Bahrain Grand Prix 2015
ลุ้นกันต่อในสนามแถบเอเชียสนามสุดท้ายของช่วงต้นฤดูกาล การต่อสู้ของสองนักขับเมอร์เซเดสทั้งในและนอกสนามเข้มข้นขึ้นทุกที แต่จะมีตาอยู่มาสอดแทรกหรือไม่ ติดตามกันในสุดสัปดาห์นี้ค่ะ
รายละเอียดการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย) สนามที่ 4: 17-19 เม.ย. 58 ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 17 เม.ย. เวลา 18.00-19.30 น. ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 17 เม.ย. เวลา 22.00-23.30 น. ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 18 เม.ย. เวลา 19.00-20.00 น. รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 18 เม.ย. เวลา 22.00-23.00 น. แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 19 เม.ย. เวลา 22.00 น. *ติดตามชมรอบฝึกซ้อมและควอลิฟายได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ 3 และชมการแข่งขันได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ (เอชดี) หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ข้อมูลสนาม ชื่อสนาม: บาห์เรนอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต (สนามถาวร) ทิศทางการวิ่ง: ตามเข็มนาฬิกา จำนวนรอบแข่งขัน: 57 รอบ จำนวนโค้ง: 15 โค้ง ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 2004 ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 2004 ความยาวของสนาม: 5.412 กม. ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 308.238 กม. สถิติสนามต่อ 1 รอบ: 1:31.447 (เปโดร เด ลา โรซ่า / แม็คลาเรน - 2005)
ข้อมูลทางเทคนิค ความเร็วสูงสุด: 340 กม./ชม. อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ: 47% อัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อรอบ: 1.76 กก. อัตราการเปลี่ยนเกียร์ต่อรอบ: 95 ครั้ง ดาวน์ฟอร์ซ: ปานกลาง อัตราการใช้ยาง: ปานกลาง การเลือกยางของปิเรลลี่: :ซอฟต์ (สีเหลือง) / มีเดียม (สีขาว) อัตราการใช้เบรก: สูง แรง G ในโค้งสูงสุด: 3.7 (โค้ง 7) DRS Zone: 1) ระหว่างโค้ง 10 ถึงโค้ง 11 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 10 เมตรก่อนโค้ง 9 2) ทางตรงหน้าพิต ระหว่างโค้ง 15 ถึงโค้ง 1 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 108 เมตรก่อนโค้ง 14 จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ระหว่างช่วงฝึกซ้อม รอบควอลิฟาย และการแข่งขัน
พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน วันศุกร์ - มีเมฆมาก อุณหภูมิสูงสุด 32 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส วันเสาร์ - มีเมฆมาก อุณหภูมิสูงสุด 29 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส วันอาทิตย์ - ท้องฟ้าสดใส อุณหภูมิสูงสุด 28 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส
ผู้ได้ตำแหน่งโพลในบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2014 - นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:33.185 2013 - นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:32.330 2012 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:32.422
ผู้ชนะบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2014 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 2012 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
เวลาต่อรอบเร็วที่สุดในบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2014 - นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:37.020 รอบที่ 49 2013 - เซอร์จิโอ เปเรซ (แม็คลาเรน) 1:36.961 รอบที่ 55 2012 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:36.379 รอบที่ 41
มีอะไรน่าติดตามในสนามนี้
- เฟอร์รารี่จะกลับมาแย่งแชมป์กับเมอร์เซเดสในสนามนี้อีกหรือไม่ หลังจากม้าลำพองทำสำเร็จมาแล้วในสนามเซปังที่มีอุณหภูมิสูง สนามบาห์เรนก็มีสภาพอากาศที่ร้อนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่ปัจจัยสำคัญคือรอบควอลิฟายและการแข่งขันในปัจจุบันถูกปรับเป็นไนท์เรซเสียแล้ว ซึ่งหมายความว่าอากาศจะเย็นลง อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิผิวแทร็คยังอมความร้อนอยู่มาก จึงน่าติดตามว่าเฟอร์รารี่จะเข้าใกล้เมอร์เซเดสได้มากแค่ไหน
- วิลเลียมส์หลุดไปจากวงโคจรกลุ่มหน้าเสียแล้วหลังโดนเฟอร์รารี่ตีตื้นขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงเมอร์เซเดสแต่เพียงผู้เดียวอย่างชัดเจนใน 2 สนามล่าสุด แทบไม่ได้เห็นเฟลิเป้ มาสซ่า และวาลท์เทรี่ บอตทาส ขึ้นมากดดันเฟอร์รารี่เหมือนอย่างที่สู้กันอย่างสูสีในเมลเบิร์นเลย และก่อนจะเข้าสู่สนามยุโรป วิลเลียมส์จะกลับมากดดันเฟอร์รารี่ได้อีกหรือเปล่า
- เร้ดบูลและโตโร รอสโซ ประสบปัญหากับเครื่องยนต์ไม่เว้นแต่ละสนาม ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับเครื่องยนต์เรโนลต์สั่นคลอนตลอดมา โดยที่เร้ดบูลยังมีปัญหาเรื่องเบรกซ้ำเข้าไปอีก แน่นอนว่าทุกฝ่ายต้องเร่งปรับปรุงแก้ไข แต่จากเวลาที่ผ่านมาจากเซี่ยงไฮ้เพียงสัปดาห์เดียว พวกเขาจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรเพื่อให้รถทั้ง 4 คันเข้าเส้นชัยด้วยอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- การต่อสู้ของกลุ่มกลางตารางลงไปก็น่าลุ้นไม่แพ้กลุ่มหน้า จากเซาเบอร์ในคะแนนสะสมอันดับที่ 4 จนถึงโลตัสในอันดับที่ 8 มีคะแนนห่างกันแค่ 13 คะแนนหลังผ่านไป 3 สนาม โดยมีผู้ร่วมกลุ่มคือเร้ดบูล โตโร รอสโซ และฟอร์ซอินเดีย ในสนามเซี่ยงไฮ้ ทั้ง 5 ทีมดังกล่าวสู้กันอย่างสนุกเพื่อลุ้นอันดับในท็อป 10 ขณะที่แม็คลาเรนเริ่มมีสัญญาณที่ดีที่จะได้คะแนนสะสมเร็วๆ นี้ สำหรับที่บาห์เรนใครจะได้ใครจะเสียต้องมาดูกัน
**************************************************
อัพเดทจำนวนการใช้เครื่องยนต์
ตอนนี้การแข่งขันของฤดูกาล 2015 ผ่านไป 3 สนามแล้ว เรามาดูกันว่านับถึงขณะนี้นักขับแต่ละคนมีสถานการณ์การใช้เครื่องยนต์เป็นอย่างไรบ้าง ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ
ทั้งนี้ กฎการใช้เครื่องยนต์ของปีนี้ระบุไว้ดังต่อไปนี้
- นักขับแต่ละคนมีสิทธิ์ใช้ส่วนประกอบของหน่วยเครื่องยนต์ได้ส่วนประกอบละ 4 ตัวตลอดฤดูกาล
- หากนักขับต้องใช้ส่วนประกอบใดๆ ของเครื่องยนต์มากกว่า 4 ตัว นักขับจะต้องรับโทษปรับอันดับกริดสตาร์ทลงมาตามที่เอฟไอเอกำหนดไว้ในทุกๆ ครั้งแรกของการใช้ส่วนประกอบของเครื่องยนต์เพิ่มเติม
> นักขับใช้ส่วนประกอบใดก็ตามเป็นตัวที่ 5 ครั้งแรก นักขับผู้นั้นจะต้องถูกปรับกริดสตาร์ท 10 อันดับ > นักขับใช้ส่วนประกอบอื่นๆ เป็นตัวที่ 5 ตามมา นักขับผู้นั้นจะต้องถูกปรับกริดสตาร์ท 5 อันดับ โดยกระบวนการลงโทษจะเป็นไปเช่นนี้อีกเมื่อเริ่มใช้ส่วนประกอบใดๆ เป็นชิ้นที่ 6 7 8 ฯลฯ
- หากนักขับไม่สามารถลดอันดับกริดสตาร์ทได้ครบถ้วนตามโทษที่ได้รับในการแข่งขันครั้งเดียว อันดับที่เหลือจะถูกเปลี่ยนเป็นโทษบวกเวลาเพิ่มในการแข่งขันดังนี้
> เหลือปรับลดกริดสตาร์ท 1-5 อันดับ: บวกเวลาเพิ่ม 5 วินาที > เหลือปรับลดกริดสตาร์ท 6-10 อันดับ: บวกเวลาเพิ่ม 10 วินาที > เหลือปรับลดกริดสตาร์ท 11-20 อันดับ: รับโทษแบบขับผ่านพิตเลน (drive-through penalty) > เหลือปรับลดกริดสตาร์ทมากกว่า 20 อันดับ: รับโทษหยุดรถนิ่งในพิตเป็นเวลา 10 วินาที (10-second stop/go penalty)
หมายเหตุ หน่วยเครื่องยนต์ (Power Unit) จะประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 6 ส่วน ได้แก่ - เครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) - เครื่องกำเนิดไฟฟ้า - พลังงานจลน์ (Motor Generator Unit - Kinetic: MGU-K) - เครื่องกำเนิดไฟฟ้า - พลังงานความร้อน (Motor Generator Unit - Heat: MGU-H) - ระบบสะสมพลังงาน (Energy Store: ES) - ตัวชาร์จเทอร์โบ (Turbo Charger: TC) - ระบบควบคุมไฟฟ้า (Control Electronics: CE)
*ข้อมูลจาก formula1.com / gpupdate.net / wikipedia.org/ ภาพจาก formula1.com / gpupdate.net
Create Date : 16 เมษายน 2558 |
Last Update : 16 เมษายน 2558 23:58:40 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1488 Pageviews. |
|
|
|