Italian Grand Prix 2015 - Race Day
ไม่มีอะไรขวางลูอิส แฮมิลตัน ได้ในวินาทีนี้ ทุกอย่างที่จะเป็นอุปสรรค เขาเอาชนะผ่านได้หมด หนทางคว้าแชมป์โลกปีนี้สดใสอย่างยิ่ง
ผลการแข่งขันรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:26.672 - รอบที่ 48
*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: ท้องฟ้าสดใส
อุณหภูมิ: 22 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 36 องศา
ไฮไลท์
- ลูอิส แฮมิลตัน โชว์ผลงานเหนือคู่แข่งทิ้งขาดกระจุยอีกครั้ง เขานำการแข่งขันตั้งแต่โค้งแรกม้วนเดียวจบเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนักใจของเมอร์เซเดสมาเกิดขึ้นในช่วงท้าย จากการที่คณะกรรมการด้านเทคนิครายงาน ณ เวลา 15.04 น. ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่ายางหลังซ้ายรถของแฮมิลตันและนิโค รอสเบิร์ก มีแรงดันเมื่อเริ่มต้นสตาร์ทต่ำกว่ากำหนด โดยยางของแฮมิลตันต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ 0.3 psi ขณะที่ของรอสเบิร์กต่ำกว่า 1.1 psi ซึ่งเกณฑ์แรงดันยางเมื่อจะสตาร์ทตามที่ปิเรลลี่ระบุต้องอยู่ที่ 19.5 psi เมื่อเมอร์เซเดสรับทราบรายงานการสอบสวนก็วิทยุเร่งให้แฮมิลตันทำเวลาทิ้งห่างอันดับที่ 2 ให้มากที่สุดเผื่อไว้กรณีที่ต้องรับโทษบวกเวลาเพิ่ม
- แต่หลังจากกรรมการพิจารณาร่วมกับปิเรลลี่และตัวแทนเมอร์เซเดส กรรมการตัดสินว่าเมอร์เซเดสไม่ได้ทำผิดกติกาแต่อย่างใด โดยมีคำแถลงว่า "กรรมการกำหนดให้แรงดันยางเมื่อเริ่มสตาร์ทต้องอยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่ปิเรลลี่แนะนำ เมื่อผ้าห่มวอร์มยางไม่ได้เชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานตามขั้นตอนปกติ ทำให้ยางมีอุณหภูมิต่ำกว่าเกณฑ์อุณหภูมิสูงสุดของผ้าห่มวอร์มยางตามที่เอฟไอเออนุญาตขณะวัดค่าบนกริดอย่างมีนัยยะสำคัญ และอุณหภูมิแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญจากรถคันอื่นๆ ที่ถูกวัดค่าบนกริด อย่างไรก็ตาม กรรมการพอใจที่ทีมได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตยางเพื่อความปลอดภัย กรรมการจึงตัดสินไม่ลงโทษใดๆ แชมป์สนามนี้จึงเป็นของแฮมิลตันโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ กรรมการแนะนำให้ผู้ผลิตยางและเอฟไอเอเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องถึงข้อแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับขั้นตอนการวัดให้กับทีมแข่งในโอกาสต่อไป"
- คิมี่ ไรค์โคเน่น ได้สตาร์ทจากอันดับที่ 2 ซึ่งดีที่สุดนับจากไชนีส กรังด์ปรีซ์ 2013 แต่เขามีปัญหากับคลัตช์ออกตัวไม่ได้ จึงตกลงไปอยู่ท้ายแถว โดยเซบาสเตียน เวทเทล กลายเป็นผู้ที่ไล่ตามแฮมิลตันตลอดเรซ ซึ่งช่วงท้ายนิโค รอสเบิร์ก ที่ออกตัวไม่ดีและตกลงไปในอันดับที่ 6 สามารถกลับมาจี้ติดท้ายเวทเทลเพื่อแย่งชิงโพเดียมอันดับที่ 2 แต่ทันใดนั้นขณะเหลือการแข่งขันอีกไม่ถึง 2 รอบ เครื่องยนต์ของรอสเบิร์กก็ระเบิดจนเกิดเปลวไฟพุ่งออกมาจากท้ายรถ นับเป็นครั้งแรกของปีนี้ที่รถเมอร์เซเดสต้องออกจากการแข่งขันด้วยปัญหาทางเทคนิค ซึ่งเครื่องยนต์ของรอสเบิร์กตัวนี้เป็นตัวเก่าหลังจากใช้มาแล้ว 6 สนาม เนื่องจากตัวอัพเกรดที่ตั้งใจจะใช้แข่งขันสนามนี้มีปัญหาตั้งแต่ช่วงซ้อมครั้งสุดท้าย ด้านไรค์โคเน่น หลังจากมีปัญหาช่วงสตาร์ทก็ไล่อันดับขึ้นมาได้เรื่อยๆ และเข้าเส้นชัยอันดับที่ 5 ในที่สุด
- เครื่องยนต์ของรอสเบิร์กระเบิดเป็นการเปิดทางให้วิลเลียมส์คันใดคันหนึ่งได้ขึ้นโพเดียม เนื่องจากเฟลิเป้ มาสซ่า และวาลท์เทรี่ บอตทาส กำลังขับเคี่ยวแย่งตำแหน่งกัน และเป็นมาสซ่าที่เข้าเส้นชัยได้ก่อนแบบฉิวเฉียด
- ฟอร์ซอินเดียผลงานดีเยี่ยม รถทั้งสองคันจบอันดับที่ 6 และ 7 น่าเสียดายที่รถเครื่องยนต์เมอร์เซเดสอีกทีมอย่างโลตัสต้องออกจากการแข่งขันไปทั้ง 2 คันตั้งแต่ช่วงแรกของการแข่งขัน ทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุที่โค้ง 1 โรแมง โกรส์ฌอง ต้องจอดรถข้างแทร็ค ส่วนพาสเตอร์ มัลโดนาโด ประคองรถกลับพิตแต่ไม่สามารถออกมาได้อีก
- สถานการณ์ของแม็คลาเรนเป็นไปตามคาด พวกเขาประสบปัญหากับกำลังเครื่องยนต์ในสนามความเร็วสูงเช่นนี้ ในช่วงท้ายเฟอร์นันโด อลอนโซ่ มีลุ้นแย่งอันดับกับเพื่อนร่วมทีมเจนสัน บัตตัน แต่สุดท้ายเขาต้องออกจากการแข่งขันด้วยปัญหาระบบไฟฟ้าเมื่อเหลือการแข่งขันอีกเพียง 3 รอบเท่านั้น
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 12
ประเภทนักขับ
1. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 252 คะแนน
2. นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 199 คะแนน
3. เซบาสเตียน เวทเทล (เฟอร์รารี่) 178 คะแนน
4. เฟลิเป้ มาสซ่า (วิลเลียมส์) 97 คะแนน
5. คิมี่ ไรค์โคเน่น (เฟอร์รารี่) 92 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด คลิกที่นี่
ประเภททีมผู้สร้าง
1. เมอร์เซเดส 451 คะแนน
2. เฟอร์รารี่ 270 คะแนน
3. วิลเลียมส์ 188 คะแนน
4. เร้ดบูล 113 คะแนน
5. ฟอร์ซอินเดีย 63 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด คลิกที่นี่
หมดช่วงการแข่งขันในสนามความเร็วสูงที่สุดของปีแล้วนะคะ เมอร์เซเดสและลูอิส แฮมิลตัน แปรความได้เปรียบเปลี่ยนเป็นคะแนนเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถ้าคู่แข่งจะรีบขัดขวางเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบของพวกเขาคงมีโอกาสอีกไม่มากแล้ว มาลุ้นกันอีกครั้งในสนามความเร็วต่ำที่สุดสนามหนึ่งของฤดูกาล รายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ วันที่ 18-20 กันยายนค่ะ
*ข้อมูลจาก autosport.com
ภาพจาก twitter.com/F1
| Create Date : 07 กันยายน 2558 |
| Last Update : 8 กันยายน 2558 1:25:00 น. |
|
2 comments
|
| Counter : 1752 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [