Oh!! my sassy boss ตอนที่ 29 หน้า 4
หมอเอกอาศัยจังหวะที่ทุกคนเดินเข้าไปในร้านก่อน
หมอเอก “ผมคิดว่าเราจะมาแค่ 3 คน”
เขาแทบจะกัดเหงือกพูด แค่ 3 คนก็ลำบากใจจะแย่ น้ำฝนที่ทำหูทวนลม
น้ำฝน “อะไรนะคะ..นี่ๆ หมอเอกไม่รู้อะไร ว่าหมอเมขนะ สนิทกับป้าโสมกับป้าแป๋วนะ ถ้าสองคนนี้โอเค หมอเมขก็โอเค”
น้ำฝนรีบยื่นข้อเสนอที่จะให้ตัวเองรอดโดยเร็วไวก่อนจะรีบเปิดแนบไปให้ทันผู้สูงวัยทั้ง 2
เมื่ออาหารทยอยมาเสริฟ
อาหารทะเล 10 เมนู 1599 บ นับว่าเป็นเรื่องที่ทำเอาน้ำฝนตื่นตาตื่นใจไม่สนใจว่าใครจะจีบใครแล้ว เธอลงมือทานก่อนโดยไม่อยากมองหน้าหมอเอกที่ทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ
เมขลาชวนป้าโสมกับป้าแป๋วคุยกันต่อ
ป้าโสม “คุณกฤษไปทั้งอาทิตย์เลยสินะคะ”
ป้าโสมคุยกับเมขลา ถ้าใครตั้งใจฟังก็จะสะดุดหูตรงที่ป้าโสมเรียกคุณกฤษ
เมขลา “ค่ะ”
ป้าโสม “ก็ให้น้ำฝนไปช่วยหมอเมขทั้งอาทิตย์เลยก็แล้วกัน”
เมขลา “ไม่เป็นไรหรอกป้า”
ป้าโสม “พูดแบบนี้ไม่ได้นะ เดี๋ยวเจ้านายรู้จะเป็นเรื่องเอา”
เมขลา “นายไม่รู้หรอกค่ะ”
เธอตอบยิ้มๆ ทุกคนฟังอาจจะดูเป็นบทสนทนาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ หมอเอกสะดุดที่ป้าโสมดูเกรงอกเกรงใจเมขลากว่าเมื่อก่อน แล้วยังพูดถึงนายอีกทำยังกับว่าเมขลานอกจากเป็นลูกรัก ผอ แล้ว ยังจะเป็นลูกรักของ นายอีกหรือ แต่ก็ช่างเถอะไม่ใช่เรื่องของเขา
น้ำฝน “ไม่มีปัญหาค่ะ หนูจะไปอยู่เรือนยาไทยจนกว่าหมอกฤษ จะกลับ”
คนที่สนองตอบเหตุการณ์ต่างๆ ได้ไว เห็นจะเป็นน้ำฝน
เมขลา “แต่เดือนหน้าเขาก็ฝึกงานเสร็จแล้วนะ ทุกคนจะทำให้ฉันเคยชินแล้วอยู่คนเดียวไม่ได้เชียวนะ”
เธอรีบแย้ง
ป้าโสม “นี่มาฝึกงานเหรอคะ นึกว่ามาทำงานจริง ฮ้าๆๆ”
ป้าโสมเผลอขำ เพราะเห็นกฤษมานานจนจะครึ่งปีแล้ว
เมขลา “ฝึกงานค่ะป้าโสม ไม่ได้อยู่ประจำ อย่าเข้าใจผิด”
เมขลาตอบขำๆ
หมอเอกแอบฟังอย่างดีใจ อย่างน้อยไม่มีมารหน้าหล่อนั่งเฝ้าเมขลาทุกวันแล้วหนึ่ง ตั้งแต่หลังจากสงกรานต์มานี่ ดูเขาเข้าถึงเมขลายาก เพราะมีสายตากฤษจ้องแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ทำยังกะเป็นผีบ้านผีเรือน ใช้สายตาจิกกัด ไม่อยู่ก็ดีแล้ว เขาแอบดีใจ อย่างน้อยการสนทนาของสาวๆ ก็ทำให้เขารู้สึกดี มีข้อมูลดีๆ ที่หัวใจชุ่มชื่นบ้าง
ทุกคนทานไปเรื่อยๆ สนทนากันอย่างสนุก
ป้าโสม “ไม่ค่อยได้มาทานข้าวกับหมอเอกเลยค่ะ วันนี้อาหารอร่อยจัง”
หมอเอกฝืนยิ้ม
หมอเอก “อร่อยมากครับ ผมก็ดีใจที่ทุกคนชอบ ร้านนี้ผมก็ดูมานานแล้ว แต่หาเพื่อนมาทานไม่ได้”
แม้ปากและหน้าตาจะดูระรื่นแต่ในใจกับตีบตัน
น้ำฝน “แบบนี้ชวนพวกหนูได้ทุกเดือนนะคะ”
ข้อเสนอที่ไม่คิดอยากสนอง หมอเอกจิกตามองน้ำฝนอย่างเก็บอารมณ์ น้ำฝนรีบลอยหน้าลอยตามองทางอื่น
หมอเอก “หมอเมข ชอบทานไหมล่ะครับ”
เขาพยายามถามคนที่อยากชวน
เมขลา “นานๆ มีคนเลี้ยงทีก็ไม่เลวนะคะ”
เธอยักคิ้วให้ ทำให้หมอเอกมีกำลังใจ คิดว่าแผนการวันนี้น่าจะมัดใจสาวได้
ป้าแป๋วป้าโสม ไม่ได้คิดว่า หมอเอกจะมีเจตนาอย่างอื่น ก็คิดแค่ว่าสองคนนี้เป็นเพื่อนกันเหมือนหมอทั่วไป แม้จะมีแว๊บความคิดว่า ธรรมดาหมอเอกมีความหยิ่งยโสกับเพื่อนร่วมงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นหมอแผนปัจจุบัน ยิ่งพยาบาลแม่บ้านก็แทบจะไม่ชายตาเหลียว แล้วยิ่งหมอแผนไทยที่มีเพียงกิ่งเดียวในโรงพยาบาล ช่างเป็นที่สนุกสำหรับแทะแซะกัดของหมอเอกเสมอมา วันนี้พูดดีด้วยก็อาจจะเป็นธรรมดาเพื่อนรักหักเลี้ยมแค้น คนไหนรักกันบ่อยก็ทะเลาะกันดี แต่นิยามนี้ใช้กับเพื่อนได้ใช่ไหม?
เมขลาหยิบโทรศัพท์แล้วกดถ่ายรูปอาหาร และทุกคนที่มาทานด้วยกัน แล้วเหมือนกำลังส่งให้ใครสักคนดู
คนที่เปิดดูรูปอาหารก็ไม่มีอะไรจนเห็นรูปที่ถ่ายรวมสมาชิกที่ร่วมทานอาหารเย็น ทำเอาลมแทบออกหู
กฤษ “อร่อยมากไหมมื้อเย็น?”
ข้อความเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าได้เห็นหน้าคงเห็นแล้วว่ามีลมออกหู
เมขลา “อร่อย”
กฤษ “ทานเสร็จแล้ว รีบกลับบ้านนะ..”
เมขลาอ่านแล้วทำหน้างง ทำไมกฤษต้องบอกให้เธอรีบกลับบ้าน
กฤษ “ไม่ต้องไปต่อที่ไหนนะ”
เมขลา “แล้วจะต้องไปต่อที่ไหนล่ะ”
นั่นสิ ชีวิตเธอไม่ค่อยออกไปหาอะไรทานนอกบ้านอยู่แล้ว วันๆ กฤษก็เห็นว่า เธอทานข้าวกับเขา ดูทีวีด้วยกัน แล้วแยกย้ายนอน ออกคำสั่งยังกะเธอเป็นเด็กน้อยแบบนี้ ทำเอาแอบฉุน
เมขลา “แปลกคน”
เธอเผลอบ่นออกมา
หมอเอกพยายามดูข้อความในไลน์ที่เธอพิมพ์ตอบโต้ แต่ด้วยตัวหนังสือเล็กเกินไปเลยไม่รู้ว่าเธอพิมพ์ตอบอะไรกับใครก็อดสงสัยไม่ได้
กฤษ พอเห็นว่าเมขลาไปทานข้าวเย็นกับหมอเอกก็อยู่ไม่สุขรีบเก็บของกลับบ้าน ใจหนึ่งก็อยากขับรถไปอยุธยา แต่ก็ต้องตัดใจเพราะรถติด ได้แต่ส่งข้อความไปตามเมขลาให้รีบกลับบ้าน มันเข้าข่ายแมวไม่อยู่ หนูร่าเริงแบบนี้ ไม่ได้การณ์