|
ด้วยความอาลัย...ฌูลส์ เบียงคี่
ถึงคราวที่แฟนๆ ฟอร์มูล่าวันและคนในวงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกต้องใจสลายอีกครั้งเมื่อครอบครัวของฌูลส์ เบียงคี่ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อเช้ามืดวันนี้ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส ดังนี้ค่ะ
"นับเป็นความเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อครอบครัวของฌูลส์ เบียงคี่ คุณพ่อฟิลิปป์ คุณแม่คริสติน ทอมและเมลานี พี่น้องของเขา ขอแจ้งให้ทราบว่าฌูลส์ได้จากไปแล้วเมื่อคืนนี้ที่โรงพยาบาลกลางมหาวิทยาลัยนีซ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาได้เข้ารับการรักษาตัวหลังเกิดอุบัติเหตุในรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ สนามซูซูกะ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2014
"ฌูลส์ต่อสู้มานับตั้งแต่วันแรกจนวาระสุดท้าย แต่วันนี้การต่อสู้ของเขาถึงคราวที่ต้องสิ้นสุด ความเจ็บปวดที่เราได้รับนั้นหาที่สุดมิได้และไม่สามารถบรรยายได้ พวกเราขอขอขอบคุณบุคลากรของโรงพยาบาลกลางมหาวิยาลัยนีซทุกท่านที่ได้ดูแลเขาด้วยความรักและทุ่มเท ขอขอบคุณบุคลากรของโรงพยาบาลกลางมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเช่นกันที่ดูแลฌูลส์ทันทีหลังประสบอุบัติเหตุ รวมถึงแพทย์ท่านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเขาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
"นอกจากนั้น พวกเราขอขอบคุณเพื่อน เพื่อนร่วมงาน แฟนๆ ของฌูลส์ และทุกคนที่แสดงความรักและห่วงใยเขาในหลายเดือนมานี้ ซึ่งทำให้เรามีความเข้มแข็งในการรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก การได้ฟังและได้อ่านข้อความที่เข้ามาทำให้เราได้รู้ว่าฌูลส์อยู่ในใจใครหลายคนจากทุกมุมโลกมากมายเหลือเกิน
"พวกเราอยากขอความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาแห่งความเศร้าสลดในการจากไปของฌูลส์ด้วย"
เบียงคี่จากไปในคืนวันที่ 17 กรกฎาคม 2015 หลังจากเขาต้องต่อสู้มากว่า 9 เดือนนับจากอุบัติเหตุที่ได้รับในการแข่งขันรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2014 โดยเสียชีวิตลง ณ โรงพยาบาลกลางมหาวิทยาลัยนีซ ประเทศฝรั่งเศส ด้วยวัย 25 ปี
เบียงคี่นับเป็นนักขับฝีมือดีอนาคตไกลของวงการฟอร์มูล่าวันอีกคนหนึ่ง เขาเกิดวันที่ 3 สิงหาคม 1989 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ในครอบครัวนักแข่ง โดยปู่ของเขา เมาโร เป็นแชมป์โลกจีที 3 สมัย ในขณะที่ลูเชียน ลุงของเขาเป็นแชมป์เลอมังส์ 24 ชั่วโมง ปี 1968 รวมทั้งเคยลงแข่งขันฟอร์มูล่าวันมา 17 สนามด้วยกัน
ความสามารถของฌูลส์เข้าตากรรมการตั้งแต่ซีรีส์เล็กๆ เขาคว้ามาได้ทั้งแชมป์ฟอร์มูล่าเรโนลต์ 2.0 ของฝรั่งเศสในปี 2007 และแชมป์ฟอร์มูล่า 3 ยูโรซีรีส์ ปี 2009 จนกระทั่งเมื่อเฟอร์รารี่เปิดอะแคเดมี่นักขับของตนเองในปี 2010 ชื่อของเขาได้รับเลือกให้เป็นนักขับรุ่นก่อตั้ง นั่นหมายความว่าเส้นทางการเป็นนักขับฟอร์มูล่าวันคงไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
ระหว่างนั้นเขายังลงแข่งในซีรีส์อื่นๆ พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเป็นนักขับสำรองให้กับเฟอร์รารี่ในปี 2011 และฟอร์ซอินเดียในปี 2012 ต่อมาในปี 2013 ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยเมื่อเขาเซ็นสัญญาเป็นนักขับตัวจริงของมารุสเซีย เขาลงแข่งขันทั้งสิ้น 34 สนาม โดยมีผลงานชิ้นสำคัญคืออันดับที่ 9 จากรายการโมนาโก กรังด์ปรีซ์ 2014 ทำให้ได้รับ 2 คะแนน เป็นคะแนนแรกและคะแนนเดียวในประวัติศาสตร์ของทีมมารุสเซีย
เชื่อได้ว่าถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น...วันนี้เราคงได้เห็นฌูลส์ เบียงคี่ โลดแล่นในเส้นทางฟอร์มูล่าวันอย่างงดงามตามใจปรารถนาของเขา เพียงต่อแต่นี้ ชื่อของเขากลับกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานให้คนรุ่นหลังเล่าขานถึงความสามารถที่ไม่มีวันได้ประจักษ์ชัดอย่างที่หลายคนเฝ้ารอ
#RIP Jules Bianchi#
************************************************* ย้อนรอยเหตุการณ์สำคัญในอุบัติเหตุของฌูลส์ เบียงคี่ - วันเกิดเหตุ
- ข้อมูลเพิ่มเติมหลังเกิดเหตุ
ภาพจาก motorsport.com
| Create Date : 18 กรกฎาคม 2558 |
|
6 comments |
| Last Update : 20 กรกฎาคม 2558 0:55:44 น. |
| Counter : 4273 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [