3. อันดับกริดสตาร์ทใหม่
*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นบางส่วน
อุณหภูมิ: 25 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 44 องศา
ไฮไลท์Q1ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นอกจากทั้งสองคันของมารุสเซียและแคเทอร์แฮมแล้ว นักขับโลตัสก็ไม่ผ่านเข้าสู่ Q2 ทั้งสองคน โรแมง โกรส์ฌอง วิ่งอย่างจำกัดเพราะก่อนถึงการควอลิฟายนั้น ทีมงานตรวจพบว่ารถของเขามีของเหลวรั่วซึม ทำให้เขาต้องเสียเวลา 13 นาทีแรกสำหรับการซ่อมรถ
Q2คิมี่ ไรค์โคเน่น ไม่ผ่าน Q2 อีกครั้ง แม้ในการวิ่งรอบสุดท้ายตามแผนก็ยังไม่สำเร็จเมื่อมีรถที่ออกจากพิตมาขวางหน้าจนต้องทิ้งรอบไป แต่ถึงจะพยายามอีกครั้งก็ยังไม่เป็นผล ส่วนดาเนียล คัฟยาต ที่ต้องทำอันดับให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะเขาต้องเตรียมโดนปรับกริดสตาร์ทจากการใช้เครื่องยนต์ตัวที่ 6 ก็ทำได้อันดับที่ 11 โดยช่วงสุดท้ายเป็นเขาที่เบียดไรค์โคเน่นตกลงไป ก่อนที่นักขับเฟอร์รารี่จะหลุดออกจาก 10 คันแรกด้วยฝีมือของเควิน แม็กนุสเซ่น ในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา
Q3ลูอิส แฮมิลตัน คว้าตำแหน่งโพลได้สำเร็จหลังจากได้มาครั้งล่าสุดในรายการสแปนิช กรังด์ปรีซ์ เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยเขาทำเวลาดีที่สุดได้ตั้งแต่รอบแรกที่ลงวิ่ง ขณะที่นิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมทำเวลาช้ากว่าเขาในทุกช่วงของสนามแม้จะพยายามอีกครั้งในรอบสุดท้าย แต่ยังได้ออกตัวคู่กันในแถวหน้า ด้านวิลเลียมส์และแม็คลาเรนก็มาตามนัด ซึ่งทีมจากอังกฤษทั้ง 2 ทีมจะได้ออกคู่กันในแถวที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนเจ้าบ้านที่เหลือเพียงคันเดียว เฟอร์นันโด อลอนโซ่ จะได้ออกตัวคู่กับเซบาสเตียน เวทเทล
ข้อมูลเพิ่มเติม- อันดับเวลาเร็วที่สุดในแต่ละช่วง (Best Sector Times) คลิก
ที่นี่- อันดับการใช้ความเร็วมากที่สุดที่จุดตรวจจับ (Speed Trap) คลิก
ที่นี่- พยากรณ์อากาศล่าสุด
รถเครื่องยนต์เมอร์เซเดสเหมาทั้ง 6 อันดับแรกจากการควอลิฟาย แต่ถือว่าเวลาไม่ขาดจากผู้นำมากเท่ากับสนามอื่นๆ เรามาลุ้นด้วยกันนะคะว่านอกจากเร้ดบูลแล้ว จะมีทีมอื่นเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกนำหน้าเมอร์เซเดสอีกหรือไม่ รวมทั้งจับตามองว่าคู่นักขับเมอร์เซเดสเองจะมีวิธีต่อสู้กันในสนามอย่างไร ติดตามได้ในรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ วันพรุ่งนี้เวลา 19.00 น. ค่ะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1
ภาพจาก formula1.com และ nextgen-auto.com