Oh!! my sassy boss ตอนที่ 28 หน้า 2
หมอเอกชิงกัดแซะก่อน
น้ำฝน “วันนี้ หมอกฤษไม่อยู่ หมอเมขอยู่คนเดียว หนูเลยขอป้าโสมมาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ”
ช่างเป็นพยาบาลที่รู้งานอะไรอย่างนี้ แต่มันใช่เวลานี้เหรอ หมอเอกมองแทบจะกินเลือดกินเนื้อ กฤษไม่อยู่ถือเป็นเรื่องดี แต่มีน้ำฝนถือว่าฤกษ์ไม่ดี โอกาสที่จะหาเวลาอยู่กันสองต่อสองกับเมขลาก็หมดสิทธิ์ไป
เมขลา “น้ำฝนมาช่วยฉันก็ดีแล้ว แล้วคุณมาทำไร?”
เธอรีบตัดบท
หมอเอก “ก็ผมบอกคุณว่าเวียนหัว ช่วยสนใจคนไข้ด้วยครับ เดี๋ยวผมจะเป็นหนักไปแล้วดูแลคนไข้ไม่ได้นะ”
เมขลา “ป่วยก็ลา ผอ สิ ให้ลางานได้อยู่แล้ว”
เมขลาบอกตรงๆ ทำเอาหมอเอกเงิบไป 1 ที ก็เอาสิ วันนี้เขามาแล้วจะกลับมือเปล่าไม่ได้
หมอเอก “ผมเป็นผู้ไข้ที่ต้องการหมอนะครับ”
ทำเสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์ ทำเอาน้ำฝนที่ยืนกรอกยาหม่องเบ้ปากมองบนไป 2 ที
เมขลาเลยจำยอมเดินมาดูเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายน่าจะอาการหนักจริง เธอเดินมามองหน้าเขา ไปหาประวัติหมอเอกในตู้ ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ
เมขลา “เมื่อคืนเข้านอนกี่ทุ่มคะ?”
หมอเอก “4 ทุ่ม”
เขาตอบเธอ แต่เห็นคิ้วเมขลาขมวดเหมือนไม่เชื่อ
หมอเอก “ตี 1”
เขารีบตอบเสี่ยงอ่อย
เมขลา “ทำไมนอนดึก?”
เธอซักเขาต่อ
หมอเอก “ก็ ก็....”
นั่นสิเขาอยู่ทำอะไรจนดึก ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่มเกมส์
หมอเอก “ผมนอนไม่ค่อยหลับ”
เขาตอบเสียงเบา
เมขลา “คุณอายุมากแล้ว เมื่อไหร่จะหยุดทำร้ายร่างกายตัวเอง คุณเลิกงานตั้งแต่ 5 โมงเย็น ทำอะไรอยู่ถึงไม่นอน”
หมอเอก “บางอาทิตย์ผมก็เข้าเวรบ่ายนิคุณ ทำให้เวลานอนไม่คงที่ อาจจะดื้อ”
เขารีบแย้ง
มันจะมีอาการดื้อการนอนได้ยังไง แล้วการเข้าบ่ายเลิก 4 ทุ่ม มันก็ยังไม่ถือว่าดึกมาก หมอเอกพักในระแวกนี้ ไม่ได้ใช้เวลาในการเดินทางไกล แล้วอีกอย่างชีวิตการอยู่คนเดียวย่อมไม่มีกิจกรรมอะไรที่จะทำให้นอนดึก เมขลารู้ดี ชีวิตคนโสดมันเป็นยังไง นอกจากการดูซีรี่ย์ของเธอ
เมขลา “คุณไม่อยากนอนเอง”
เธอพูด
เมขลา “คุณลองทำกิจกรรมที่ชวนง่วงดูสิ อย่างการฟังเพลงกล่อม หนังไม่ควรดูเพราะมันชวนติดตามมากกว่าการง่วง หรืออ่านหนังสือ มันเป็นยานอนหลับที่ดี ใช้เครื่องหอมกล่อมจิตใจให้สงบ”
หมอเอก “ผมอยู่คนเดียว ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ง่วงหรอก ผมไลน์หาคุณยังไม่เคยตอบผมเลยเวลากลางคืนทั้งที่คุณเลิก 5 โมง ทุกวัน”
เขาตัดพ้อไป 1 งาน น้ำฝนก็ยังเบ้ปากภายใต้แมสต่อไปอย่างรับไม่ได้กับความสำออย แต่จะว่าไป หมอเอกก็ไม่เคยออเซาะใครหรือว่า?
น้ำฝนหันไปมองหมอเมขลาที่ซักคนไข้ของเธอแต่หมอเอกพยายามใช้ตาตี๋ๆ มองอย่างลึกซึ้ง
เมขลา “วัยนี้แล้ว อาจจะนอนยากตื่นง่าย งั้นเอายาหอมไปลองทานดูนะ เออ เหมือนคราวที่แล้วกฤษเอายาหอมให้คุณแล้วนิ ไม่ได้ทานเหรอ?”
เมขลาดูประวัติแล้วเงยหน้ามองคนตาตี๋ ที่เอาแต่จ้องหน้าเธอเยิ้มๆ
หมอเอก “อ้อ...เหมือนจะใช่นะ”
เขาพูดแก้เก้อ
เมขลา “ยามันก็แค่ปลายเหตุ ถ้าคุณรู้สาเหตุแล้วไม่ยอมแก้ไม่ยอมปรับตัว กินยากี่อย่างก็ไม่หายหรอก”
การฝืนทำกิจกรรมผิดเวลา หรือทำงานที่ล่วงเลยเวลาทำให้นอนดึก อาจจะเลยเวลานอนไปจริงๆ แต่ถ้ากล่อมจิตกล่อมใจได้ก็อาจจะช่วยได้แต่ก็ไม่ใช่การแก้ที่สาเหตุ
แต่อาการมันก็แค่ข้ออ้างมาพบหมอ
เมขลา “แล้วหลัง 6 โมง คุณทานอาหารหนักๆ ไหม?”
หมอเอก “ก็มีบ้าง”
เมขลา “หลัง 6 โมงแล้ว ไม่ควรทานอะไร หรือถ้าหิวจริงๆ ทานแค่นมกับผลไม้สักนิดหน่อยพอค่ะ เพราะมันจะทำให้ร่างกายเรามีกิจกรรมจนนอนไม่ได้อีก”
เมขลาจัดการซักประวัติหมอเอกไปวันนี้แล้วจ่ายยาหอมอีกตัวให้เขาไปทาน
เมขลา “ชงแค่ 1 ช้อนชา ละลายน้ำอุ่นทานก่อนนอนนะคะ แล้วยาหอมที่ได้ไปก่อนนั้นก็สลับกันทานดู อันไหนใช่ได้ผลดีกว่ากัน”
หมอเอก “เห็นผมเป็นหนูลองยาเหรอคุณ”
เมขลา “แก่แล้วต้องยอมรับสภาพนะ ว่าหายายาก”
เธอบอกรายละเอียด หมอเอกรับยาไปถือแล้วยิ้มล่า วันนี้เขาเข้าเวรเช้าเลิก 5 โมงอยากจะชวนเมขลาไปหาอะไรทานบ้าง แต่หมอเมขก็พึ่งจะบอกเขาว่าอย่าทานของหนักหลัง 6 โมงเย็น กินก่อน 6 โมงเย็นก็น่าจะไม่เป็นไรนะ แล้วดูเหมือนสายตาสอดรู้สอดเห็นของเด็กแถวนี้แล้ว เอาไว้ไลน์มาชวนจะดีกว่าก่อนจะออกจากเรือนยาไทยไป
พอร่างหมอเอกไปแลว น้ำฝนเทยาหม่องเสร็จเก็บอุปกรณ์ไปล้างกลับมาหาเมขลา
น้ำฝน “หมอเมขคะ หนูว่าหมอเอกแปลกๆ นะคะ”
เธอเกริ่นเรื่องกับเมขลา
เมขลาหันมามองหน้าสาวน้อย
เมขลา “เขาแปลกเหรอ?”
เธอถามกลับอย่างสงสัย จะว่าไปเธอเจอหมอที่ทั้งเป็นมิตรและไม่เป็นมิตรทุกวัน จนเป็นเรื่องปกติ
น้ำฝน “หมอเอก เขาไม่ค่อยคุยกับใคร?”
เมขลา “เขาไม่ได้เป็นใบ้นิ”
เธอแย้ง
น้ำฝน “ไม่ใช่ๆ หนูหมายถึงว่า เขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครที่ไหน เพื่อนหมอพยาบาลเขาก็ไม่ค่อยคุยด้วย ต่อให้อยู่ห้องพักของหมอข้างบน เขาก็เอาแต่เล่นมือถือหรือไม่ก็นอน”