Mexican Grand Prix 2015
มาถึงสนามที่เคยจัดการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาแล้ว 16 ครั้ง เม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ ปรับปรุงโฉมพร้อมรับการมาเยือนของนักขับรุ่นใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปีสุดสัปดาห์นี้ค่ะ
รายละเอียดการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย)
สนามที่ 17: 30 ต.ค.-1 พ.ย. 58
ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 30 ต.ค. เวลา 23.00-0.30 น.
ซ้อม 2 - เสาร์ที่ 31 ต.ค. เวลา 3.00-4.30 น. (คืนวันศุกร์ต่อเช้าวันเสาร์)
ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 31 ต.ค. เวลา 23.00-0.00 น.
รอบควอลิฟาย - อาทิตย์ที่ 1 พ.ย. เวลา 2.00-3.00 น. (คืนวันเสาร์ต่อเช้าวันอาทิตย์)
แข่งขัน - จันทร์ที่ 2 พ.ย. เวลา 2.00 น. (คืนวันอาทิตย์ต่อเช้าวันจันทร์)
*ติดตามชมรอบฝึกซ้อม 1-2 ได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ เอชดี และรับชมรอบฝึกซ้อม 3 (เทปออกอากาศเวลา 3.30 น. หลังจบรอบควอลิฟาย) รอบควอลิฟาย และการแข่งขันได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ 2 หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ข้อมูลสนาม
ชื่อสนาม: ออโตโดรโม่ เฮอร์มาโนส โรดริเกซ (สนามถาวร)
ทิศทางการวิ่ง: ตามเข็มนาฬิกา
จำนวนรอบแข่งขัน: 71 รอบ
จำนวนโค้ง: 17 โค้ง
ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 1962 (ปรับปรุง ค.ศ. 2015)
ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 1963
ความยาวของสนาม: 4.304 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 305.354 กม.
สถิติสนามต่อ 1 รอบ: ยังไม่มีข้อมูล
ข้อมูลทางเทคนิค
ความเร็วสูงสุด: 360 กม./ชม.
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ: 54%
อัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อรอบ: 1.41 กก.
อัตราการเปลี่ยนเกียร์ต่อรอบ: 47 ครั้ง
ดาวน์ฟอร์ซ: ปานกลาง
อัตราการใช้ยาง: ปานกลาง
การเลือกยางของปิเรลลี่: ซอฟต์ (สีเหลือง) / มีเดียม (สีขาว)
อัตราการใช้เบรก: สูง
แรง G ในโค้งสูงสุด: 3.4 (โค้ง 3)
DRS Zone:
1) ระหว่างโค้ง 17 ถึงโค้ง 1
2) ระหว่างโค้ง 3 ถึงโค้ง 4
โดยมีจุดตรวจจับเวลาร่วมกันก่อนโค้ง 15
จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ระหว่างช่วงฝึกซ้อม รอบควอลิฟาย และการแข่งขัน
พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน
วันศุกร์ - มีเมฆมาก อุณหภูมิสูงสุด 24 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส
วันเสาร์ - มีฝนเล็กน้อย อุณหภูมิสูงสุด 23 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส
วันอาทิตย์ - มีฝน อุณหภูมิสูงสุด 23 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส
มีอะไรน่าติดตามในสนามนี้
- แม้แชมป์โลกปีนี้จะตัดสินไปแล้ว แต่ความตึงเครียดระหว่างลูอิส แฮมิลตัน ผู้ที่เพิ่งครองแชมป์หมาดๆ กับเพื่อนร่วมทีม นิโค รอสเบิร์ก ยังมีอยู่ต่อไปสืบเนื่องจากจังหวะที่ทั้งคู่เบียดกันเข้าโค้งแรกในสนามออสติน ในเมื่อทุกอย่างตัดสินเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่คงลุยเต็มที่เพื่อผลงานที่ดีที่สุดของตนเอง
- เซอร์จิโอ เปเรซ จะได้ลงแข่งขันในบ้านเกิดเป็นครั้งแรก ด้วยผลงานช่วงหลังของฟอร์ซอินเดียรวมทั้งโพเดียมในสนามโซชิ แฟนๆ เจ้าถิ่นต้องหวังจะเห็นนักขับของประเทศขึ้นโพเดียมในสุดสัปดาห์นี้แน่นอน
- เครื่องยนต์ 1.6 V6 เทอร์โบจะได้ลงแข่งขันในพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,250 เมตรเป็นครั้งแรก นั่นหมายถึงสนามจะมีออกซิเจนเพียง 78% ทำให้ระบบระบายความร้อนมีความสำคัญมากเพราะเทอร์โบจะต้องปั่นเร็วขึ้นเพื่อชดเชยกับออกซิเจนที่จะเข้าสู่ ICE น้อยลง นอกจากนั้น อากาศที่เบาบางลงยังทำให้รถมีดาวน์ฟอร์ซน้อยลงไม่ว่าจะปรับปีกระดับใดก็ตาม ถือเป็นความท้าทายของทีมงานในการเซ็ตรถอย่างแท้จริง
รู้ไว้ใช่ว่า...ที่มาของชื่อสนาม
สนาม "ออโตโดรโม่ เฮอร์มาโนส โรดริเกซ" (Los Hermanos Rodriguez แปลว่าพี่น้องโรดริเกซ) ที่ใช้จัดการแข่งขันเม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ มีความหมายกับชาวเม็กซิกันยิ่งนัก...
ก็เพราะตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สองพี่น้องนักขับฟอร์มูล่าวันคู่แรกของเม็กซิโก เปโดรและริคาร์โด้ โรดริเกซ เกิดในปี 1940 และ 1942 ตามลำดับ แม้จะเป็นน้องแต่ความสามารถของริคาร์โด้ฉายแววชัดกว่า เขาคว้าชัยชนะการแข่งรถสปอร์ตระดับนานาชาติครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปีเท่านั้น ต่อมาริคาร์โด้ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเฟอร์รารี่ได้เชิญเขามาลงแข่งขันในรายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 1961 เขาควอลิฟายได้อันดับที่ 2 ในทันที น่าเสียดายที่เขาต้องออกจากการแข่งขันทั้งที่เพิ่งผ่านไป 13 รอบเพราะปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงมีปัญหา แต่เฟอร์รารี่ประทับใจเขาเสียแล้วและเซ็นสัญญาให้เขาลงแข่งขันเต็มตัวในปี 1962
อย่างไรก็ตาม ปีนั้นเป็นปีที่เฟอร์รารี่ไม่ประสบความสำเร็จและตัดสินใจไม่ส่งรถลงแข่งขันใน 3 สนามสุดท้ายของปีที่อเมริกาและเซาธ์แอฟริกัน กรังด์ปรีซ์ รวมถึงการแข่งขันครั้งแรกของเม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ สนามบ้านเกิดของริคาร์โด้ แม้จะไม่นับรวมในแชมเปี้ยนชิปก็ตาม ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเซ็นสัญญาลงแข่งให้โลตัสแทนในสนามใหม่ของเม็กซิโกขณะนั้น มักดาเลน่า-มิชูก้า (ชื่อเดิมของสนามออโตโดรโม่ เฮอร์มาโนส โรดริเกซ) แต่น่าเศร้าที่อุบัติเหตุในวันนั้นคร่าชีวิตเขาไปในวัยเพียง 20 ปี ทิ้งผลงานอันดับที่ดีที่สุดในฟอร์มูล่าวันด้วยอันดับที่ 4 ที่เบลเยี่ยม
หลังการเสียชีวิตของน้องชาย เปโดรผู้พี่ที่มีความสามารถไม่แพ้กันก็ถอยจากมอเตอร์สปอร์ตและหันไปเปิดธุรกิจนำเข้ารถยนต์ในเม็กซิโก แต่ไม่นานพรหมลิขิตได้พาให้เปโดรกลับไปลงแข่งขันอีกครั้ง ในที่สุดเขาได้ลงแข่งขันฟอร์มูล่าวันในปี 1963 ที่สหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก ผลงานของเขาไม่ดีนักและกลับมาแข่งขันรถสปอร์ตต่ออีก 3 ปี กระทั่งปี 1967 ชีวิตนักขับฟอร์มูล่าวันของเปโดรได้เริ่มจริงจังในสนามแรกของปีที่แอฟริกาใต้ เขาควอลิฟายได้อันดับที่ 4 ก่อนคว้าชัยชนะสุดเซอร์ไพรส์ให้กับคูเปอร์ซึ่งถือว่าเป็นทีมที่ไม่แข็งแกร่งนักในสมัยนั้น เขายังคว้าชัยชนะมาได้อีกในเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ปี 1970 และรายการอื่นอย่างเลอมังส์
น่าเศร้าที่ชะตาชีวิตของเปโดรไม่ต่างจากน้องชาย ในรายการแข่งขันรถสปอร์ตรายการหนึ่งที่เยอรมันปี 1971 เขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในวัย 31 ปี ทิ้งไว้เพียงแต่ความหวังและแรงบันดาลใจให้กับนักขับเม็กซิกันรุ่นหลังต่อไป
นับจนถึงปัจจุบัน เปโดร โรดริเกซ ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นนักขับที่ขับในสภาพฝนดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของวงการนักขับ ในขณะที่การสูญเสียริคาร์โด้ โรดริเกซ ถือเป็นความสูญเสียนักขับพรสวรรค์สูงครั้งยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง ทุกวันนี้ชื่อของริคาร์โด้ยังอยู่ในสถิตินักขับฟอร์มูล่าวันอายุน้อยที่สุดที่ได้คะแนนจากการแข่งขันต่อจากแม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น ดาเนียล คัฟยาต เซบาสเตียน เวทเทล ไฮมี่ อัลเกอร์ชัวรี่ และเจนสัน บัตตัน ซึ่งบัตตันเป็นผู้ทำลายสถิติอันยาวนานของริคาร์โด้ลงได้ในปี 2000
*ข้อมูลจาก formula1.com / gpupdate.net / wikipedia.org / twitter.com/Lotus_F1Team
ภาพจาก formula1.com
| Create Date : 29 ตุลาคม 2558 |
| Last Update : 30 ตุลาคม 2558 1:34:43 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1546 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [