British Grand Prix 2013 - Race Day: เมื่อยางแผลงฤทธิ์
ยางปิเรลลี่เป็นประเด็นหลักในสนามนี้หลังจากรถหลายคันเรียงหน้ากันระเบิด แต่คนที่ช้ำใจที่สุดกลับเป็นคนที่มีปัญหาจากเกียร์!
ผลการแข่งขันรายการบริติช กรังด์ปรีซ์
1. Nico Rosberg (Mercedes) 1h32:59.456 2. Mark Webber (Red Bull-Renault) + 0.765 3. Fernando Alonso (Ferrari) + 7.124 4. Lewis Hamilton (Mercedes) + 7.756 5. Kimi Raikkonen (Lotus-Renault) + 11.257 6. Felipe Massa (Ferrari) + 14.573 7. Adrian Sutil (Force India-Mercedes) + 16.335 8. Daniel Ricciardo (Toro Rosso-Ferrari) + 16.543 9. Paul di Resta (Force India-Mercedes) + 17.943 10. Nico Hulkenberg (Sauber-Ferrari) + 19.709 11. Pastor Maldonado (Williams-Renault) + 21.135 12. Valtteri Bottas (Williams-Renault) + 25.094 13. Jenson Button (McLaren-Mercedes) + 25.900 14. Esteban Gutierrez (Sauber-Ferrari) + 26.200 15. Charles Pic (Caterham-Renault) + 31.600 16. Jules Bianchi (Marussia-Cosworth) + 36.000 17. Max Chilton (Marussia-Cosworth) + 1:07.600 18. Giedo van der Garde (Caterham-Renault) + 1:07.700 19. Romain Grosjean (Lotus-Renault) + 1 lap
ผู้ที่ไม่จบการแข่งขัน - Sergio Perez (McLaren-Mercedes) --on lap 46-- - Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) --on lap 41-- - Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Ferrari) --on lap 35--
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap) Mark Webber (Red Bull-Renault) 1:33.401 -- on lap 52
อันดับเวลาต่อรอบเร็วที่สุด //www.formula1.com/results/season/2013/901/7227/fastest_laps.html
ข้อมูลเวลาการเข้าพิต //www.formula1.com/results/season/2013/901/7227/pit_stop_summary.html
*สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: มีแดดเป็นส่วนมาก อุณหภูมิ: 22 องศา อุณหภูมิพื้นสนาม: 34 องศา
นิโค รอสเบิร์ก ดีใจกับชัยชนะครั้งที่ 2 ของเขาในฤดูกาลนี้
ไฮไลท์
เมื่อสัญญาณไฟแดงห้าดวงดับลง ลูอิส แฮมิลตัน พุ่งทะยานรักษาตำแหน่งโพลของตนเข้าสู่โค้งแรกได้สำเร็จ ขณะที่นิโค รอสเบิร์ก เสียตำแหน่งออกตัวให้กับเซบาสเตียน เวทเทล ส่วนตัวเต็งทั้งหลายอย่างมาร์ก เว็บเบอร์ คิมี่ ไรค์โคเน่น และเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ต่างมีจังหวะสตาร์ทไม่ดีนัก พากันร่วงไปอยู่ตอนกลาง โดยเฉพาะเว็บเบอร์นั้นโดนโรแมง โกรส์ฌอง เบียดเข้ามาจนกระแทกเอาชิ้นส่วนปีกหน้าของเขาหลุดออก ลักษณะเดียวกับที่เขาประสบมาในแคนาดา ซึ่งต่อมารถของเขาได้รับการเปลี่ยนปีกหน้าใหม่ในช่วงเข้าพิตครั้งแรก
ความปั่นป่วนในสนามเริ่มต้นขึ้นในรอบที่ 7 ขณะที่แฮมิลตันวิ่งนำการแข่งขันโดยรักษาระยะจากอันดับที่ 2 ได้อย่างดี อยู่ๆ ยางล้อหลังซ้ายของเขาก็ระเบิดบริเวณทางตรงเวลลิงตัน เวทเทลขับผ่านเขาขึ้นนำไป ส่วนเขาต้องวิ่งวนกลับมาเข้าพิตเปลี่ยนยาง โชคดีที่ยังแข่งต่อได้ แม้จะออกมาอยู่ในอันดับท้ายๆ ก็ตาม
ต่อมาเป็นเฟลิเป้ มาสซ่า ที่เป็นเหยื่อของยางวันนี้ นักขับบราซิลสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมจากอันดับที่ 11 ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 5 ในรอบแรก และขณะกำลังไล่ล่าอันดับที่ 3 จากอาเดรียน ซูทิล ยางล้อหลังซ้ายของเขาก็แตกโดยไม่มีวี่แววมาก่อนขณะเร่งออกจากโค้งเดอะลูป รถของเขาหลุดออกนอกแทร็คแต่ยังกลับเข้ามาเปลี่ยนยางและแข่งขันต่อได้
เรื่องยังไม่จบแค่นั้น ฌอง-เอริก แวนญ์ เป็นรายที่ 3 ที่โดนอิทธิฤทธิ์ของยาง โดยเกิดยางระเบิดที่ล้อหลังซ้ายอีกเช่นกันขณะกำลังวิ่งเข้าสู่โค้งสโตว์ เมื่อถึงเวลานี้ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กรรมการจึงปล่อยเซฟตี้คาร์เข้ามานำการแข่งขัน ส่วนในสนามก็มีการเก็บเศษชิ้นส่วนยางที่แตกกระจัดกระจายเต็มแทร็ค ซึ่งในระหว่างนี้บรรดาวิศวกรการแข่งขันของแต่ละทีมพยายามเตือนนักขับของตนให้ระวังโดยเฉพาะหลีกเลี่ยงการใช้เคิร์บ โดยหลังจากเซฟตี้คาร์ออกมานำการแข่งขันอยู่ 7 รอบ การแข่งขันก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
เวทเทลยังคงนำและรักษาระยะห่างจากรอสเบิร์กที่ตามมาได้ดีแม้กระทั่งเข้าพิตครั้งที่ 2 กันแล้วก็ตาม แต่แล้วเมื่อเหลืออีกเพียง 11 รอบ การแข่งขันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อผู้นำต้องจอดรถบนทางตรงหน้าพิตเอาดื้อๆ ซึ่งภายหลังพบว่ารถของเวทเทลสูญเสียเกียร์ 5 ไป จากจังหวะนั้นจึงทำให้รอสเบิร์กขับผ่านหน้าขึ้นนำ และเซฟตี้คาร์ต้องออกมาอีกครั้งเพื่อจัดการกับรถหมายเลข 1 ที่จอดตายอยู่
เมื่อกลับเข้าสู่การแข่งขันตามปกติก็เป็นช่วงสุดท้ายที่สนุกเร้าใจสุดๆ เพราะในจังหวะเซฟตี้คาร์ครั้งสุดท้ายนั้นเอง รอสเบิร์ก รวมทั้งเว็บเบอร์และอลอนโซ่ที่สามารถไล่ขึ้นมาจนกลับสู่กลุ่มหน้าได้ ต่างเข้าไปเปลี่ยนยางเป็นครั้งที่ 3 และแม้เว็บเบอร์กับอลอนโซ่จะตกไปอยู่ในอันดับที่ 5 และ 8 ตามลำดับก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เมื่อพวกเขาใช้ความสดใหม่ของยางเข้าลุยเต็มที่ในไม่กี่รอบที่เหลือ เว็บเบอร์ไล่แซงทั้งอาเดรียน ซูทิล และแดเนียล ริกเคียร์โด้ จนผ่านไรค์โคเน่นที่ไม่ได้เปลี่ยนยางอีกครั้งในที่สุด
ด้านอลอนโซ่ก็ลุยขึ้นมาอย่างรวดเร็วกระทั่งมาถึงอันดับสุดท้ายบนโพเดียมได้สำเร็จ โดยหนึ่งในคนที่เขาขับผ่านช่วงท้ายคือแฮมิลตัน ผู้ซึ่งโดนยางเล่นตลกเป็นคนแรกของวันนี้แต่สามารถทะลุกลับขึ้นมาใน 10 อันดับแรกได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีเหยื่อรายที่ 4 จากกรณียางระเบิดในวันนี้ ได้แก่ เซอร์จิโอ เปเรซ เขากลับเข้ามาเปลี่ยนยางในพิตแต่ไม่สำเร็จ แม็คลาเรนจึงตัดสินใจเก็บรถของเขาเมื่อเหลือการแข่งขันอีกเพียง 6 รอบ
ในรอบที่เหลือเป็นความตื่นเต้นเร้าใจจากการที่เว็บเบอร์ไล่รอสเบิร์กเข้ามาเรื่อยๆ แต่แล้วก็หมดรอบ รอสเบิร์กจึงเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกโดยนำหน้าอันดับที่ 2 ไม่ถึง 1 วินาที
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 8
ประเภทนักขับ 1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล-เรโนลต์) 132 คะแนน 2. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 111 คะแนน 3. คิมี่ ไรค์โคเน่น (โลตัส-เรโนลต์) 98 คะแนน 4. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 89 คะแนน 5. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล-เรโนลต์) 87 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2013/
ประเภททีมผู้สร้าง 1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 219 คะแนน 2. เมอร์เซเดส 171 คะแนน 3. เฟอร์รารี่ 168 คะแนน 4. โลตัส-เรโนลต์ 124 คะแนน 5. ฟอร์ซอินเดีย-เมอร์เซเดส 59 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/2013/
เรื่องใหญ่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นของยางปิเรลลี่ในสุดสัปดาห์นี้เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญอย่างแน่นอน โดยที่ปิเรลลี่เองก็ต้องสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดพร้อมทั้งการแก้ไขมาให้ได้เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัยของนักแข่ง แม้อีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์การแข่งขันสนามต่อไปจะมาถึงแล้ว แต่เราก็ขอเอาใจช่วยให้พวกเขาแก้ไขหรือบรรเทาปัญหานี้ไปให้ได้ มาติดตามกันต่อกับรายการเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 5-7 กรกฎาคมนะคะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com ภาพจาก gpupdate.net
Create Date : 30 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2556 0:33:00 น. |
|
17 comments
|
Counter : 2221 Pageviews. |
|
|