:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องแตน ::
:: ก๋าราณีตอบคำถามน้องแตน ::
พบทางที่จะนำพาชีวิตไปต่อ กับพบธรรมที่จะนำทางชีวิต ใช้ควบคู่กันได้ไหมคะ ? แบบประยุกต์ใช้ให้เข้ากับจังหวะทางโลกบ้าง ทางธรรมบ้าง พี่กิจว่าเราทำอย่างนั้นได้ไหม ?
คำถามโดย : Bamp Bamp Bamp
คำถามที่มักได้รับเสมอๆ คือสนใจธรรมะมานานแล้วหรือยัง ? ปกติไปปฏิบัติธรรมที่วัดไหน ? มีครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือมากๆเป็นใคร ? ใช้วิธีไหนในการเข้าถึงธรรม ?
พอตอบไปว่าแทบไม่ได้ไปวัดเลย ไม่มีครูบาอาจารย์ท่านใดที่นับถือเป็นพิเศษ ไม่ได้นั่งสมาธิ ไม่เคยเดินจงกรม ไม่ได้เข้าคอร์สชำระล้างจิตใจ ไม่เคยสนใจไปสะกดจิตใต้สำนึก ไม่สนใจเรื่องปาฏิหาริย์ ไม่ห้อยพระเครื่องใดใด ฯลฯ
คำตอบเหล่านั้นดูจะทำให้คนถามผิดหวังอยู่ไม่น้อย
ธรรมะคืออะไร ?
ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
ขอเพียงเรารู้จักนั่งลงและหยุดสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัวอย่างตั้งใจ เราจะพบว่า ธรรมะ อยู่ในทุกหนทุกแห่ง อยู่ในสิ่งต่างๆรอบตัว อยู่ในกิจกรรมทุกสิ่งอย่าง ที่สำคัญที่สุด ธรรมะที่แท้จริง ไม่ต้องออกไปหาที่ไหนเลย เพราะมันอยู่ใน ตัวเรา ตลอดเวลา
ทุกวันนี้ผู้คนมากมายพยายามแยกธรรมะออกจากวิถีชีวิต มีความพยายามในการจัดหมวดหมู่ สร้างรูปแบบพิธีกรรม เน้นความเชื่อในการปฏิบัติ มีหลักการต่างๆมากมายเพื่อให้ยึดถือ
แต่ที่สุดแล้วกลับสร้างเงื่อนไขให้ยิ่งสับสน ทำให้ไม่มั่นใจในสิ่งที่มองเห็น ลังเล สงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นกับประสบการณ์การฝึกฝนตนเองทางธรรม
ในขณะที่ผู้คนกำลังปฏิบัติธรรม ในใจของเขากลับมีแต่ความสงสัย
ศาสนาใดดีที่สุด คำสอนใดถูกต้องที่สุด คนเราเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ตายแล้วไปไหน ทำบุญอย่างไรจึงจะได้บุญสูงสุด นิพพานมีจริงหรือไม่ ฯลฯ
ยิ่งสงสัย แล้วออกไปค้นหาศรัทธา ยิ่งกลับไม่พบเจอศรัทธานั้น
เวลาทะเลาะกับคนรัก หากหยุดและคิดให้ดี จะพบ ธรรมะ อยู่ในความโกรธ เมื่อเราหยุดและมองคนรักด้วย ความเข้าใจ การให้อภัยจะเกิด กระบวนการนี้ คือ ความรัก ความรัก คือ ธรรมะ
เวลาที่หั่นผักทำกับข้าว หากจิตใจจดจ่ออยู่กับมีดและผักตรงหน้า จนใจไม่วอกแวกถึงเรื่องใดนอกตัว จิตนั้นก็เป็น สมาธิ สมาธินั้นคือธรรมะ
เลี้ยงลูก ลูกดื้อ โกรธลูก ด่าทอลูก ตีลูก พอสุดท้ายได้สติ รู้ถึงต้นตอแห่งความโกรธ ระงับสติได้ เปลี่ยนแปลงวิธีการสอนลูกให้ดีขึ้นได้ ความคิดในชั่วขณะนั้นก็เป็น การตื่นรู้ กับความจริง นี่ก็เป็นธรรมะ
ขับรถในบนท้องถนน มีคนขับปาดหน้า ระงับความโกรธในใจได้ มองเห็นความจริงหลายด้านมุม เขาอาจมีธุระสำคัญมากเลยต้องรีบไป ในบ้านเขาอาจมีคนกำลังป่วยหนักต้องรีบไปดูใจ เราเองอาจขับรถผิดเลน ฯลฯ การมองสิ่งต่างๆให้พ้นไปจากมุมมองความคิดด้านเดียวในตัวเรา วิธีคิดแบบนี้ก็เป็น ธรรมะ
ไปเยี่ยมคนป่วยหนักที่โรงพยาบาล ได้เห็นชีวิตที่กำลังผุพัง เกิดความรู้สึกปลงอนิจจังว่าชีวิตคนเรามันก็เท่านี้เอง เวลาที่เหลือในชีวิตน่าจะใช้ไปเพื่อทำสิ่งที่ดีมีประโยชน์ มากกว่าทำสิ่งต่างๆที่ไร้ค่าไร้สาระ การมองเห็นความจริงแบบนี้ก็คือ ธรรมะ
ฯลฯ
ทุกๆเรื่องในชีวิต คือ ธรรมะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเห็น ความจริง ที่ซ่อนอยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่เท่านั้นเอง
และเมื่อมองเห็นความจริงนี้แล้ว เรามีท่าทีอย่างไรกับความจริงนี้ จะนำมันมาพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเอง ให้สอดคล้องกับธรรมชาติของความเป็นจริงได้อย่างไร
การได้เข้าวัดวาเป็นสิ่งดี การมีครูบาอาจารย์ที่ดีคอยสอน และชี้แนะแนวทางการฝึกเป็นสิ่งดี การไปอบรมจิตใจในคอร์สอบรมต่างๆเป็นสิ่งดี
แต่เมื่อกลับออกมาจากตรงนั้น อย่าลืมปฏิบัติธรรมกับตนเองให้ต่อเนื่อง
อย่ารู้แล้วลืม หรือสักแต่ว่ารู้
เพราะเมื่อธรรมะอยู่ในทุกหนแห่ง อยู่ในทุกขณะจิต
การรักษา สติ ให้มีความต่อเนื่อง นับเป็นความสำคัญ เหมือนการดูแลเบรกรถยนต์ เราไม่ได้ใช้เบรกเฉพาะเวลาคับขันหรือถนนลื่น แต่ในช่วงเวลาปกติ เวลาขับรถเราก็ต้องใช้เบรกตลอดเวลา
ธรรมะ จึงเหมือนกับการดูแลเบรกรถยนต์ สติ เป็นตัวเบรกความคิดที่เลื่อนเปื้อนและหลงผิด
ความคิด ของเราก็เช่นกัน ต้องหมั่นตรวจสอบดูแลมันตลอดเวลา ให้รู้จักหยุดคิด ให้รู้จักวางความคิดความกังวลลงบ้าง อย่าไปคิดตลอดเวลา อย่าไปหลงกับสิ่งที่คิดตลอดเวลา
ที่สุดแล้ว.... ธรรมะ คือ การอยู่กับธรรมชาติอย่างรู้เท่าทัน ความเป็นจริง
ถ้าอยู่กับความจริงที่มีได้ สุขบ้าง ทุกข์บ้าง และเรียนรู้ได้จากทุกสิ่ง
ณ ขณะนั้น
ตัวเราก็คือธรรมะ ธรรมะก็คือตัวเรา
Create Date : 10 ตุลาคม 2557 |
|
31 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2557 6:25:16 น. |
Counter : 1753 Pageviews. |
|
|
สวัสดีค่ะน้องก๋า
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆค่ะ
การเจ็บป่วยไม่มีใครอยากพบ
แต่หลบไม่ได้จริงๆนะคะ