กันยายน 2567

1
2
4
5
7
8
9
11
12
13
15
16
18
19
20
21
22
23
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
Oh!! my sassy boss ตอนที่ 33 หน้า 2
พระอาจารย์ “บางทีคนเรารู้ว่าทุกข์ แต่ก็มีความยินดีที่จะอยู่กับทุกข์ วันนี้เจ้าทุกข์ วันหน้าเจ้าก็ทุกข์ ถ้าคิดจะทุกข์ตลอดไป ก็ต้องยอมรับกับทุกข์นี้ให้ได้”

กฤษมองหน้าพระอาจารย์อย่างใช้ความคิด

กฤษ “อาจารย์แล้วคิดว่าผมจะเจอบ้างไหมทางดับทุกข์”


ช่างเป็นคำถามที่โง่เง่านัก


พระอาจารย์ “ก็เจ้าบอกเองว่าเข้าไปแล้ว ออกไม่ได้ แล้วยังจะหาทางดับทุกข์ได้อย่างนั้นรึ”


เสียงแทบจะดุ


กฤษ “เราก็ต้องทำความเข้าใจทุกข์แล้วอยู่กับมัน”
พระอาจารย์ “ถ้าเจ้าเข้าใจทุกข์นั้นแล้ว อยู่กับมันได้ เจ้าก็ไม่ทุกข์แล้ว ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์”
กฤษ “ทำไมพระอาจารย์รู้ล่ะขอรับ พระอาจารย์เคยมีความรักเหรอครับ”


ช่างเป็นคำถามที่งี่เง่าอีกแล้ว
 
นับว่ากฤษเองไม่ได้สิ้นซึ่งปัญญานัก อาจารย์ยิ้มก่อนจะเอาน้ำมนต์มาเคาะหัวให้ 1 ที เพื่อเรียกสติหรือบังอาจมาล้อเล่นกับอาจารย์


พระอาจารย์ “กลับบ้านซะ ถึงทุกข์มันอยู่ที่บ้าน ถ้าเจ้าเจอว่าความสุขมันอยู่ตรงไหนก็เก็บมันเอาไว้ อย่างน้อยมันก็เป็นทางดับทุกข์ให้เจ้าได้ แม้ความสุขมันไม่จีรังก็จริง แล้วเมื่อใดที่เจ้าเข้าใจทุกข์ที่เกิด เจ้าก็จะดับทุกข์นั้นได้เอง”


โดนเคาะหัวมา 1 ที โทษฐานที่หอบเอาทุกข์มาให้อาจารย์เทศนาเสียได้ ทั้งที่สั่งสอนกันมาดิบดีร่วมพรรษา แต่กฤษลาสึกขามาหลายปีแล้ว ความเป็นฆราวาสย่อมมากว่าเดิมเป็นธรรมดา



พระอาจารย์ “คราวหน้า ก็มาหาข้าดีๆ นะ พาแฟนมาด้วย”


พระอาจารย์สั่งเสียลูกศิษยที่ก้มลงกราบ กฤษยิ้ม ก่อนจะออกจากกุฎิมา ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เขาตัดสินใจที่จะกลับอยุธยา แม่บอกเวลา 2 เดือนค่อยให้คำตอบท่าน ส่วนเมขลา ตามตกลงกันไว้คือเหลือ เวลา ไม่ถึง 1 เดือน แม้จะมีความเหลื่อมล้ำกันทางเวลาก็ไม่ใช่ปัญหาของเขานัก เขาจะขอเลื่อนคำตอบออกไปเป็นสิ้นปีให้หมด ในเมื่อทุกคนเอาแต่ใจ แล้วทำไมเขาจะเอาแต่ใจบ้างไม่ได้


แม่ก็ยอมมาหลายเรื่องแล้ว แต่งก็ยอมแต่งให้แล้วอยู่ๆ จะมายอมหย่าเอาง่ายๆ ก็ฝันไปเถอะ
เมขลาก็เอาแต่ใจ จะให้เวลาเขาแค่ 2 เดือนอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยา มันก็น้อยไป แล้วไอ้เรื่องที่บอกเป็นหมันอะไรนั่น เดี๋ยวเขาจะพิสูจน์เอาเอง
พูดแล้วก็นึกขำตัวเองนัก แล้วเขาจะทุกข์ใจไปใยเล่า
แค่ผู้หญิงสองคน คนหนึ่งก็แม่ ที่ไม่เคยฆ่าแกงเขาจริงจังดังปากว่าสักหน


อีกคนก็เมีย ถึงจะพึ่งเคยเจอกัน อยู่ด้วยกันมาครึ่งปี แต่เขาก็รู้สึกคุ้นเคยราวกับเคยอยู่ด้วยกันมาหลายปี ถึงเธอจะไม่เคยบอกว่ารัก แต่ก็มีความสุขด้วยกันดีมาตลอด


 
เมขลากลับบ้าน อย่างหงอยๆ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วที่กฤษไม่ติดต่อหาเธอเลยทำเอาเธอ จากที่คิดว่าไม่มีเขาก็ได้ ชีวิตนี้อยู่คนเดียวมานานแล้ว กฤษณะจะมาปั่นชีวิตเธอให้ไข้วเขวไม่ได้ ความหนักแน่นและแข็งแกร่งที่ผ่านแต่ละปีมานั้น จะมาพ่ายแพ้ให้หน้าหล่อๆ ของเขาไปได้อย่างไร



แล้วอีกอย่างเธอไม่ต้องการมีความรัก เธอไม่อยากมีทุกข์
ต้นเหตุแห่งทุกข์คือรัก เรื่องอะไรจะต้องมีรักแล้วให้ทุกข์
เรื่องง่ายๆ แบบนี้ ไม่เห็นต้องไปวัดก็รู้


คุณนายวรรณคดีคงเริ่มงานของนางแล้ว ไม่รู้ว่านางจะพูดให้กฤษหย่ากับเธอยังไง แต่ที่แน่ๆ การที่เขาไม่ติดต่อมาหาเธอ เขาอาจจะกำลังตัดสินใจบางอย่างอยู่ก็ได้ ในเมื่อเขามีคำตอบของเขาแล้ว เธอก็ควรคิดหาคำตอบให้ตัวเองด้วย แต่สิ่งที่เธอดันไปสัญญากับนายแม่ ซึ่งก็ผลต่อจิตใจของเธอเล็กน้อย หากว่าเขาไม่รักเธอจริงๆ เธอจะกล้าปลุกปล้ำเขาหรือไม่?
แล้วคนอย่างเธอ จะไปปล้ำผู้ชายทำไม?


สวยๆ อย่างเธอ นั่งอยู่เฉยๆ ก็สวย เก็บแรงไปเดินช้อปปิ้ง กินของอร่อยในห้างจะดีกว่า
แม้จะพยายามทำใจแข็งเท่าไหร่
 


แต่เสี้ยวหนึ่งของหัวใจเธอก็ไม่อาจจะปฎิเสธ ที่ๆ เคยมีกฤษ นั่งอยู่ มันสร้างความสุข เธอก็มีความสุขไม่น้อย


มองดู Line ตัดสินใจอยู่นานว่าจะ Line หากฤษดีหรือไม่ ทั้งสองจิตสองใจ ว้าวุ่น จนไม่รู้จะทำอะไรดี หัวใจว้าวุ่น พอถึงเวลาจริงๆ กลับเป็นเธอที่ใจสั่นถ้าหากต้องเสียกฤษไปจริงๆ จนต้องตั้งสติดีๆ สั่นหัวตัวเองขับไล่ความยุ่งเหยิงทางความคิด เลยอาบน้ำนอน
 


กฤษขับรถมาอย่างใจเย็น หลังจากที่แวะกินข้าวจนเรียบร้อยกฤษมาถึงหน้าบ้านเกือบ 3 ทุ่มพร้อมกับประกายฟ้าที่แปล๊ปๆ บ่งบอกเรื่องของฟ้าฝนกำลังมา ท้องฟ้าอีกฟากไร้เดือนและดาวมีเพียงความขาวโพลนของฟ้าฝนที่กระหน่ำไล่มาอย่างมืดฟ้ามัวดิน อีกไม่นานคงจะมาถึงที่นี่ เขานั่งอยู่ในรถอย่างใจเย็นไม่ได้รีบร้อน เมขลาชอบนอน 4 ทุ่ม วันนี้อากาศเย็น ฝนตก เธออาจจะนอนไวขึ้น หรือไม่ก็อาจจะดูซีรี่ย์ของเธอ เพราะไม่มีเขาอยู่ก่อกวน เธอมักจะดูซีรี่ย์เพลินๆ แล้วหลับไป เมื่อเห็นไฟในห้องของเธอดับลงแล้ว พร้อมกับฝนที่เทลงมา จนมืด กฤษ รีบลงจากรถไปเปิดประตูเข้าบ้าน โดยจอดรถไว้หน้าบ้านแบบนั้น
เสียงฝนตกหนักพร้อมเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าเป็นระยะ กฤษ ตัวเปียกฝน เข้าห้องเล็กเพื่อเอาเสื้อผ้ามาอาบน้ำหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ผ่านไปนานพอสมควร เมขลาคงนอนหลับไปนานแล้ว กฤษ ไขประตูเข้าห้องอย่างเงียบๆ แต่กระนั้นเมขลาคงไม่ได้ยินเพราะเสียงฝนตกหนัก โชคดีที่เขาขอกุญเจห้องเธอไว้ก่อนไป ทั้งที่เจ้าของห้องเหมือนจะไม่ยอม แต่เธอก็ยังยอมบอกว่ากุญเจสำรองเอาไว้ที่ไหน ลูกที่เป็นห้องเธอจะผูกด้ายสีเอาไว้ แค่นี้ก็ทำให้เขารู้ว่าเธอยอมให้เข้าห้องได้แล้ว กฤษรู้ตำแหน่งของที่นอน เขาเดินมายืนปลายเตียง แสงจากฟ้าผ่าพอทำให้เห็น ร่างเมขลาที่นอนคะแคงห่มผ้าบนที่นอนนิ่งในมุมที่เธอชอบนอน เขานั่งลงที่ขอบเตียงก่อนจะนอนลงข้างๆ เธอ แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มเธอ


เมขลากึ่งหลับกึ่งตื่น เสียงฟ้าผ่าทำให้เธอเผลอตื่นขึ้นมา รับรู้ถึงเตียงที่มีน้ำหนักคนขึ้นมาข้างๆ ไม่นานนักหลังเธอก็อุ่นขึ้น เธอขยับตัวเล็กน้อย



เมขลา “กฤษเหรอ”

 



Create Date : 28 กันยายน 2567
Last Update : 28 กันยายน 2567 15:17:49 น.
Counter : 379 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณ**mp5**

  
ตอนหน้านี่เผด็จศึกมั๊ยคะ

โดย: หอมกร วันที่: 28 กันยายน 2567 เวลา:20:27:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]