Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
Monaco Grand Prix 2014 - Race Day

เมอร์เซเดสเข้าเส้นชัยแบบ 1-2 เป็นสนามที่ 6 ติดต่อกัน แต่การแข่งขันไม่น่าเบื่อเมื่อคันที่เหลือมีเรื่องให้ลุ้นตลอด

ผลการแข่งขันรายการโมนาโก กรังด์ปรีซ์





ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 1:18.479 - รอบที่ 75

อันดับเวลาต่อรอบเร็วที่สุด คลิกที่นี่

ข้อมูลการเข้าพิต คลิกที่นี่

*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นส่วนมาก
อุณหภูมิ: 19 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 36 องศา

ไฮไลท์

นิโค รอสเบิร์ก คว้าชัยชนะในโมนาโกได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันจากการนำทุกรอบตั้งแต่ไฟสัญญาณเริ่มการแข่งขัน ท่ามกลางเหตุการณ์มากมายที่เกิดขึ้นข้างหลังเขา ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนร่วมทีมของเขาที่ต้องใช้ความพยายามในการนำรถเข้าเส้นชัยตามหลังมาให้ได้

เพียงแค่เริ่มออกตัว เซฟตี้คาร์ก็ได้ออกมานำการแข่งขันเป็นครั้งแรกเสียแล้ว เซอร์จิโอ เปเรซ กระแทกกับเจนสัน บัตตัน ตรงจุดออกโค้งมาริโบ บัตตันนั้นแข่งต่อได้ แต่รถของเปเรซเสียหายจนต้องออกจากการแข่งขัน ซึ่งหลังจากเซฟตี้คาร์กลับเข้าพิตไป เซบาสเตียน เวทเทล ที่ออกตัวได้ดีและไล่ตามเมอร์เซเดสทั้งสองคันในอันดับที่ 3 อยู่นั้นกลับสูญเสียกำลังเครื่องยนต์เอาดื้อๆ ก่อนผ่านเส้นสตาร์ท แม้เขาจะกลับเข้าพิตและออกมาอีกรอบก็ดูเหมือนว่าเกียร์ก็ไม่ทำงานแล้วเช่นกัน เขาจึงต้องออกจากการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ในฤดูกาลนี้

หลังเวทเทลไม่อยู่ หน้าที่ไล่เมอร์เซเดสตกเป็นของคิมี่ ไรค์โคเน่น ที่พุ่งออกจากกริดที่ 6 มาอยู่ในอันดับที่ 4 ตั้งแต่รอบแรก จนกระทั่งเปลี่ยนยางครั้งแรกและครั้งเดียวตามกลยุทธ์แล้วนักขับฟินน์ก็ยังอยู่อันดับเดิม แต่หลังจากนั้นไม่นาน อาเดรียน ซูทิล ก็เกิดอุบัติเหตุหลุดแทร็คไปกระแทกรั้วกั้นหลังลอดอุโมงค์ออกมาในรอบที่ 26 นำมาซึ่งเซฟตี้คาร์เป็นครั้งที่สองของวัน และในขณะที่กรรมการอนุญาตให้รถช้าแซงกลับไปอยู่ในตำแหน่งจริงนั้นเอง แม็กซ์ ชิลตัน พยายามแซงไรค์โคเน่นขึ้นมาแต่ไม่พ้น รถเฟอร์รารี่หมายเลข 7 จึงต้องกลับเข้าพิตอีกครั้งเพื่อซ่อมแซมเล็กน้อยก่อนออกมาร่วมการแข่งขันโดยไล่มาจากกลุ่มท้าย อย่างไรก็ตาม แม้ไรค์โคเน่นซึ่งมีอาการท้องเสียตั้งแต่ก่อนแข่งขันไล่มาจนถึงอันดับที่มีคะแนน แต่เขาก็ต้องทำหลุดมือไปจากการพยายามแซงเควิน แม็กนุสเซน ในช่วงท้ายที่โค้งแฮร์พิน เขามุดด้านในแต่รถไม่หักตามโค้ง ทำให้รถเฟอร์รารี่ดันรถแม็คลาเรนพุ่งไปแน่นิ่งข้างทาง แต่โชคดีที่รถไม่เสียหาย ทั้งสองคนไปต่อได้โดยที่แม็กนุสเซนยังสามารถคว้า 1 คะแนนสุดท้ายมา

ถัดจากไรค์โคเน่นแล้วเป็นแดเนียล ริกเคียร์โด้ ที่ไล่ตามเมอร์เซเดสต่อไปจนกระทั่งผ่านธงตราหมากรุก นักขับออสซี่ไม่ลำบากนักในสนามนี้ถึงแม้จะโดนเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ไล่เข้าใกล้บางช่วง แต่เมื่อแฮมิลตันมีปัญหาจากการมีเศษสิ่งสกปรกหลุดเข้าตาข้างซ้ายและมีผลให้นักขับเมอร์เซเดสต้องลดความเร็วลงเมื่อเหลือการแข่งขัน 5 รอบ จึงเป็นโอกาสให้ริกเคียร์โด้ที่ตามหลังไม่ไกลได้แย่งชิงโพเดียมอันดับที่ 2 แต่เพราะแรงเครื่องเมอร์เซเดสได้เปรียบอยู่มาก แฮมิลตันจึงรักษาตำแหน่งของตนผ่านเข้าเส้นชัยได้ในที่สุดด้วยความห่างเพียง 0.4 วินาที

ด้วยความที่มีรถหลายคันออกจากการแข่งขัน รวมถึงพาสเตอร์ มัลโดนาโด ที่มีปัญหาออกจากกริดไม่ได้ตั้งแต่รอบวอร์มอัพ ไปจนกระทั่งรถที่เครื่องยนต์มีปัญหาอย่างรถของดาเนียล คัฟยาต กับฌอง-เอริก แวนญ์ ของโตโร รอสโซ และวาลท์เทรี่ บอตทาส ของวิลเลียมส์ บวกด้วยอุบัติเหตุของเอสเตบัน กูเตียร์เรซ ที่โค้งสุดท้ายก่อนเข้าทางตรงหน้าพิตก่อนหมดรอบการแข่งขัน ทำให้ฌูลส์ เบียงคี่ ผู้ซึ่งสตาร์ทจากกริดที่ 21 หลังถูกปรับกริดจากการเปลี่ยนเกียร์บ็อกซ์ก่อนกำหนดเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 8 แต่ภายหลังถูกปรับลงเป็นอันดับที่ 9 หลังจากต้องรับโทษบวกเวลาเพิ่มเข้ากับเวลาการแข่งขันที่ทำได้ไปอีก 5 วินาทีจากกรณีออกนอกตำแหน่งภายใต้เซฟตี้คาร์ อย่างไรก็ตาม นั่นก็ยังเป็นแต้มแรกในประวัติศาสตร์ของทีมมารุสเซียที่มีค่าอย่างยิ่ง


สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 6

ประเภทนักขับ
1. นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 122 คะแนน
2. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 118 คะแนน
3. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 61 คะแนน
4. แดเนียล ริกเคียร์โด้ (เร้ดบูล) 54 คะแนน
5. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก (ฟอร์ซอินเดีย) 47 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด คลิกที่นี่

ประเภททีมผู้สร้าง
1. เมอร์เซเดส 240 คะแนน
2. เร้ดบูล 99 คะแนน
3. เฟอร์รารี่ 78 คะแนน
4. ฟอร์ซอินเดีย 67 คะแนน
5. แม็คลาเรน 52 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด คลิกที่นี่


ยังเป็นงานยากอยู่สำหรับทีมอื่นๆ ที่จะล้มเมอร์เซเดสได้ แต่ความเข้มข้นมาอยู่ที่การต่อสู้กันระหว่างสองนักขับภายในทีมแล้วล่ะค่ะ ยิ่งไม่มีใครคั่น ทั้งนิโค รอสเบิร์ก กับลูอิส แฮมิลตัน ก็ได้วัดกันตัวต่อตัว เพราะฉะนั้นสนามหน้าเรามาลุ้นกันต่อในรายการแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 6-8 มิถุนายนค่ะ










*ข้อมูลจาก formula1.com และ autosport.com/f1
ภาพจาก formula1.com


Create Date : 25 พฤษภาคม 2557
Last Update : 26 พฤษภาคม 2557 0:07:19 น. 6 comments
Counter : 1936 Pageviews.

 
ยังมีข่าวอื่นๆ อีกมากมาย ขอเชิญทุกท่านเข้าไปติดตามและร่วมแสดงความคิดเห็นได้ในแฟนเพจของบล็อก //www.facebook.com/f1starfanclub นะคะ


โดย: finishline วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:0:14:06 น.  

 
Kavin mag ทำไมอันดับตกมาที่10ครับ


โดย: Monty IP: 61.90.7.11 วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:2:44:31 น.  

 
เกาเหลาชามโตที่เมอร์เซเดส...ว่าแต่แฮมมันจะกริ้วเกินไปมั้ยนะ


โดย: runtaro IP: 180.222.157.93 วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:00:09 น.  

 
ลืมๆๆ ยินดีกับ Marussia ด้วย ได้คะแนนแรกซะที


โดย: runtaro IP: 180.222.157.93 วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:11:01:23 น.  

 
@คุณ Monty

รายละเอียดตามในไฮไลท์นะคะ


โดย: finishline วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:15:21:54 น.  

 
ดูแฮมแปลกๆครับสนามนี้ตอนสัมภาษณ์หลังแข่งดูไม่ครึกครื้นไงก็ไม่รู้


โดย: jib IP: 182.52.84.49 วันที่: 26 พฤษภาคม 2557 เวลา:17:07:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.