ตุลาคม 2557
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
1 ตุลาคม 2557

:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องอ้อ ::





:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องอ้อ ::




ปัญญา กับ ศรัทธา คนละอย่างกันไม่ใช่เหรอคะ
ถ้าปลูกปัญญาก็ขึ้นเป็นปัญญา
ปลูกศรัทธาก็ขึ้นเป็นศรัทธา

มีศรัทธาแรงกล้าแต่ไม่มีปัญญา
กับมีปัญญาล้ำเลิศแต่ไม่มีศรัทธา
แบบไหนน่ากลัวกว่ากัน

ห้ามตอบว่าน่ากลัวเท่ากันเพราะอ้อไม่เชื่อเรื่องความเท่ากัน
อ้อเป็นคนที่มีศรัทธาแรงกล้าในเรื่องเอ
แต่ขาดปัญญาในเรื่องเอเช่นกัน
และบางครั้งอ้อก็เป็นคนที่มีปัญญาในเรื่องบี
แต่ขาดศรัทธาในเรื่องบีเช่นกัน

เรื่องเดียวกันจะให้มีทั้งปัญญาและศรัทธาคงยาก แต่ก็พอจะมี
แต่มันยากที่จะให้มีทั้งสองอย่างในเรื่องเดียวกัน
เพราะงั้นบอกหนทางที่จะมีทั้งสองอย่างสิคะ




คำถามโดย : ~ ริมน้ำ_voUฟ้า ~ (rimnam_kobfa )



















“ความรู้” กับ “ปัญญา” ไม่เหมือนกัน

“ความรู้”
คือ สิ่งที่เราแสวงหามาเพิ่มเติม
จากสิ่งต่างๆรอบตัว จากการอ่าน การเขียน การทำ การดู
ยิ่งรับมากเท่าไหร่ สิ่งที่รู้ก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
เปรียบเสมือนกองไฟที่เราเติมเชื้อฟืนเข้าไปเรื่อยๆ
ยิ่งเติมฟืนหรือความรู้ใหม่เข้าไปมากเท่าไหร่
ไฟก็ยิ่งโหมแรงมากขึ้นเท่านั้น

ส่วน “ปัญญา” เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวเรามาตั้งแต่ต้น
เปรียบเหมือนแสงอาทิตย์ที่สว่างไสวอยู่ตลอดเวลา
แม้ตกกลางคืนจะมองไม่เห็นดวงอาทิตย์
แต่ดวงอาทิตย์ยังคงทำงานอยู่เวลา



...............................



“ความศรัทธา” คือ “ความเชื่อ”
“ความเชื่อ” ทำให้เรา “รู้สึก”
มนุษย์ทำทุกอย่างไปตามความรู้สึก
รู้สึกชอบจึงรู้สึกรัก
รู้สึกเชื่อในตัวคนๆนั้น จึงยกย่องเชื่อถือ
รู้สึกกลัวจึงสร้างผีขึ้นมาในความรู้สึกหรือจินตนาการ
ฯลฯ

“ความเชื่อ” คือ สิ่งที่ถูกหล่อหลอมมาจากการรับรู้ของตัวเรา
รับข้อมูลมา แล้วแปลงข้อมูลนั้นเป็น “ความคิด”
ความคิดนี้เป็นตัวกำหนดท่าทีที่เรามีต่อสิ่งต่างๆ

“ศรัทธา” ก็แทบไม่ต่างอะไรกับ “ความเชื่อ”
เพียงแต่ศรัทธาจะลึกซึ้งกว่า เชื่อมั่นกว่า
เหมือนคนเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง
เขาย่อมเชื่อว่าพระเจ้ามีตัวตน อยู่เคียงข้าง
และคอยดลบันดาลทุกสิ่งให้เขาได้ตามแต่ใจต้องการ

จะความเชื่อหรือความศรัทธา
ล้วนแล้วแต่เริ่มต้นที่ “ความคิด” ของเราเองทั้งสิ้น

ถ้า “ไม่เชื่อ” เสียแล้ว
ศรัทธาก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้



.................................




ศรัทธาหรือปัญญา
ไม่ได้มีอะไรดีกว่าหรือด้อยกว่า
ทั้งหมดมาพร้อมกัน

เหมือนความสุขและความทุกข์
มันไม่ได้แยกกันอยู่
อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
เหมือนพระจันทร์และพระอาทิตย์ที่ไม่ได้ทำงานแยกกัน
เพียงแต่แบ่งหน้าที่ไปตาม “จังหวะ” และ “เวลา” ของตน

เราเห็นความสว่าง
ไม่ได้แปลว่า ณ ที่นั้นไม่มีความมืด
เมื่อเราปิดแสง ความมืดก็ทำงาน
เมื่อเราเปิดไฟสว่าง แสงนั้นก็ทำหน้าที่ของมัน

ศรัทธาและปัญญาก็เช่นกัน
อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
ขึ้นอยู่กับเราจะใช้อะไรทำงาน

บางเรื่องในชีวิตเราต้องรู้อย่างถ่องแท้
ว่าจะใช้อะไรทำงานอะไร

ปัญหาที่ต้องแก้ด้วยเหตุผล ความคิด
ต้องใช้สมองคิด

ปัญหาที่ต้องใช้ความรู้สึก ใช้อารมณ์รับรู้
ก็ต้องใช้หัวใจในการทำงาน

อย่าใช้สลับที่สลับทาง
ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องถูกธรรม



................................



เหมือนมีคนบอกว่าเวลาปฏิบัติธรรมต้องมีศีล สมาธิ ปัญญาครบถ้วน
เราจะเลือกปฏิบัติอันไหนก่อน อะไรสำคัญที่สุด
พี่ก๋าคิดว่าทั้งสามสิ่งคือสิ่งเดียวกัน
ไม่มีความจำเป็นต้องไปแยกหรือลำดับความสำคัญเลย

เหมือนกินก๋วยเตี๋ยว
ไม่จำเป็นต้องไปแยกว่าจะต้องกินเส้นก่อน แล้วค่อยกินเนื้อ
ตามด้วยลูกชิ้น แล้วถึงจะซดน้ำซุป

ถ้ากินอย่างมีสติ
ค่อยๆคีบ ค่อยๆเคี้ยว ค่อยๆกลืน
ทั้งหมดในชามก๋วยเตี๋ยว
สุดท้ายมันก็ลงไปรวมอยู่ในร่างกายทั้งหมดทั้งสิ้น
จะไปแยกทำไมว่าต้องกินอะไรก่อน
อะไรอร่อย หรืออะไรสำคัญที่สุด
ทุกส่วนประกอบมีความสำคัญเท่าเทียมกันทั้งสิ้น



.......................................




ศรัทธาที่มากเกินไป
ทำให้เราไม่เชื่อในเหตุผล
ปัญญาที่มากเกินไป
ทำให้ชีวิตแห้งแล้งเพราะไม่เชื่อถือในสิ่งใด

อะไรน้อยไป...ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี

“ความพอดี” สร้าง “ความดีพอ”

ทั้งปัญญาและศรัทธามีอยู่ในตัวเรา
เพียงแต่เรามีหน้าที่รู้ทันสิ่งที่มีอยู่
รู้ว่ามีแค่ไหนถึงพอ รู้ว่ามีแค่ไหนถึงดี

เจ้าความพอดีนี้เอง ที่เรียกว่า “ธรรมะ”
คือเป็นไปตามธรรมชาติ
รู้ทันตามความเป็นจริงแห่งธรรมชาติ
รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี
รู้ว่าอะไรพอ อะไรขาด

สุดท้ายแล้ว...
อยู่กับความรู้นี้อย่างเป็นธรรมชาติ
รู้การได้มาเสียไป
รู้การมีอยู่และหายไป
รู้ตัว รู้ตน ตลอดเวลา

นี่คือสิ่งที่พี่ก๋าคิดว่าคนทุกคนควรรู้

สิ่งนี้ไม่ใช่ “ความรู้” ไม่ใช่ “ความเชื่อ”

แต่มันคือ “ปัญญา” และ “ความศรัทธา”
ที่จะนำพาเราไปพบกับ “ความจริงแห่งชีวิต” ที่แท้จริง
และสวยงามที่สุดนั่นเอง


























Create Date : 01 ตุลาคม 2557
Last Update : 1 ตุลาคม 2557 6:12:04 น. 30 comments
Counter : 1354 Pageviews.  

 
แหล่มเลย ตอบได้เคลียมากเลยจ้าน้องก๋า
ว่าแล้วคิดถึงน้องอ้อ


โดย: พี่อุ้มสี IP: 110.168.232.153 วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:6:26:09 น.  

 
Wow พี่อุ้มมาตัดริบบิ้นเจิมเลย


โดย: อุ้มสี วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:6:34:22 น.  

 
พี่อ้อก็เ้ามาทักทายและฟังคำปรึกษาไปด้วย


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:7:32:32 น.  

 

สวัสดีค่ะ
วาวว วันนี้สามอ.มาบ้านน้องก่าแต่เช้าเลย
ตอบได้ดีจังค่ะ
newyorknurse


โดย: newyorknurse วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:7:49:02 น.  

 
“ความพอดี” สร้าง “ความดีพอ”

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
กะว่าก๋า Literature Blog

สวัสดีค่ะ น้องซีไป รร วันสุดท้าย ปิดเทอมแล้วค่ะ เย้ๆ



โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:8:22:16 น.  

 
กระจ่างแจ้งเลยครับคุณก๋า

เสียดาย น้องอ้อ ไม่ค่อยอัพบล๊อกเหมือนเมื่อก่อน
นะครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:8:33:58 น.  

 
นักสืบ....ฟังแล้วอยากไปมากๆ....

คงมีสักวันได้พาซีขึ้นเหนือ อยากเจอพี่หมิงๆ จังเลย


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:8:56:13 น.  

 
คำถาม-คำตอบ ตอบได้กระจ่างเลยค่ะ

สวัสดีค่ะคุณก๋า
อ่านแล้วก็ซาบซึ้งในบทความที่คุณก๋าตอบด้วย
“ปัญญา” และ “ความศรัทธา”
เข้าใจเพิ่มมากขึ้นทีเดียว ...ขอบคุณค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Music Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Dharma Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:9:14:14 น.  

 
ซีบอกว่าอยากนั่งเครื่องบินค่ะ อิอิ ผิดหวังจาก รถไฟ..ฟ้า..ที่ไม่ได้วิ่งบนฟ้า เลยว่าจะบินขึ้นเหนือดู ^^


โดย: มี้เก๋ + ป๊าโอ๋ = ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:9:15:48 น.  

 
สวัสดียามค่ะก๋า

อ่าน ปัญญา และศัรทธา
จริงๆตามก๋าเขียนไว้เลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ ทำให้ความเข้าใจของพี่เพิ่มขึ้นอีก

......

จากบล็อกพี่ที่ก๋าไปตอบไว้

เรื่องที่พี่ถามน่ะ
มันไม่ใช่แค่ความผิดธรรมดา มันเกี่ยวกับความโลภของคนค่ะ
แต่ก็นะ เมื่อเขาไม่รับ เราจะไปอะไรได้ แต่ที่อึดอัดเพราะยังคิดว่า
ตัวเขาไม่ผิดและมาทำดีดี พูดจาดีดี แบบตัวเองดีมากมาย
ธรรมะเยอะแยะ แต่ปมนี้ไม่สามารถอธิบายได้ไงคะ

เพื่อนพี่ก็พยายามทำอย่างที่ก๋าบอกแระค่ะ
แต่บางครั้งมันอึดอัด เพราะเรารู้ใส้รู้พุงเขา
แต่เขากลับไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนอีกฝ่ายโง่
จริงๆเราไม่ได้โง่ ที่เงียบเพราะไม่อยากต่อต่าย
แต่ดูเธอก็ไม่สำนึกอ่ะค่ะก๋า ....

เรื่องก็เป็นเช่นนี้ค่ะ


โดย: tanjira วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:9:46:01 น.  

 
เอาความเชื่อ นำ ปัญญา บางครั้งก็น่ากลัวเนอะพี่ก๋า


โดย: กาบริเอล วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:10:18:59 น.  

 





สวัสดี ยามเช้าค่ะ คุณก๋า ..







โดย: foreverlovemom วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:10:36:07 น.  

 

ดีแล้วค่ะ ที่ไม่มีคนให้ทะเลาะด้วยค่ะ พี่ก๋า
...
เพราะบางทีมีคนเข้ามาทะเลาะด้วยก็งง ค่ะ 555

ที่สำคัญงง ตัวเองค่ะ ทั้งๆ ที่ก็ชอบอยู่อย่างสงบนะคะ มากระตุกต่อมทุกที
เสือหลับตื่นเลย อิอิ

มีความสุขมากมากนะคะ


โดย: white in the dark วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:10:49:47 น.  

 
เห็นด้วยในหลายอัน แต่เห็นแย้งเรื่องศีล สมาธิ ปัญญาค่ะ

อันนี้ทั้งจากที่ฟังและปฏิบัติด้วยตัวเอง ไม่แน่ใจว่าคนอื่นอาจจะได้ผลที่แตกต่างหรือเปล่านะคะ

คือ ช่วงไหนที่เรามีศีลครบบริบูรณ์ สมาธิเราจะก้าวหน้าและเต็มอิ่มกว่าค่ะ ขณะที่ช่วงที่ศีลขาดพร่อง จะสมาธิลุ่มๆ ดอนๆ มาก บางทีก็งงว่าทำไมเป็นงั้น จนมาทบทวนถึงรู้ว่า ณ เวลานั้นๆ ได้พลั้งผิดศีลไปบางข้อ

แต่สมาธิกับปัญญานี่ หลายท่านก็บอกว่าคู่ๆ กันไปหละค่ะ

แต่ก่อนจะมีทั้งสองอย่าง ยังไงต้องมีศีลเป็นพื้นฐาน "ก่อน" เสมอ ถ้าขาดศีล อีกสองอย่างจะไม่มาน่ะค่ะ



ที่เพื่อนอันเฟรนด์เราไม่ใช่เรื่องการเมืองค่ะ

คือ เค้าอัพประมาณว่า คนเป็นเพื่อนกัน ต้องเข้าข้างเพื่อน ไม่ว่าถูกหรือผิด แต่เราไม่เห็นด้วย

สำหรับเรา คนเป็นเพื่อนที่แท้จริง ต้องรั้งและด่าเมื่อเราผิด แต่ถ้าเราถูกค่อยมาเข้าข้าง และเราเองก็ทำอย่างนั้นกับเพื่อนเราเหมือนกัน

เค้ารับไม่ได้ เค้าเลยอันเฟรนด์ แฮ่..


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:12:36:14 น.  

 
สวัสดีวันหลังฝนตกค่ะพี่กำ (อิอิ ร้อนเหมือนเดิมเลย เฮ้อ)


โดย: ญามี่ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:12:50:03 น.  

 
นั่นซิคะก๋า
หากเราเข้าใจ ที่ไปที่มา
สิ่งต่างๆก็ไม่มีความหมายเน๊าะ
ต่อให้เขาจะเป็นยังไง ใช่ปัญหาของเราแล้ว

ที่สุดตัวเราต้องเปลี่ยนแปลงและทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผ่านเข้ามา

ขอบคุณนะคะก๋าที่มาเล่าสู่กันฟัง


โดย: tanjira วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:13:50:40 น.  

 
สวัสดีอีกรอบค่ะ

แหะๆ เค้าคงรับไม่ได้น่ะค่ะ แต่ก็ช่างเค้าเถอะค่ะ ถ้าเค้าสบายใจที่จะอันเฟรนด์ก็ทำไป ปกติก็แทบไม่ได้เจอกันอยู่แล้วน่ะ

เรื่องศีล สมาธิ ปัญญา คุณก๋าลองสังเกตตัวเองดูแล้วกันเนาะคะ

ปลาไหลปกติเราก็ไม่ทานค่ะ ไปญี่ปุ่นนี่แหละค่ะถึงได้หม่ำ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:14:46:33 น.  

 
“ความพอดี” สร้าง “ความดีพอ”

มากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินก็ไม่ดี หนอนเป็นบ่อย
ต้องพยายามดึงตัวมาตรงจุดที่พอดี อยู่ตลอดเวลาเลยค่ะพี่


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:16:40:48 น.  

 
ชอบค่ะพี่

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:16:41:45 น.  

 
ถ้าเป็นพี่นะ

หมดศรัทธา --> หมดใจ --> จบ...


มีสติ --> เกิดปัญญา


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:17:27:23 น.  

 
วัดที่สร้างบนยอดเขา หรือที่สูง พี่ว่าสวยหมดนะ คงได้เปรียบเรื่องวิวรอบๆ มังคะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:17:47:49 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า

อ่านแล้วดีมากชอบมากค่ะวันนี้เที่ยวไหว้พระในเมืองแพร่ทั้งวัน

พรุ่งนี้ไปเชียงใหม่ต่อค่ะ


โดย: พรไม้หอม IP: 49.230.157.254 วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:18:01:08 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

เรื่องการเสาะแสวงหาความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติม เข้ามานี่
ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ
ขอให้มีจิตใจที่ เปิดรับ ไม่ปิดกั้นก้สามารถทำได้สำเร็จ

แต่กับศรัทธานี่ซีครับ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ
คนเราลองมีศรัทธา ที่แน่วแน่ ยึดติดแล้ว

การจะไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขความเชื่อของเขา นี่ยากยิ่งนักจริงๆเลยนะครับ


โดย: multiple วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:19:06:57 น.  

 
แวะมาทักทายตอนค่ำๆค่ะคุณก๋า


โดย: phunsud วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:19:38:40 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆจ้า ..

คนอวดผี 1 ตุลาคม 2557


โดย: T-H-F-C วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:21:38:55 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋า
วันนี้มาอ่านทำความเข้าใจ ความแตกต่างของ ความรู้ และ ปัญญา
ความเชื่อ และ ศรัทธา อะไรที่มากเกินไป มักไม่เป็นผลดีนะคะ

ขอบคุณเสมอกับสาระดีๆค่ะ

เอารูปที่ชอบมาฝากด้วยค่ะ





โดย: anigia วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:22:19:59 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า
วันนี้ขอทักทายสั้นๆค่ะ เหนื่อยๆนิดหน่อย
หวัดเล่นงานด้วยค่ะ



โดย: mambymam วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:22:35:17 น.  

 
เป็นคำถามที่ยากเหมือนกันนะคะ ... แต่คุณก๋า แจกแจงความ
หมายของคำได้ออกมาชัดเจน เข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ...

"ศรัทธาที่มากเกินไป
ทำให้เราไม่เชื่อในเหตุผล
ปัญญาที่มากเกินไป
ทำให้ชีวิตแห้งแล้งเพราะไม่เชื่อถือในสิ่งใด"

พี่ชอบบทสรุปนี้ค่ะ

กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog


โดย: Tristy วันที่: 1 ตุลาคม 2557 เวลา:23:11:26 น.  

 
ยังไงทางสายกลางก็ดีสุดครับ จะเน้นอะไรอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เลย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:0:12:55 น.  

 
สวัสดีค่า พี่ก๋า ^^

ตอนแรกที่อ่านคำถามคุณอ้อ คิดว่าคำถามนี้น่าจะตอบยาก
แต่พี่ก๋าตอบแบบกลางๆดีค่ะ
เป็นนุ่นคิดไม่ออก ><
พี่ก๋าคงศึกษาวิธีคิดหลากหลายเลยนะคะ

ความศรัทธาเกิดจากความเชื่อ
ต้องเชื่อจึงศรัทธาใช่มั๊ยคะ
แต่ก็ต้องใช้ปัญญาด้วยเนาะ

ขอบคุณมากๆค่า ได้ข้อคิดดีจัง



โดย: lovereason วันที่: 2 ตุลาคม 2557 เวลา:13:02:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]