ไฮไลท์

เมื่อสัญญาณไฟแดง 5 ดวงดับลง คนที่ออกตัวขึ้นนำกลับไม่ใช่สองคันในแถวหน้า แต่เป็นโรแมง โกรส์ฌอง ในกริดที่ 4 ซึ่งแซงเซบาสเตียน เวทเทล ขึ้นมาทางขวา ขณะที่ลูอิส แฮมิลตัน ก็พุ่งขึ้นมาระหว่างมาร์ก เว็บเบอร์ และเวทเทล ทันใดนั้นยางล้อหลังขวาของแฮมิลตันก็เบียดเอากับชิ้นส่วนปีกหน้าซ้ายของรถเวทเทลในจังหวะที่นักขับเมอร์เซเดสพยายามจะขึ้นหน้าเพื่อชิงเข้าโค้ง 1 รถของแฮมิลตันยางแตกทันทีและยังหลุดโค้ง 1 ด้วย เขาต้องประคองตัวกลับมาที่พิตอีก 1 รอบเต็มๆ ส่วนเวทเทลนั้น ทีมงานแจ้งกลับมาว่ารถยังวิ่งได้ดี เขาจึงไปต่อในอันดับที่ 3 แฮมิลตันกลับเข้าไปเปลี่ยนยางในพิต แต่เขาออกมาวิ่งได้เพียงไม่กี่รอบก็ต้องออกจากการแข่งขันเนื่องจากความเสียหายของพื้นรถมีมากเกินกว่าจะวิ่งต่อไปได้

นอกจากจังหวะของแฮมิลตันที่โค้งแรกแล้ว กีโด้ ฟาน เดอร์ การ์ด และฌูลส์ เบียงคี่ ยังเกี่ยวกันออกที่โค้งเดียวกันนี้ด้วย

ช่วงครึ่งแรกของการแข่งขัน สามคันนำทิ้งระยะออกไปจากกลุ่มชัดเจน โดยมีนิโค รอสเบิร์ก ตามมาห่างๆ ต่อด้วยเฟลิเป้ มาสซ่า และเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ซึ่งต่อมาแซงเพื่อนร่วมทีมได้สำเร็จ จนเมื่อมาถึงรอบที่ 11 เว็บเบอร์เป็นคันแรกของกลุ่มนำที่เข้าพิตไปก่อนเนื่องจากเขาใช้กลยุทธ์เข้าพิต 3 ครั้ง ในขณะที่โกรส์ฌองและเวทเทลเลือกเข้าพิต 2 ครั้ง โดยที่เวทเทลวิ่งช่วงแรกยาวกว่าใคร เข้าพิตเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มนี้

โกรส์ฌองกับเวทเทลยังวัดกลยุทธ์กันในการเข้าพิตครั้งที่ 2 แต่โกรส์ฌองต้องเข้าพิตไปเปลี่ยนยางฮาร์ดชุดสุดท้ายก่อนเวทเทลถึง 8 รอบ เวทเทลในยางที่สดกว่าจึงแซงนักขับโลตัสขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ได้ในรอบที่ 41 และเมื่อเว็บเบอร์ต้องเข้าพิตครั้งที่ 3 ทีมงานเปลี่ยนเป็นยางมีเดียมให้เขา ทั้งยางที่ใหม่กว่าและเป็นยางเนื้อนิ่มกว่า ไม่นานเว็บเบอร์ก็ไล่มาทันหลังโกรส์ฌอง แต่ยังต้องใช้ความพยายามอยู่สักพักจึงแซงได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม เว็บเบอร์เสียเวลาเกินไปในการผ่านโกรส์ฌอง เขาจึงไม่สามารถไล่ทันเพื่อนร่วมทีมแล้ว

ในส่วนกลุ่มกลาง เป็นนิโค ฮูลเคนเบิร์ก โชว์ฟอร์มดีอีกครั้ง โดยสามารถออกมาอยู่ข้างหน้าเฟอร์รารี่ทั้งสองคันได้หลังช่วงเข้าพิตรอบแรก อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลังของการแข่งขันอลอนโซ่สามารถแซงเขาได้ที่โค้ง 1 ชิงอันดับที่ 4 ไปได้ และเขายังโดนคิมี่ ไรค์โคเน่น ที่ค่อยๆ ไล่ขึ้นมาแซงเอาอันดับที่ 5 ไปในที่สุด แต่ยังถือเป็นผลงานที่น่าชื่นใจสำหรับเซาเบอร์ ไม่เพียงแต่ฮูลเคนเบิร์กเท่านั้น เอสเตบัน กูเตียร์เรซ ยังสู้สุดใจคว้าคะแนนมาให้เซาเบอร์ได้อีกคัน ซึ่งเป็นแต้มแรกของเขาในฟอร์มูล่าวันอีกด้วย

นับว่าไม่ใช่วันของเมอร์เซเดสอีกครั้ง หลังจากต้องเหลือนิโค รอสเบิร์ก คันเดียวแล้ว ทีมงานในพิตยังพลาดปล่อยรถเมอร์เซเดสออกจากพิตตัดหน้ารถคันที่ตามหลังมา เขาจึงต้องรับโทษแบบขับผ่านพิตเลนหรือไดรฟ์ทรู ในตอนท้ายเขายังเบียดกับเซอร์จิโอ เปเรซ จนชิ้นส่วนปีกหน้าหัก แต่ยังโชคดีที่ความเสียหายไม่มากและเก็บคะแนนมาได้ ส่วนเปเรซนั้นต้องเข้าพิตเปลี่ยนยางที่แตกจากการสะกิดกับรอสเบิร์ก เป็นผลให้เฟลิเป้ มาสซ่า ซึ่งเป็นอีกคนที่โดนโทษไดรฟ์ทรูจากการใช้ความเร็วเกินกำหนดในพิตเลน ได้เลื่อนอันดับขึ้นมาในกลุ่มที่มีคะแนน เช่นเดียวกับเจนสัน บัตตัน ที่เก็บคะแนนสุดท้ายให้ตนเองและแม็คลาเรนได้


สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 15

ประเภทนักขับ
1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล-เรโนลต์) 297 คะแนน
2. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 207 คะแนน
3. คิมี่ ไรค์โคเน่น (โลตัส-เรโนลต์) 177 คะแนน
4. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 161 คะแนน
5. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล-เรโนลต์) 148 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด
//www.formula1.com/results/driver/2013/

ประเภททีมผู้สร้าง
1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 445 คะแนน
2. เฟอร์รารี่ 297 คะแนน
3. เมอร์เซเดส 287 คะแนน
4. โลตัส-เรโนลต์ 264 คะแนน
5. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 83 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด
//www.formula1.com/results/team/2013/


ผู้นำในคะแนนสะสมทั้งประเภทนักขับและประเภททีมผู้สร้างคงไม่ต้องห่วงแล้ว แต่กลุ่มผู้ที่ตามมาน่าลุ้นมากทีเดียว สำหรับเซบาสเตียน เวทเทล หากเขาจบเพียงอันดับที่ 5 ในสนามหน้า แชมป์ประเภทนักขับก็จะปิดฉากทันที ติดตามการแข่งขันสนามที่ 16 ได้ในรายการอินเดียน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 25-27 ตุลาคมนะคะ











*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 / formula1.com / gpupdate.net
ภาพจาก gpupdate.net

Create Date : 13 ตุลาคม 2556
Last Update : 13 ตุลาคม 2556 17:48:54 น.		25 comments
Counter : 2132 Pageviews.
Share Tweet