Group Blog
All Blog
|
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 11 หน้า 4 นายแม่ผู้เก่งทั้งบุ๋นและบู้ โฆษณาชวนเชื่อให้เหล่าคุณนายได้ฟัง ต่างก็ดูให้ความสนใจ คุณนายฉวีวรรณ “ใช่ค่ะ เดี๋ยวนี้การใช้สมุนไพรกำลังเป็นที่นิยมนะ ยิ่งประเทศจีนเขาสนับสนุนกันมากตั้งนานแล้วนะคะ ใช้สมุนไพร ปลอดภัยกว่ายาเคมี แต่เขาก็ไม่ได้ทิ้งแผนปัจจุบันนะ ให้เป็นทางเลือก นี่คุณนายมาถูกทางแล้ว” แต่ละคนช่างเป็นผู้มองการณ์ไกลอย่างแท้จริง การประจบสอพลอเพื่อเอาหน้าเอาพวก ช่างเป็นเรื่องที่ทำเรื่องหน้าบานให้นายแม่ได้ดียิ่ง กฤษ นิ่งฟังเงียบๆ แม่วรรณ “แล้วหนูฉัตรล่ะจ๊ะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่” ไหนๆ ก็จะทำหน้าที่แม่สื่อแม่ชักแล้ว ก็ต้องพยายามผีผลักสองหนุ่มสาวได้มีโอกาสทำความรู้จักกันไว้ ฉัตร “หนูก็พึ่งกลับมาจากต่างประเทศค่ะ ตอนนี้ก็ช่วยคุณแม่ที่บริษัทก่อน แต่ก็มองดูธุรกิจนำเข้าอยู่นะคะ” แม่วรรณ “เก่งจังเลยนะ สนใจจะมาทำงานที่โรงพยาบาลป้าไหมลูก?” นี่สินะถึงว่าได้เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ ถ้าไม่ชักศึกเข้าบ้านได้ ก็ต้องชักน้ำท่วมเข้าอ่าวไทยได้สักครั้ง ฉัตร “ถ้ามีตำแหน่งที่น่าเหมาะสมก็ยินดีนะคะ” สาวเจ้าก็ไม่พลาดโอกาสที่จะตอบสนองความต้องการคุณนายแม่ ช่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยนัก หากได้มาเป็นลูกสะไภ้คุณนายแม่คงปลาบปลื้มใจหาที่สิ้นสุดไม่ได้ แม่วรรณ “กฤษว่าไงลูก มีงานให้น้องไปช่วยไหม?” แม่พยายามที่จะโยงทั้งสองคนเข้าหากันจนสุดความสามารถที่นางจะทำได้ ก็เอาสิ มันหนีได้หนีไป ถึงจะมีปีกวันนี้ก็ยากที่จะหาทางหนีออกจากวงการจับคู่ของนายแม่ที่วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า พอรู้ว่าลูกชายตัวดีจะกลับมาวันนี้ นางก็รีบโทรนัดเพื่อนๆ มาทานข้าวที่บ้าน แล้วย้ำคุณนายฉวีวรรณหนักหนาให้พาลูกสาวคนเล็กที่นางหมายตาตั้งแต่เจอครั้งแรก มาเจอหน้าลูกชายสุดหล่อให้ได้ ที่แล้วมาจะหลบไหลรวดเร็วราวปลาน้ำจืด แต่คราวนี้ ต่อให้มีปีก มันก็ไม่มีทางบินออกจากกรงดักนกของนางได้ ตลอดเวลา 3 เดือน ไม่คิดจะกลับมาบ้าน ทั้งที่อยุธยาห่างแค่ 2 ชั่วโมง แม่โทรหาก็คุยด้วย 2-3 คำ ยังกะว่านางเป็นผู้หญิงคนอื่น ที่วันๆ ต้องสงวนวาจา 5 คำ 2 ประโยค อายุก็ย่าง 27 แล้ว จะห่วงพรหมจรรย์ เอาไปเข้าวัดเข้าวา ให้วงค์ตระกูลสูญพันธุ์ ไม่ได้ เรื่องอะไรที่แม่คนนี้จะยอม กฤษ นิ่งฟังการเสวนาอย่างเงียบๆ ปล่อยให้แม่โม้ตามอัธยาศัย แต่ใจกลับวนเวียนเห็นหน้าเมขลา ที่ทำสำออยราวจะร้องไห้ เพราะโดนหมอเอกพูดจากดูถูก ไม่ได้ยินที่แม่ถามเขา จนแม่สะกิด เพราะเห็นลูกชายเงียบเกินไป ไม่ยอมมีปฎิกิริยาตอบโต้หรือชวนเหล่าคุณนายและสาวสวยคุยช่วยแม่ แม่วรรณ “ว่าไงกฤษ มีตำแหน่งอะไรที่เหมาะสมกับน้องไหม?” แม้จะรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ตรงหน้านัก กฤษพยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้ กฤษ “ก็แล้วแต่แม่จะเห็นสมควรเถอะครับ” เขาตอบเบาๆ แม่พอจะดูออกว่าลูกชายอึดอัดแล้วอยากจะหนีออกจากวงสนทนาเต็มแก่ ก็ช่างเถอะนางจะตะล่อม ให้เขาทำความรู้จักกับหนูฉัตรเอาไว้ก่อน นี่เป็นเพียงนัดแรกอาจจะยังไม่สปาร์คเท่าไหร่ แล้วคราวหน้าค่อยวางแผนเอามาเจอกันบ่อยๆ เจอบ่อยเข้าเดี๋ยวคงสปาร์คกันสักรอบ กฤษ “ผมทำน้ำอบมาฝากแม่ด้วยนะครับ” เขาเปิดกระเป๋าเพื่อส่งน้ำอบที่เหลืออีก 4 ขวดออกมา ให้แม่ เพื่อหาช่องทางที่จะปลีกตัวออกจากเหล่าคุณนายคุณหญิง แม่วรรณ “โอวว..นี่น้ำอบไทย ไปเรียนทำที่ไหนมา?” แม่ทำเสียงตื่นเต้นรับมาจากลูกชายแล้ววางลงกลางโต๊ะ หยิบอีกขวดมาเปิดดม แม่วรรณ “หอมมากเลยค่ะ นี่มันน้ำอบไทยๆ ถือเป็นน้ำหอมแบบออแกนิกส์นะคะ หอมธรรมชาติมากๆ” แม่ลองหยดใส่มือแล้วทาหน้าทาแขน แม่วรรณ “เย็นด้วยค่ะ ดูสิคะ” แม่หยดใส่มือคุณนายทั้งหลายรวมหนูฉัตรของคุณแม่ด้วย ฉัตร “หอมจริงๆ ค่ะ น้ำอบถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทยเลยนะคะ ต่างชาติ สนใจมากค่ะ เราสามารถทำเป็นสินค้าส่งออกได้ค่ะ” แม่วรรณยิ้มภูมิใจในผลงานการชักจูงมิตรภาพของลูกทั้งสอง และมองเห็นความหลักแหลมของว่าที่สะไภ้ในอนาคต กฤษ “แม่ก็แบ่งๆ ให้ป้าๆ เอาไปลองนะครับ ผมคงต้องขอตัวก่อน จะไปเคลียร์รายงาน” แม่วรรณ “อะไร? อยู่คุยเป็นเพื่อนน้องฉัตรก่อนสิ” แม่พยายามที่จะทอดสะพานให้ลูกชายข้ามไปให้ได้ กฤษ มองหน้าฉัตร แล้วมองหน้าแม่ กฤษ “ผมคงต้องขอตัวครับคุณแม่ นี่ก็ใกล้จะเย็นแล้ว เดี๋ยวจะถึงอยุธยามืดเกินไป” แม่วรรณ “ไหนแกบอกว่าจะอยู่เป็นอาทิตย์ไง” แม่ถามเสียงหลง กฤษ “ผม..เอ่อ....ต้องไปใช้กรรมเก่า ยังไม่หมด” แม้จะดูอึกๆอักๆ แต่มันก็เป็นทางเดียวที่เขาจะไปได้ แม่วรรณ “กรรมเก่าอะไรของแก?” เกือบจะเผลอใส่เสียง 2 ตามหลังลูกชายแล้ว ด้วยหัวเสียมันไม่ได้เป็นไปตามแผน หันมายิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนคุณนายแก้เก้อ แล้วโม้เรื่องอื่นกลบ ความเฉยชาของลูกชายคนเล็กของนางให้ดูเนียนๆ กฤษรีบพาตัวออกจากที่ที่แสนอึดอัดแห่งนั้น สตาร์ทรถออกจากบ้านไปทันที ทำไมเวลาอยู่กับคนอื่น เขาถึงได้อึดอัดมากขนาดนี้ ช่างแตกต่างกับเวลาที่อยู่กับเมขลา นี่จากมาแค่ 10 ชั่วโมง หน้าน้อยๆ ใสๆ ก็เอาแต่วนเวียนลอยรบกวนจนตาฝ้าฟาง เสียงเรียกเขาเบาๆ เสียงนั้น มันทั้งหวานและยั่วยวน จนอยากได้ยินทุกวัน แล้วจะให้เขาอยู่ที่นี่ต่อได้ยังไง 2 ทุ่มกว่า กฤษ เปิดประตูเข้าบ้าน เมขลา กำลังดูซีรี่ย์อย่างชุ่มปอดก็ตกใจ เธอกะว่ากฤษไม่อยู่จะนอนดูทีวีข้างล่างแล้วอาจจะนอนที่โซฟาไปเลย 1 อาทิตย์เธอจะได้นอนแช่ดูซีรี่ย์ ดูหน้าหล่อๆ ของพระเอกจีนอย่างให้หนำใจเธอไปเลย เมขลา “ไหนเธอบอกว่าจะกลับอาทิตย์หน้าไง?” ถึงต้องดีดตัวลุกอย่างตกใจ ตาโต มองเขาด้วยความพิศวง มองหน้าหล่อๆ ของพระเอกไทยตรงหน้า กฤษ “ผมซื้อซูชิเจ้าดังแถวลำลูกกามาฝากครับ” แค่นี้ก็เปลี่ยนคิ้วขมวดเป็นรอยยิ้มสดใสได้แล้ว นี่สิ ถึงจะเรียกว่าสวรรค์ของจริง
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา:10:06:01 น.
|
unitan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |