Bloggang.com : finishline : Australian Grand Prix 2014

Australian Grand Prix 2014 - Friday Practice

รอบเช้า (Free Practice 1)

1. Fernando Alonso (Ferrari) 1m31.840s (20 laps)
2. Jenson Button (McLaren-Mercedes) 1m32.357s / +0.517s (23)
3. Valtteri Bottas (Williams-Mercedes) 1m32.403s / +0.563s (27)
4. Felipe Massa (Williams-Mercedes) 1m32.431s / +0.591s (19)
5. Daniel Ricciardo (Red Bull-Renault) 1m32.599s / +0.759s (26)
6. Nico Rosberg (Mercedes) 1m32.604s / +0.764s (17)
7. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m32.793s / +0.953s (10)
8. Kevin Magnussen (McLaren-Mercedes) 1m32.847s / +1.007s (28)
9. Kimi Raikkonen (Ferrari) 1m32.977s / +1.137s (18)
10. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Renault) 1m33.446s / +1.606s (30)
11. Nico Hulkenberg (Force India-Mercedes) 1m33.533s / +1.693s (23)
12. Sergio Perez (Force India-Mercedes) 1m33.855s / +2.015s (24)
13. Daniil Kvyat (Toro Rosso-Renault) 1m34.272s / +2.432s (27)
14. Esteban Gutierrez (Sauber-Ferrari) 1m35.578s / +3.738s (7)
15. Adrian Sutil (Sauber-Ferrari) 1m36.445s / +4.605s (13)
16. Jules Bianchi (Marussia-Ferrari) 1m40.859s / +9.019s (6)
17. Max Chilton (Marussia-Ferrari) 1m46.922s / +15.082s (4)
18. Marcus Ericsson (Caterham-Renault) --no time-- (1)
19. Lewis Hamilton (Mercedes) --no time-- (1)
20. Kamui Kobayashi (Caterham-Renault) --no time--(1)
21. Pastor Maldonado (Lotus-Renault) --no time-- (2)
22. Romain Grosjean (Lotus-Renault) --no time-- (2)

*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: ท้องฟ้าสดใส
อุณหภูมิ: 25 องศา

ไฮไลท์

- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ประเดิมช่วงซ้อมสนามแรกของปี 2014 ด้วยเวลาเร็วที่สุด ทิ้งห่างเจนสัน บัตตัน ในอันดับที่ 2 อยู่ครึ่งวินาที โดยกลุ่มเครื่องเมอร์เซเดสส่วนใหญ่ยังโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนช่วงทดสอบรถก่อนเปิดฤดูกาล เว้นแต่ลูอิส แฮมิลตัน ที่เพียงเพิ่งออกจากพิตหลังเริ่มต้นช่วงมาได้แค่ 5 นาทีก็ต้องจอดกลางแทร็คบริเวณโค้ง 8 จากนั้นก็เกิดกลุ่มควันขึ้นจางๆ จากท้ายรถเมอร์เซเดสเนื่องจากเครื่องยนต์ดับลงซึ่งเป็นการตอบสนองจากสัญญาณเตือนแรงดันน้ำมัน

- แม้เพื่อนร่วมทีมจะทำเวลาเร็วที่สุดและวิ่งได้อย่างไร้ปัญหา แต่คิมี่ ไรค์โคเน่น กลับต้องประสบปัญหา ERS-K ทีมงานเฟอร์รารี่ต้องใช้เวลาซ่อมอยู่ประมาณ 25 นาที

- สถานการณ์ของเร้ดบูลดีขึ้นกว่าช่วงทดสอบรถก่อนเปิดฤดูกาล แดเนียล ริกเคียร์โด้ ลงสนามให้กับทีมแชมป์โลกก่อน ขณะที่เซบาสเตียน เวทเทล รออยู่ในการาจเป็นส่วนใหญ่และนำ 'ซูซี่' หรือ RB10 ของเขาวิ่งไป 10 รอบในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

- ด้วยระบบใหม่หลายอย่างของรถในปีนี้ทำให้นักขับต้องปรับตัวมากมายและจากการซ้อมครั้งแรกก็มีรถหลุดแทร็คไปหลายคัน เริ่มจากฟอร์ซอินเดียของเซอร์จิโอ เปเรซ ตามมาด้วยโตโร รอสโซ ของดาเนียล คัฟยาต ที่โค้ง 1 และไม่นาน ฌอง-เอริก แวนญ์ เพื่อนร่วมทีมของคัฟยาต

- สองนักขับของแม็คลาเรนประสบปัญหาอยู่บ้าง โดยเควิน แม็กนุสเซน มีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ส่วนบัตตันมีปัญหากับพวงมาลัยรถ

- นอกจากแฮมิลตันแล้ว ยังมีนักขับอีก 4 คนที่ไม่ได้ทำเวลาในช่วงแรกเช่นกัน นักขับทั้งสองของแคเมอร์แฮมทำได้แค่เพียงรอบเริ่มต้นและก็กลับเข้าโรงเก็บรถเนื่องจากมีปัญหากับระบบไฟฟ้าในรถของมาร์คุส เอริกสัน และปัญหาระบบเชื้อเพลิงในรถของคามุย โคบายาชิ เช่นเดียวกับทั้งสองคันของโลตัสก็ไม่ได้ทำเวลาเลย โดยเฉพาะพาสเตอร์ มัลโดนาโด หลังจากที่เขาลงบ่อกรวดไปที่โค้ง 13 ในรอบเริ่มต้นหลังออกจากพิตก็ต้องกลับเข้าไปอีกครั้ง

รอบบ่าย (Free Practice 2)

1. Lewis Hamilton (Mercedes) 1m29.625s (37 laps)
2. Nico Rosberg (Mercedes) 1m29.782s / +0.157s (31)
3. Fernando Alonso (Ferrari) 1m30.132s / +0.507s (28)
4. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m30.381s / +0.756s (41)
5. Jenson Button (McLaren-Mercedes) 1m30.510s / +0.885s (33)
6. Daniel Ricciardo (Red Bull-Renault) 1m30.538s / +0.913s (38)
7. Kimi Raikkonen (Ferrari) 1m30.898s / +1.273s (32)
8. Valtteri Bottas (Williams-Mercedes) 1m30.920s / +1.295s (38)
9. Kevin Magnussen (McLaren-Mercedes) 1m31.031s / +1.406s (34)
10. Nico Hulkenberg (Force India-Mercedes) 1m31.054s / +1.429s (33)
11. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Renault) 1m31.060s / +1.435s (35)
12. Felipe Massa (Williams-Mercedes) 1m31.119s / +1.494s (31)
13. Sergio Perez (Force India-Mercedes) 1m31.283s / +1.658s (36)
14. Adrian Sutil (Sauber-Ferrari) 1m32.355s / +2.730s (36)
15. Esteban Gutierrez (Sauber-Ferrari) 1m32.468s / +2.843s (26)
16. Daniil Kvyat (Toro Rosso-Renault) 1m32.495s / +2.870s (36)
17. Jules Bianchi (Marussia-Ferrari) 1m33.486s / +3.861s (29)
18. Romain Grosjean (Lotus-Renault) 1m33.646s / +4.021s (12)
19. Max Chilton (Marussia-Ferrari) 1m34.757s / +5.132s (29)
20. Marcus Ericsson (Caterham-Renault) --no time-- (1)
21. Pastor Maldonado (Lotus-Renault) --no time--
22. Kamui Kobayashi (Caterham-Renault) --no time--

*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: ท้องฟ้าสดใส
อุณหภูมิ: 25 องศา

ไฮไลท์

- ลูอิส แฮมิลตัน กลับมาซ้อมช่วงบ่ายโดยรถเมอร์เซเดสสมบูรณ์ดีแล้วและสามารถทำเวลาดีที่สุด โดยเขาลงสนามมาในครึ่งหลังของช่วงด้วยยางซอฟต์ใหม่และทำเวลาเร็วที่สุดได้ในเวลาต่อมา ตามมาด้วยนิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีม ที่ทำเวลาเร็วอันดับที่ 2 จากเวลาที่ยอดเยี่ยมในเซกเตอร์สุดท้ายของสนาม ก่อนหน้านั้นรอสเบิร์กทำเวลาเร็วที่สุดไว้จากการใช้ยางมีเดียมตั้งแต่ตอนต้น ตอกย้ำให้เห็นสมรรถนะของรถเมอร์เซเดสที่ได้เห็นมาตั้งแต่การทดสอบรถ

- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ตามเมอร์เซเดสมาห่างๆ ในอันดับที่ 3 ซึ่งถึงแม้จะตามหลังรถทั้งสองคันของเมอร์เซเดสอยู่ครึ่งวินาที แต่เขาก็ทำเวลาเร็วที่สุดได้ในเซกเตอร์แรกของสนามอัลเบิร์ต พาร์ก ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมเฟอร์รารี่ คิมี่ ไรค์โคเน่น ต้องประสบปัญหากับรถอีกครั้ง คราวนี้สันนิษฐานว่าเป็นปัญหาของเกียร์บ็อกซ์

- ในช่วงบ่ายยังมีจังหวะหลุดแทร็คให้เห็นอยู่เป็นระยะ เซบาสเตียน เวทเทล ออกนอกสนามที่โค้ง 1 ลงไปในพื้นหญ้า เควิน แม็กนุสเซน หลุดโค้ง 12 วิ่งกว้างออกไป และฌอง-เอริก แวนญ์ หลุดลงบ่อกรวดที่โค้ง 3 เช่นเดียวกับเอสเตบัน กูเตียร์เรซ หลุดลงไปบนพื้นหญ้าที่โค้ง 2 ขณะตีคู่มากับเวทเทล ท้ายสุดเป็นจังหวะของนิโค ฮูลเคนเบิร์ก ที่ล้อหลังล็อกและหลุดลงบ่อกรวดที่โค้ง 9 ซึ่งแทบจะเกิดพร้อมกับที่โรแมง โกรส์ฌอง ทำล้อหลังซ้ายกระแทกกำแพงและเสียการควบคุมรถลงบ่อกรวดที่โค้ง 6

- แคเทอร์แฮมทั้งสองคันยังคงวิ่งทำเวลาไม่ได้ รถของคามุย โคบายาชิ มีปัญหากับระบบเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ ส่วนรถของมาร์คุส เอริกสัน เกิดปัญหากับระบบไฮดรอลิกส์ทั้งที่เพิ่งวิ่งออกจากพิตเลนไปไม่เท่าไหร่ ในขณะที่พาสเตอร์ มัลโดนาโด วิ่งออกไปยังไม่ทันพ้นพิตเลนก็ต้องจอดจากปัญหาที่คาดว่ามากจาก ERS และเขาก็ไม่ได้ลงสนามอีกเลยเนื่องจากทีมงานไม่สามารถแก้ไขให้ทันเวลาได้

ยังขลุกขลักกันตามระเบียบเนื่องจากทุกอย่างเป็นของใหม่สำหรับทุกคน ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจมีบางทีมตัดสินใจไม่ลงซ้อมช่วงสุดท้ายเพราะกลัวจะซ่อมรถไม่ทันรอบควอลิฟายหากเกิดปัญหา สถานการณ์พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ใครจะคว้าโพลแรกของปีไปได้ ติดตามได้ในการซ้อมช่วงเช้าวันเสาร์เวลา 10.00 น. และลุ้นรอบควอลิฟายได้ในเวลา 13.00 น. ค่ะ

*ข้อมูลจาก autosport.com/f1

Create Date : 14 มีนาคม 2557

Last Update : 15 มีนาคม 2557 1:29:35 น.

3 comments

Counter : 1701 Pageviews.

เฟอรารี่นี่เดายากจริงๆไม่รู้จะมาไม้ไหน นิ่งๆเงียบๆแต่รถก็เร็วใช่ย่อย

เร็ดบลู..ทำรถกับมาอยู่หัวแถวได้ไวนะเหมือนช่วงเทสรถเป็นแผนลวงรึป่าววว

เมอเซเดสจัดเต็มตลอดตามสไตล์ ถ้าสนามนี้ชนะได้ทั้งสองคันปีนี้คงเป็นของจริงแล้ว อิอิ

โดย: fame IP: 180.183.101.117 วันที่: 15 มีนาคม 2557 เวลา:3:34:14 น.

แดดไปไหนหว่า

โดย: Rainrain7 IP: 101.109.148.225 วันที่: 15 มีนาคม 2557 เวลา:9:50:41 น.

เบอร์13 ........

โดย: Rainrain7 IP: 101.109.148.225 วันที่: 15 มีนาคม 2557 เวลา:13:17:01 น.