กุมภาพันธ์ 2567

 
 
 
 
1
2
4
6
7
8
9
11
13
14
16
17
18
20
21
22
24
25
26
28
29
 
 
15 กุมภาพันธ์ 2567
All Blog
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 18 หน้า 1
เมขลากลับบ้านวันนั้นดูสีหน้าว้าวุ่นอมทุกข์จนกฤษสงสัย ก่อนจะไปยังร่าเริงอยู่ดีๆ หรือโดนแม่เขาทำร้ายน้ำใจอะไรมาอีก อยากจะถามเธอ แต่เป็นการดีเสียกว่าที่จะไม่ละลาบละล้วง มื้อเย็นนั่งทานข้าวด้วยกัน เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเธอเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้

กฤษ “มีอะไรหรือเปล่าพี่ กลับมาแล้วหน้าตาไม่ร่าเริงเหมือนไปเลย”

เมขลา “คุณนายแม่เขาหาฤกษ์แต่งงานแล้ว”

ก็ดีแล้วนิ ผู้หญิงทุกคนต้องอยากแต่งงานไม่ใช่เหรอ ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นเธอทุกข์ร้อนใดๆ

กฤษ “พี่ไม่ดีใจเหรอครับ?”

เมขลา “ที่จริง ฉันใช่ว่าอยากจะแต่งหรอก ฉันอาจจะเห็นแก่เงินค่าสินสอด ฉันอาจจะไปตั้งตัวที่ไหนก็ได้ ถ้าเลิกกับลูกชายคุณนายแล้ว ความเสี่ยงฉันมีเยอะ เหมือนคุณนายกับครอบครัวมีปัญหากันยังไงไม่รู้ ฉันก็ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมกับปัญหานั่นด้วยสิ จากชีวิตสงบสุขของฉัน”

เมื่อคิดได้ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เมขลารู้เรื่องความขัดแย้งได้ไว

กฤษ “เงินมันทำให้พี่ตัดสินใจตกลงได้เชียวหรือครับ?”

กฤษถามอย่างผิดหวัง เขาคิดว่าเมขลาน่าจะไม่งกมากมายขนาดนั้น

เมขลา “ทีแรกมันก็มีนะ ฉันก็แค่อยากมีคลินิกเล็กๆ ของฉัน ฉันก็ยังอยากช่วยเหลือคนต่อไป เงินขนาดนั้นฉันหามาทั้งชีวิตก็คงไม่ได้  แต่พอมาคิดดูอีกที ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ลำบากอะไร ฉันก็ได้ช่วยเหลือคนเท่าที่ฉันทำได้”

แม้เหตุผลไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก แต่การต้องถูกจับแต่งงานแบบไม่ได้รัก แล้วแถมเห็นแก่เงินอีก หัวใจเธอทำด้วยอะไรกัน กฤษรู้สึกเจ็บปวด ทั้งที่คนที่ถูกแต่งก็ไม่ใช่ตัวเอง

กฤษ “พี่ก็ขอเขายกเลิกไปสิ”

เมขลา “ฉันก็อยากยกเลิกนะ แต่พอเห็นหน้าคุณนาย ที่อมทุกข์มากว่า 30-40 ปี แล้วก็อดสงสารแกไม่ได้”

กฤษมองหน้าเมขลาอย่างไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมาได้ มีใครในโลกที่จะสงสารคนโหดร้ายแบบแม่เขา คนอื่นๆ ก็มองเห็นความเพรียบพร้อมแทบไม่มีอะไรขาดเหลือ
คนที่อมทุกข์มา 26 ปี คือคนที่อยู่ตรงหน้าเธอต่างหาก

เมขลา “ลูกท่านก็คงจะอมทุกข์เหมือนกันแร่ะ”

แล้วมนุษย์อย่างเมขลาก็รู้ทุกเรื่องบนโลกนี้จริงๆ เธออ่านใจเขาออกแม้ว่าความคิดนั้นไม่มีเสียง แล้วเรื่องของเขานั้นทำไมเธอไม่รู้กันเล่า

เมขลา “ไม่เป็นไรหรอก ก็ลองอยู่ด้วยกันก่อน ถ้ามันเกินกำลังฉัน เขาหาความสุขไม่ได้จริงๆ เราค่อยเลิกกันภายหลังก็ได้”

เธอบอกกฤษ

กฤษ “แต่การที่พี่แต่งเพราะเงินเขาอาจจะเสียใจก็ได้นะครับ”

เมขลา “ถ้าเธอเป็นฉัน เธอจะตัดสินใจยังไง?”

เธอถามกลับ

นั่นสิ เขาจะตัดสินใจยังไง เขารู้ทั้งรู้ว่าเมขลาจะแต่งงานกับพี่ชายอีกไม่กี่วันนี้แล้ว เขายังต้องตัดอกตัดใจแทบขาด ถ้าเขาเป็นเมขลา เขาไม่เคยรู้เลยว่าชีวิตเกิดมาของเธอผ่านอะไรมาบ้าง เมื่อเทียบกับเขาที่เกิดมาบนกองเกินกองทอง เงินค่าสินสอดคงมากพอที่จะทำให้เธอตัดสินใจตอบตกลง ถ้าเมขลาไม่ได้รักเขา เขาจะรั้งเธอไว้อย่างนั้นหรือ?

 
ทั้งสองต่างมีคำถามที่แตกต่างแต่เรื่องเดียวกันให้ครุ่นคิด เมขลาทำเรื่องลางานยาวเป็นอาทิตย์ เสร็จแล้วก็ต้องเดินทางไปอุทัยเพื่อหาตา

ส่วนกฤษ ต้องทำงานอยู่คนเดียวอย่างเหงาๆ พอถึงวันแต่งเขาค่อยไปก็คงไม่เป็นไร เพราะเขาเป็นแค่น้องเจ้าบ่าว

เมขลาขับรถไปบ้านที่อุทัย ยามนี้ไม่มีบ้านเธอที่นี่แล้ว ตั้งแต่พ่อแม่ตายไป เธอก็ไม่เคยมาเหยียบอีกเลย

เธอเจอน้าที่หน้าบ้าน

น้า “ไม่คิดว่าจะมาหากันอีก”

เสียงน้าที่ดูห่างเหินพูดกับเธอ

น้องสาวแม่คนเดียวนี้ เมื่อก่อนเดิมที ก็ดูแสนดีกับพี่สาว พ่อกับแม่ให้ค่าช่วยดูแลตาและบ้านช่อง เพราะพ่อกับแม่เธอค้าขายอยู่ในเมืองไม่ได้ออกมาหาตาบ่อย น้าขออะไรก็ให้ ทำเอาน้าได้ใจ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ที่ทางที่ตาแบ่งให้แม่ แม่ให้น้าทำมาหลายปีโดยไม่คิดค่าเช่า นางก็หวังเมขลาจะยกให้ฟรีๆ  หลังจากแม่ตายเพราะเธอไม่คิดไปทำมาหากินที่นั่น แต่เมขลาก็ไม่ยอมยกให้ ทำเอามีเรื่องขัดใจกันมาเป็น 10 ปี พูดกับเธอ เธอก็นิ่งเฉย แถมเมขลาไม่มีเงินรายเดือนให้น้าเหมือนพี่สาวเธอ ทำให้เธอขาดรายได้และรู้สึกขุ่นเคืองใจ

เมขลารู้สึกผิดอยู่บ้างที่ไม่ค่อยแวะมาหาตา เธอมานานๆ ที แม้จะอยู่ใกล้กันขนาดนี้ บางทีก็เอาเงินมาให้ตาใช้จ่ายตามที่เธอพอจะให้ได้ ส่วนน้าเธอไม่ได้สนิทตั้งแต่เล็ก แถมน้าก็ชอบพูดจาดูถูกเธอสาระพัดตั้งแต่แม่เสีย อยากจะเข้ามาดูแลสมบัติที่พ่อกับแม่หามาไว้ก่อนเสีย หวังจะฮุบสมบัติของเธอ แต่เมขลาบรรลุนิติภาวะแล้ว เธอจัดการได้เอง บ้านในเมืองเมขลาก็ให้คนเช่า กิจการที่พ่อแม่เคยทำไว้เธอขายกิจการ แบ่งให้น้ากับตาเพียงเล็กน้อย สร้างความขัดใจให้น้าเธออยู่มาก นางหวังว่าจะได้มากกว่านั้น แล้วจนล่วงเลยมาหลายปีขนาดนี้ ก็คงจะใช้ไปหมดเสียสิ้น

เมขลา “หนูจะมารับตาไปงาน”

น้า “งานอะไร?”

เมขลา “งานแต่งหนู”

น้า “เหอะ นี่คิดจะแต่งกับเขาด้วยเหรอ เห็นแก่จะขึ้นคานอยู่รอมร่อ”

เมขลา “ก็ไม่คิดว่าจะได้แต่งหรอก บังเอิญเขามาขอ”

น้า “มาขอยังไง ไม่เห็นมีผู้ใหญ่มาขอที่นี่”

น้าทำเสียงไม่พอใจข่มเหงเธอ เมขลามองหน้าสตรีสูงวัยที่แสนใจร้ายและใจดำ

เมขลา “แล้วทำไมเขาจะต้องมาขอที่นี่ พ่อแม่หนูตายไปแล้ว”

เธอมองจ้องน้าอย่างไม่ลดละ ทำเอาผู้สูงอายุผงะ กับสายตาดุเฉียบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันโตมายังไงกัน แข็งกร้าวใส่ผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่มีความเคารพยำเกรง

น้า “อย่างน้อย ก็ยังมีฉัน และตาแกอยู่ที่นี่”

อย่างน้อยก็เอาเสียงข่มมันไว้ก่อน หวังให้หลานมันสำนึกในบุญคุณ ซึ่งบุญคุณที่นางคิดเองนั้นมันก็ไม่มีเลย

 



Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2567
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2567 9:39:50 น.
Counter : 216 Pageviews.

1 comments
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร

  
โดย: หอมกร วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:7:41:56 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]