เดิมทีมนต์ขลังของรายการนี้อยู่ที่ "เดอะกรีนเฮลล์" หรือขุมนรกสีเขียวอันเป็นฉายาของสนามนัวร์บวร์กริง นอร์ดชไลเฟ่อะ และสนามฮ็อคเคนไฮม์เวอร์ชั่นเก่าที่เคยมีความยาวถึงเกือบ 7 กม. ซึ่งปัจจุบันถูกตัดทอนเหลือเพียง 4.5 กม. แม้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ในยุคที่นักขับเยอรมันครองแชมป์หลายสมัยต่อเนื่อง ทั้งในช่วงของมิชาเอล ชูมัคเกอร์ และเซบาสเตียน เวทเทล รวมทั้งยุคปัจจุบันที่เมอร์เซเดสทีมสัญชาติเยอรมันกลับมายิ่งใหญ่บนแทร็คอีกครั้งกลับไม่ได้ช่วยดึงดูดความสนใจในสนาม โดยเห็นได้จากยอดผู้ชมลดลงเรื่อยๆ

แม้การแข่งขันที่สนามฮ็อคเคนไฮม์ในปีที่แล้ว ผู้จัดการแข่งขันอุตส่าห์ออกแคมเปญลดค่าบัตรเข้าชม 11 ยูโรจากทุกๆ ประตูที่ฟุตบอลทีมชาติเยอรมันทำได้ในการเจอกับบราซิลในรอบรองชนะเลิศศึกฟุตบอลโลก 2014 และจากชัยชนะ 7-1 ของพวกเขา ทำให้เกิดส่วนลดสูงสุดถึง 77 ยูโร กระนั้นก็มีคนสนใจโปรโมชั่นนี้เพียงเล็กน้อย ขณะที่เพื่อนบ้านอย่างออสเตรียประสบความสำเร็จอย่างสูงในการกลับมาสู่ปฏิทินการแข่งขันฟอร์มูล่าวันในรอบหลายปี บัตรเข้าชมหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นานหลังเปิดขาย

ในด้านสภาพเศรษฐกิจ นัวร์บวร์กริงเจอแต่เรื่องยุ่งเหยิงในปีที่ผ่านมา โดยอียูต้องเข้ามาสอบสวนหลังพบว่าทางสนามได้รับเงินทุนมาอย่างไม่ถูกต้อง นอกจากนั้น เจ้าของรายปัจจุบันยังไม่สามารถบาลานซ์การเงินได้ไม่ดีและส่อแววว่าจะขาดทุนเพิ่มเติมถ้าจัดการแข่งขัน ส่วนฮ็อคเคนไฮม์ซึ่งจะต้องเป็นเจ้าภาพอยู่แล้วในปี 2016 ไม่มีทุนมากพอที่จะจัดการแข่งขันเพิ่มเติมนอกเหนือแผนงาน

สำหรับประเทศที่เป็นยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจของยุโรปและมีมรดกทางด้านมอเตอร์สปอร์ตสืบทอดกันมายาวนาน ซึ่งทีมฟอร์มูล่าวันของพวกเขาลงแข่งขันในฐานะแชมป์โลกทีมปัจจุบัน มีนักขับอยู่ในกริดปีนี้คิดเป็นร้อยละ 15 และนักขับยังเป็นแชมป์โลกมาแล้วรวม 9 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2000 การไม่มีชื่ออยู่ในปฏิทินการแข่งขันนับเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และฟอร์มูล่าวันควรให้ความสำคัญกับเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้


อัพเดทปฏิทินการแข่งขันฟอร์มูล่าวันปี 2015

15 มีนาคม - ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ (เมลเบิร์น)
29 มีนาคม - มาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ (เซปัง)
12 เมษายน - ไชนีส กรังด์ปรีซ์ (เซี่ยงไฮ้)
19 เมษายน - บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ (ซาคีร์)
10 พฤษภาคม - สแปนิช กรังด์ปรีซ์ (บาร์เซโลน่า)
24 พฤษภาคม - โมนาโก กรังด์ปรีซ์ (มอนติคาร์โล)
7 มิถุนายน - แคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ (มอนทรีออล)
21 มิถุนายน - ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ (เร้ดบูลริง)
5 กรกฎาคม - บริติช กรังด์ปรีซ์ (ซิลเวอร์สโตน)
26 กรกฎาคม - ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ (ฮังกาโรริง)
23 สิงหาคม - เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ (สปา-ฟรองคอร์ชองส์)
6 กันยายน - อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ (มอนซ่า)
20 กันยายน - สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ (มารีน่าเบย์)
27 กันยายน - เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ (ซูซูกะ)
11 ตุลาคม - รัสเชียน กรังด์ปรีซ์ (โซชิ)
25 ตุลาคม - ยูเอส กรังด์ปรีซ์ (ออสติน)
1 พฤศจิกายน - เม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ (เม็กซิโกซิตี้)
15 พฤศจิกายน - บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ (อินเตอร์ลากอส)
29 พฤศจิกายน - อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ (ยาสมารีน่า)











*ข้อมูลและภาพจาก motorsport.com