'รถแฟรนไชส์' แก้ปัญหาได้จริงหรือ?
หมู่นี้เราได้ยินคำว่า "รถทีมลูกค้า" หรือ customer cars ซึ่งหมายถึงรถที่ทีมผู้สร้างทีมหนึ่งผลิตและขายให้กับทีมแข่งอื่นอยู่บ่อยครั้งนะคะ เพราะนี่อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาจำนวนรถในกริดน้อยลง ในขณะที่บางฝ่ายก็ไม่ได้เห็นด้วย
รถทีมลูกค้า หรือที่ตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "รถแฟรนไชส์" เริ่มกลับมาเป็นหัวข้อสนทนาจากการที่รอน เดนนิส ซีอีโอของแม็คลาเรนได้เชิญทางเฟอร์รารี่ เมอร์เซเดส และเร้ดบูลมาร่วมพูดคุยกันในประเด็นนี้ระหว่างการแข่งขันที่แคนาดา โดยพวกเขามีเป้าหมายให้แผนนี้เป็นมาตรการฉุกเฉินรองรับหากว่าในอนาคตมีทีมใดทีมหนึ่งจำเป็นต้องถอนตัวออกจากฟอร์มูล่าวัน
อย่างไรก็ตาม บรรดาทีมระดับกลางลงไปก็ไม่ได้ปลื้มกับแนวคิดนี้ พวกเขาคิดว่านี่เป็นทางหาเงินของทีมใหญ่อีกทางต่างหาก ทั้งยังเป็นการแผ่อำนาจของทีมระดับบิ๊กอีกด้วย ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าวก็อาจคิดได้ว่านี่คงเป็นสาเหตุที่เหล่าทีมใหญ่ไม่ได้แสดงความสนใจจะช่วยเหลือทีมเล็กในด้านการเงิน
ปัจจุบันด้านการเงินของทีมใหญ่กับทีมเล็กมีความแตกต่างกันมาก รายได้ที่เข้ามาของฟอร์มูล่าวันไหลไปที่ทีมใหญ่มากกว่าจากข้อตกลงเข้าร่วมการแข่งขันฉบับปัจจุบัน แถมทีมอย่างเมอร์เซเดสและเฟอร์รารี่ยังมีรายได้จากการขายเครื่องยนต์ให้กับทีมลูกค้าปีละ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นจากแนวคิดใหม่เรื่องการทำรถแฟรนไชส์จึงดูเหมือนว่าทีมใหญ่ที่ร่ำรวยอยู่แล้วจะยิ่งรวยขึ้นไปอีก
จากคำบอกเล่าของบ็อบ เฟิร์นลีย์ รองหัวหน้าทีมฟอร์ซอินเดีย เขากล่าวว่าทีมอิสระอย่างฟอร์ซอินเดีย วิลเลียมส์ โลตัส หรือเซาเบอร์ จะได้รับเงินรายได้ประมาณปีละ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ปัญหาคือทีมเหล่านี้ต้องใช้เงินอยู่ที่ระหว่างปีละ 120-140 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฟอร์มูล่าวันควรต้องกดต้นทุนการทำทีมลงมาให้เกิดความยุติธรรมและกระจายรายได้ไปยังทีมต่างๆ อย่างเท่าเทียมกัน มาตรการทั้งสองอย่างนี้จะช่วยรักษาสถานะของทีมอิสระเอาไว้ได้
แม้จะรู้ต้นเหตุดี แต่ดูเหมือนว่ากลุ่มกลยุทธ์ฟอร์มูล่าวันซึ่งประกอบด้วยทีมใหญ่เป็นหลักจะยังปักใจกับแผนการทำรถแฟรนไชส์ในกรณีที่จำนวนรถในกริดลดลง ซึ่งเฟิร์นลีย์เชื่อว่าหากใช้มาตรการนี้จริงจะก่อให้เกิดปัญหามากมายตามมา เขาเชื่อว่าทีมอิสระเป็นกระดูกสันหลังของฟอร์มูล่าวัน สำหรับเขา ทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือแก้ปัญหาของทีมอิสระเหล่านี้ให้ได้
ด้านโมนิชา คาร์ลเทนบอร์น ทีมบอสหญิงแห่งเซาเบอร์ก็แสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกับฟอร์ซอินเดียที่ว่าการทำรถแฟรนไชส์จะกลายเป็นช่องทางรายได้ของทีมใหญ่มากกว่าช่วยเหลือทีมเล็ก สมมติว่าข้อตกลงรถแฟรนไชส์คันหนึ่งอยู่ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากสัญญาอายุ 5 ปีก็เท่ากับ 250 ล้านเหรียญ และถ้ารถ 2 คันก็จะต้องเสียไม่ต่ำกว่า 500 ล้านเหรียญ เห็นตัวเลขรายได้ที่จะเกิดขึ้นกับทีมใหญ่ได้ไม่ยากเลย
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาตามมา จะกลายเป็นว่าทีมใหญ่เข้ามาควบคุมและถือลิขสิทธิ์ในทีมเล็กมากขึ้นหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้พูดคุยกันที่แคนาดา ไหนจะพาร์ตเนอร์ของทีมอิสระเองอีกที่จะต้องเคลียร์กันให้ได้ เพราะทั้งหมดทั้งมวลนี้เกี่ยวเนื่องด้วยเรื่องของรายรับนั่นเอง ที่สำคัญที่สุดคือคุณค่าของทีมอิสระเหล่านี้จะลดลงหรือไม่ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าแฟนๆ ฟอร์มูล่าวันจะพอใจให้เป็นเช่นนี้
ชัดเจนว่าทีมระดับกลางคิดอย่างไรกับแนวคิดรถทีมลูกค้าหรือรถแฟรนไชส์ แล้วกลุ่มกลยุทธ์ฟอร์มูล่าวันจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป เราคงต้องติดตามสถานการณ์กันไปเรื่อยๆ จนกว่าแนวทางแก้ไขจะตกผลึกได้ในที่สุดค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
กลุ่มกลยุทธ์ฟอร์มูล่าวัน (F1 Strategy Group) ประกอบด้วยสมาชิกถาวร 5 ทีม ได้แก่ เฟอร์รารี่ เร้ดบูล แม็คลาเรน เมอร์เซเดส และวิลเลียมส์ ในขณะที่ทีมที่มีอันดับดีที่สุดตามมาจะได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในปีถัดไป โดยปีที่แล้วเป็นโลตัส ส่วนปีนี้ได้แก่ฟอร์ซอินเดีย
*ข้อมูลจาก motorsport.com และ autoweek.com ภาพจาก motorsport.com
Create Date : 17 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 17 มิถุนายน 2558 23:04:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1617 Pageviews. |
|
|