแอน ตอนว่างๆ ช่วยนวดให้”

ทำเอาหมอเอกยั้วที่เธอก็มิวายพูดเหน็บแนมเขาเรื่องหมอแอนอีก

หมอเอก “นี่..คุณเป็นหมอแบบไหน ไม่มีจรรยาบรรณ ทิ้งคนไข้ รักษายังไม่รู้ว่าหายเลย บอกให้เขาไปนวดเอง”

เมขลา มองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจกระพริบตาปริบๆ นี่เขามาหาเรื่องเธอถึงถิ่นแบบนี้

เมขลา “ฉันก็เป็นหมอของฉันแบบนี้ล่ะ มีปัญหาอะไร?”

หมอเอกจ้องตาอันดุดัน ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก เขาจะหาเรื่องพิการแบบไหนอีกมารับการรักษาที่เรือนยาไทย

หมอเอก “ยังไม่รู้เลยว่าดีขึ้นหรือยัง ทำไมไม่นัดตรวจติดตามหลังการรักษา”

เมขลาทำตาอย่างขัดใจ นี่เขาลงทุนสั่งสอนเธอเรื่องการติดตามคนไข้เชียวหรือ  

ถึงจะเป็นหมอกันคนละสาขา แล้วเขาถือตัวมาตลอดว่าเก่งกาจรักษาคนไข้ได้ดีกว่าเธอ ก็ไม่ถึงขนาดจะต้องมาคอยข่มคอยสอนเธอเรื่องจรรยาบรรณ

เวลาของเธอควรสงบสุขกว่านี้ วันๆ เจอแต่หมอพิการ พยาบาลพิการ ที่แสนจะทำตัวเก่งทุกคน


เมขลา “ผู้ป่วยก็ชอบทำร้ายตัวเองให้พิการเอง แค่ปรับพฤติกรรมยังทำไม่ได้ คิดว่าฉันต้องการอะไรจากคนไข้อีกล่ะ ต้องมาคอยปรับคอยดัดให้เสียเวลา”


เธอถามเขากลับ

เมขลา “บ้านรถฉันก็มีหมดแล้ว เหลือก็แต่สร้างคลินิกนะ ก็เป็นสิ่งที่ฉันสนใจอยู่ดีไหม?”

แม้จะรู้ว่าพูดแดกดันเขา

หมอเอก “นี่คุณคิดจะไปทำคลินิกเหรอ”

เขาถามเธออย่างสนใจ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเมขลาจะคิดแยกตัวออกไปทำคลินิก

หมอเอก “มันจะไม่เหนื่อยไปหน่อยเหรอ แค่งานทำที่โรงพยาบาล คนไข้ถึงไม่เยอะ แต่ก็หนักอยู่นะ”

เกิดจะมาเห็นใจ เข้าอกเข้าใจเธออะไรตอนนี้ ที่ผ่านมา ทั้งดูถูกเธอสาระพัด ที่วันๆ รับคนไข้แค่ 5 คน ไม่สมกับการเป็นหมอ ที่ควรจะรับคนไข้ได้มากกว่านี้ หมอเอกเป็นหมอพาณิชน์อาจจะไม่เข้าใจเจตนาหรือจิตวิญญาณหมอที่เธอมักจะพูดจาแดกดันเขาประจำ

เมขลา “มันก็เรื่องของฉันนิ นี่หมอเอก คุณมีอะไรตรงไหนจะดัดอีกไหม?”

เธอถามเป็นเชิงไล่

หมอเอก “อย่าคิดว่าคุณทำงานดี รักษาคนไข้ได้ทุกเคสแล้วจะอยากไปทำคลินิกเอง การทำคลินิก หมอต้องมีฝีมือดีพอ คนไข้ยอมรับ ถึงจะอยู่รอด”

นี่เขาอยากจะเตือนเธอ หรือใช้คำพูดที่ข่มเหงน้ำใจอีกฝ่ายกันแน่ เวลาพูดอะไรปากกับใจไม่ค่อยจะตรง แต่น้ำเสียงมันดูเหยียบและดูถูกก็ไม่ปาน

เมขลา “ขอบใจที่เป็นห่วง ฉันมีแค่โรคเดียวที่ดัดรักษาไม่ได้เท่านั้นล่ะ”

สายตาไม่ยอมคนมองเขาสู้กลับเสมอ เขาไม่เคยเจอสายตามุ่งมั่น แข็งกร้าว และ เจือไปด้วยหวานละมุนและเมตตาแบบนี้ที่ไหน นอกจากคู่ตาสวยของสาวปากเก่งตรงหน้า

หมอเอก “ฮึ ... ก็น่าจะรู้ตัวอยู่นิ”

เขาได้ที แม้จะมีความรู้สึกใจวูบหากว่าเมขลาจะไปเปิดคลินิกเอง มันอาจจะเป็นเหตุผลที่เธอจะลาออกจากที่นี่เป็นแน่

เมขลา “ก็แน่ละ การดัดนิสัย คนแก่ๆ แบบคุณมันเกินกำลังคนอย่างฉัน นี่ก็เลิกงานแล้ว เชิญ”

เธอออกปากไล่เขาออกจากเรือนยาไทย อย่างไม่สนใจ
หน้าน้อยๆ ภายใต้แมส มองเขาแล้วหมุนคางไปทางประตูเป็นการเชิญเขาออกไป

เอกภพลอบถอนใจก่อนจะล้วงเอาเงินวางไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกประตูไป

ใช่สินะ เขาต่อปากต่อคำกับเมขลามาตลอด 5 ปี ไม่เคยชนะแบบเด็ดขาดสักที มีผู้หญิงที่ไหนชอบเถียงกับผู้ชายขนาดนี้ วาจาแสนเชือดเฉือน มิน่าหาสามีไม่ได้

เมขลามองตามสายตาเคืองจัด ก่อนจะหยิบเอาแบงค์สีเทาบนโต๊ะ

เมขลา “เชอะ ถ้าฉันนวดไม่ดี มานวดอะไรทุกเดือน”

เธอบ่นไล่หลัง แม้อีกคนจะไม่ได้ยินแล้วก็ตามที เธอเดินไปล็อกประตูบ้าน เพื่อไม่ให้คนภายนอกข้ามารบกวนระหว่างที่เธอจะเก็บของกลับบ้านได้อีก แล้วหมุนป้ายออกไปว่า “Closed”

เมขลา “หิวๆ ก็หิว”

ปากก็บ่นไป แต่พอเห็นผัดไทยที่กฤษซื้อมาฝากเธอตั้งแต่เข้าในถุงฟอร์ย

เมลขา “เสียหรือยังล่ะเนี่ย กินก่อนดีกว่า”

เธอเอาผัดไทยประตูผีที่อุตส่าห์สั่งแบบส่งเดชไป แต่ก็ได้กินดั่งฝันไว้ ไม่อยากเชื่อว่ากฤษจะเนรมิตรให้เธอได้ตามคำขอ เวลานี้ต่อให้อะไรที่ไม่ชอบกินก็ต้องกินไว้ก่อน

เพราะเธอใช้พลังงานไปกับลุงกลมและหมอเอกไปซะเยอะจนท้องเธอแอบร้องหลายครั้ง หมอเอกก็แปลกคนชอบโผล่มาตอนที่เธอเลิกงานตลอด จะปฎิเสธไม่ทำก็ไม่ได้ ถึงจะโดนเขาเคยว่าไว้สาระพัด

แต่พอเห็นอาการล่อแล่เจ็บปางตายทีไร ก็อดใจอ่อนช่วยเขาไม่ได้สักที ที่ทั้งเธอโดนหมอเอกสบประมาทเรื่องรับคนไข้น้อยแต่ละวัน ทั้งเป็นหมอแผนไทยที่ดูอ่อนด้อยกว่าหมอแผนปัจจุบันในเรื่องเทคโนโลยี

ก็ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงชอบหาเรื่องเธอนัก แต่ก็ช่างเจอคนแบบนี้ก็แค่เอาคืนให้สาสมไป ต่อให้ต้องทะเลาะกันทั้งขาติ เธอไม่คิดจะยอมแพ้เด็ดขาด เรื่องที่ทั้งสองไม่ค่อยยอมความกันเป็นที่รู้ดีของคนทั้งโรงพยาบาล มีหมอเอกที่ไหน หมอเมขก็เตรียมใส่เคี้ยวตลอด แต่ก็ไม่เคยเห็นทั้งสองห่ำหั่นกันขนาดที่ว่าไม่มองหน้ากันเลยทีเดียว

หลังจากกินผัดไทยเสร็จเก็บของเรียบร้อยก็เกือบ 6 โมงเย็น เมขลาเตรียมตัวกลับบ้านเธอเดินไปที่โรงรถ เจอกับหมอแอนและหมอมุขที่กำลังจะกลับเช่นกัน

หมอแอนพอเห็นเมขลา ก็ตรงรี่เข้ามาหา

หมอแอน “ทำไมพึ่งกลับคะ?”

เมข “พอดีมีคนไข้พึ่งทำเสร็จจ๊ะ”

หมอแอน “ไปหาอะไรกินกันไหมคะ”

เมขมองหน้าตาแสนระริกระรี้ของหมอแอนแล้วท่าจะยาวเป็นแน่

เมข “อ้อพี่กินแล้วจ๊ะ ต้องขอตัวกลับก่อนนะ พี่เหนื่อยแล้ว”

เธอรีบเปิดประตูรถแล้วขับออกไปทันที

หมอแอนมองตามอย่างเสียดาย

หมอมุข “ไปกันเถอะ”

เธอเรียกเพื่อนกลับ

 



Create Date : 19 มิถุนายน 2566
Last Update : 20 กรกฎาคม 2566 7:44:43 น.
Counter : 480 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร

  
โดย: หอมกร วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:12:39:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]