ถ้าไม่นับว่าโลตัสปล่อยมาแต่รูปภาพรถ มารุสเซียก็ถือเป็นทีมสุดท้ายที่เปิดตัวรถประจำฤดูกาล 2014 ซึ่งในตอนแรกพวกเขาตั้งใจจะเปิดผ้าคลุมรถตั้งแต่วันแรก แต่เกิดเหตุขัดข้องที่ทำให้ต้องเลื่อนมาจนถึงการทดสอบวันที่ 3 รถมารุสเซียเป็นอีกคันที่ใช้เครื่องยนต์เฟอร์รารี่และอยู่ภายใต้ขั้นตอนการผลิตมามากกว่า 2 ปี ในส่วนของจมูกก็เป็นแบบของตัวกินมดดังเช่นหลายๆ คัน แต่พวกเขาก็ใช้สีดำช่วยอำพรางส่วนปลายนั้นไว้อย่างแนบเนียน


**********************************************


ผลการทดสอบที่สนามเฆเรซ วันที่ 3
(พฤหัสบดีที่ 30 มกราคม)

1. Kevin Magnussen (McLaren-Mercedes) 1m23.276s (52 laps)
2. Felipe Massa (Williams-Mercedes) 1m23.700s / +0.424s (47)
3. Lewis Hamilton (Mercedes) 1m23.952s / +0.676s (62)
4. Jenson Button (McLaren-Mercedes) 1m25.030s / +1.754s (40)
5. Fernando Alonso (Ferrari) 1m25.495s / +2.219s (58)
6. Nico Hulkenberg (Force India-Mercedes) 1m26.096s / +2.820s (17)
7. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Renault) 1m29.915s / +6.639s (30)
8. Adrian Sutil (Sauber-Ferrari) 1m30.161s / +6.885s (34)
9. Robin Frijns (Caterham-Renault) --No time-- (10)
10. Daniel Ricciardo (Red Bull-Renault) --No time-- (3)
11. Max Chilton (Marussia-Ferrari) --No time-- (5)

เควิน แม็กนุสเซน นักขับหน้าใหม่ของแม็คลาเรนทำได้น่าประทับใจในการได้จับรถเป็นครั้งแรก โดยเขาผลัดมือกับเจนสัน บัตตัน เมื่อเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมงครึ่ง ทำเวลาเร็วที่สุดในวันที่ 3 ด้วยยางมีเดียม แต่โดยภาพรวมแล้วยังคงเป็นเมอร์เซเดสที่มีผลงานดีเยี่ยม ลูอิส แฮมิลตัน ทำเวลาเกาะกลุ่มบนตลอดวัน

ระหว่างการทดสอบมีธงแดงเกิดขึ้นเป็นระยะ เริ่มจากเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ซึ่งรถเฟอร์รารี่ต้องหยุดกลางแทร็ค ตามมาด้วยแดเนียล ริกเคียร์โด้ ของเร้ดบูล ซึ่งพวกเขาประสบปัญหาหนักอีกวัน นอกจากจะลงสนามช้าไปถึง 3 ชั่วโมงในวันนี้ เมื่อริกเคียร์โด้นำ RB10 วิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ก็เกิดควันออกมาและต้องจอดกลางแทร็คทันที โดยต้นเหตุเดิมทีที่ปรากฎตั้งแต่เมื่อวานคือปัญหาของเครื่องยนต์ แต่ล่าสุดปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นอีกเรื่องหนึ่ง โดยเป็นไปได้ว่าเหตุเพราะการวางแบตเตอรี่กับ ERS ของเร้ดบูลเองเอาไว้ใกล้กันเกินไปจนเกิดความร้อนสูง และถึงแม้พวกเขาจะนำรถลงมาวิ่งอีกครั้งในช่วงบ่าย แต่ก็ต้องเลิกงานก่อนกำหนดเป็นวันที่สามติดต่อกันเพราะรถไม่สามารถวิ่งต่อได้ระหว่างกลับสู่พิตเลน ด้วยปัญหาใหญ่ของเร้ดบูลที่เกิดขึ้น ทำให้คริสเตียน ฮอร์เนอร์ และเอเดรียน นิวอี้ ตัดสินใจรีบบินกลับไปยังโรงงานของพวกเขาที่มิลตันคีนส์ เพื่อแก้ปัญหาให้ทันก่อนการทดสอบครั้งต่อไปที่บาห์เรน

จังหวะธงแดงต่อมาเป็นของนิโค ฮูลเคนเบิร์ก ซึ่งแม้จะวิ่งได้น้อยรอบ แต่ช่วงบ่ายก็ทำเวลาขึ้นมาเร็วเป็นอันดับที่ 6 จากนั้นอาเดรียน ซูทิล ก็หลุดออกไปชนขณะเข้าโค้ง 7 ทำให้การทดสอบต้องหยุดชั่วขณะ

เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มที่ใช้เครื่องยนต์เรโนลต์ยังประสบปัญหาต่อเนื่อง นอกจากเร้ดบูลแล้ว โตโร รอสโซ ก็พบปัญหาต้องหยุดรถถึงสองครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะทำเวลาดีที่สุดให้กับทีมที่ใช้เครื่องจากฝรั่งเศส แต่ก็วิ่งได้เพียง 30 รอบ ในขณะที่แคเทอร์แฮมส่งโรบิน ฟรินส์ นักขับสำรองลงมา แต่ไม่ได้วิ่งทำเวลาแต่อย่างใด ส่วนมารุสเซีย หลังจากที่เปิดตัวรถใหม่แล้วก็ได้ให้แม็กซ์ ชิลตัน ลองสัมผัสรถครั้งแรก และไม่ได้ทำเวลาไว้เช่นกัน


**********************************************


ท้ายนี้มีข่าวคราวของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ มาฝากด้วยค่ะ

หลังจากนอนพักรักษาตัวมากว่า 1 เดือนหลังประสบอุบัติเหตุจากการเล่นสกีบริเวณเทือกเขาแอลป์ในประเทศฝรั่งเศส ล่าสุดมีข่าวที่ทำให้แฟนๆ ใจชื้นขึ้นมาบ้าง เมื่อซาบีเน่ เคห์ม โฆษกส่วนตัวของชูมี่ให้สัมภาษณ์ยืนยันข่าวที่ระบุว่าทีมแพทย์กำลังเข้าสู่การรักษาชูมี่ในขั้นต่อไป เพื่อ "ปลุก" เขาให้ตื่นด้วยกระบวนการทางการแพทย์ซึ่งอาจใช้ระยะเวลาหลายสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวชูมัคเกอร์ยังคงต้องการความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องการให้ทีมแพทย์ถูกรบกวนขณะทำการรักษา แต่พวกเขายังคงรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของผู้คนทั่วโลกที่หลั่งไหลมาให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย

ถือว่าเป็นข่าวดีที่ทุกคนรอคอยมานานและเชื่อว่าแฟนๆ จะยังส่งความห่วงใยไปให้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้แชมป์โลก 7 สมัยของเรากลับมาได้อย่างปลอดภัยค่ะ










*ข้อมูลจาก gpupdate.net และ autosport.com/f1
ภาพจาก gpupdate.net