คำคมว่าด้วยวาทะทางด้านการศึกษา ภาค 2
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางคำตำหนิติเตียน เขาจะกลายเป็นคนที่ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความรุนแรง เขาก็จะกลายเป็นคนที่ก้าวร้าว
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความเย้ยหยัน เขาก็จะกลายเป็นคนขี้อาย
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความรู้สึกที่ทำให้ต้องละอาย เขาก็จะกลายเป็นคนที่รู้สึกผิดอยู่เสมอ
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความยากลำบาก เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความอดทน
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางการให้กำลังใจ เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความชื่นชม เขาก็จะกลายเป็นคนที่เห็นคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความเสมอภาค เขาก็จะกลายเป็นคนที่รักความยุติธรรม
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางความมั่นคงปลอดภัยของชีวิต เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความศรัทธา ไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเองและผู้อื่น
ถ้าเด็กเจริญเติบโตขึ้นอย่างเป็นอิสระ เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง
ถ้าเด็กเจริญเติบโตท่ามกลางการยอมรับและความเป็นมิตร เขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความรักในหัวใจให้แก่ทุกๆคน
: เจย์ มาร์
หนังสือ : ความรักสุดขอบฟ้า เขียนและเรียบเรียง : เกียรติวรรณ อมาตยกุล
…………………………………………………
ครูให้การบ้านเด็กระดับประถมต้น ไปตอบมาว่า “เมื่อต้นไม้ได้รับน้ำ ต้นไม้จะ......?” เด็กที่ตอบว่า “เติบโต” จะได้รับเครื่องหมาย X ส่วนเด็กที่ตอบว่า “งอกงาม” จะได้รับเครื่องหมาย √
ผู้เรียนจึงมีหน้าที่เพียงจะรอรับ สิ่งที่ผู้สอนถ่ายทอดให้เท่านั้น ผู้เรียนจะถูกควบคุมว่า ควรเรียนอะไร ควรเรียนอย่างไร ควรคิดอย่างไร ควรประพฤติตัวอย่างไร ควรตอบอย่างไรจึงจะได้คะแนนดี โดยมีครูเป็นผู้กำหนด
ผู้เรียนที่เก่งในระบบการศึกษาเช่นนี้ จึงจะต้องเป็นคนที่ว่านอนสอนง่าย จำเก่ง ท่องเก่ง โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตนเอง (มั่นใจในตัวครู และหนังสือที่ครูให้อ่านก็พอ)--- --- และระบบการศึกษาบ้านเราส่วนใหญ่ที่มีครูเป็นศูนย์กลางนี่เอง ที่ทำให้เรามีเด็กเรียนเก่งมากมายที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์
หนังสือ : สวรรค์มีตา เขียนโดย : เกียรติวรรณ อมาตยกุล
…………………………………………………
คนที่รักเรา สอนให้เรารู้จักความนิ่มนวล คนที่เกลียดเรา สอนให้เรารู้จักระวังตัว ส่วนคนที่เฉยๆกับเรา สอนให้เรารู้จักพึ่งตนเอง
หนังสือ : สวรรค์มีตา เขียนโดย : เกียรติวรรณ อมาตยกุล
……………………………………………………….
พระเจ้า.... โปรดบันดาลให้ลูกมีจิตใจอันสงบเพียงพอที่จะยอมรับ สิ่งที่ลูกไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ให้ลูกมีความกล้าหาญเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และโปรดดลบันดาลให้ลูกมีสติปัญญาพอ ที่จะรู้ถึงความแตกต่างของมัน
: ไรน์โฮล นีบูร์ (นักเทววิทยา)
หนังสือ : อย่าคิดสั้น ! เขียนโดย : เมโลดี้ บัทตี้ แปลโดย : เอกอร
…………………………………………
การศึกษา – ได้สร้างประชาชนที่อ่านออกจำนวนมหาศาล แต่พวกเขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่า... อะไรที่ควรอ่าน
: จี เอ็ม เทรเวลยัน
หนังสือ : แด่โลกและชีวิต แปลโดย : วิทยากร เชียงกูล
…………………………………………….
ถามและคุณจะได้รับ แสวงหาและคุณจะพบ เคาะ...และประตูจะเปิดให้คุณ
: คัมภีร์ไบเบิ้ล , แมทท์ธิว 7: 7
หนังสือ : แด่โลกและชีวิต แปลโดย : วิทยากร เชียงกูล
………………………………………….
คนเก่งของไทยมักจะเห็นแก่ตัว คนเก่งของไทยมักจะโกง คนดีของไทยมักจะซื่อบื้อ ช่วยชาติไม่ได้ สังคมไทย การศึกษาไทย ต้องทำให้คนเก่งกับคนดีเป็นคนคนเดียวกัน
: ดร.สุกรี เจริญสุข (นักดนตรีและนักวิชาการด้านดนตรี)
นิตยสาร : Life & Family ปีที่ 6 ฉบับที่ 70
…………………………………………………..
อย่าแสดงตนว่าฉลาดหรือมีความรู้ดีกว่าสังคมที่ท่านคบเป็นอันขาด จงพกความรู้ที่ท่านมีไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าของท่าน เหมือนกับที่ท่านพกนาฬิกา อย่าควักนาฬิกานั้นออกมาเพียงจะอวดว่าท่านมี หากมีใครถามเวลาก็บอกให้เขาทราบได้ แต่อย่าไปประกาศก้องทุกชั่วโมง เหมือนกับท่านเป็นคนยาม
: Lord Chesterfield
หนังสือ : คำคมบ่มชีวิต แปลโดย : กรุณา กุศลาศัย
………………………………………………..
วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือ :
เพื่อให้ท่านรู้จักตัวท่านเอง เพื่อให้ท่านรู้จักโลก เพื่อให้ท่านรู้ว่าท่านจะไปกับโลกได้อย่างไร เพื่อให้ท่านรู้ว่าท่านจะให้อะไรแก่โลกได้บ้าง เพื่อให้ท่านรู้ว่าโลกจะให้ท่านได้มากเพียงใด
: Richard J.Needham
หนังสือ : คำคมบ่มชีวิต แปลโดย : กรุณา กุศลาศัย
……………………………………………………
จงศึกษาตั้งแต่ในเปลจนถึงหลุมศพ
: สุภาษิตอาหรับ
หนังสือ : สาระน่ารู้เกี่ยวกับชีวิตมุสลิม เขียนโดย : อามีนะห์ ดำรงผล
…………………………………………………….
การเรียนเป็นเรื่องต่อเนื่อง คนเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต
: ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ (นักวิชาการและนักบริหาร)
นิตยสาร : Life & Family ปีที่ 6 ฉบับที่ 71
…………………………………………………….
ปัญหาใหญ่ของบ้านเรา คือ เด็กนักเรียนไม่ถาม ไม่พูดก็ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน แต่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไปแล้วว่า คนไทยไปที่ไหนก็ไม่พูด จะว่าไปประชุมนานาชาติแล้วไม่พูดเพราะภาษาสู้เขาไม่ได้ แต่อยู่ในเมืองไทย ใช้ภาษาไทย นักเรียนไทยยังไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยถามอยู่ดี
: ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ (นักวิชาการและนักบริหาร)
นิตยสาร : Life & Family ปีที่ 6 ฉบับที่ 71
.........................................................
การเรียนรู้ที่ดี คือ เด็กจะต้องมีส่วนร่วม การปฎิรูปการศึกษาต้องนำมาสู่สิ่งนี้ นักเรียน – ครู ต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่ใช่ one – way แต่ต้องเป็น two – way communication แล้วก็มีเวลาที่จะให้นักเรียนไปค้นคว้า ให้สอนวิธีตกปลา ไม่ใช่เอาปลาไปให้นักเรียนกิน เขากินปลาหมดก็หิวอีกแล้ว แต่ถ้าสอนวิธีตกปลา เขาสามารถหาปลากินเองได้ตลอดชีวิต
อันนี้เป็นสิ่งเปรียบเทียบการสอนเนื้อหา กับกระบวนการซึ่งครูจำนวนมาก ติดเป็นผู้เชี่ยวชาญในการขย้อนความรู้ให้แก่เด็ก เขาเรียกว่า Content expert คือ รู้มาก...รู้เหมือนเอนไซโคพีเดีย รู้เหมือนพจนานุกรมเลย แล้วก็ถนัดขย้อนความรู้ มากกว่าจะสอนว่าหาความรู้อย่างไร นี่คือความแตกต่างระหว่างวิธี “เก่า” กับ “ใหม่”
: ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ (นักวิชาการและนักบริหาร)
นิตยสาร : Life & Family ปีที่ 6 ฉบับที่ 71
……………………………………………….
อย่าหวังมากกับ “การปฏิรูปการศึกษา” จะปฏิรูปกันทำไม ในเมื่อข้าราชการผู้ใหญ่และนักการเมือง เป็นเจ้าของสูตร... “สอนให้โง่,อำพรางความจริง,ห้ามคิดด้วยตนเอง” ?
สูตรนี้เป็นพระเวทสูงสุด , ศักดิ์สิทธิ์ ,แตะต้องไม่ได้ เพราะมันใช้สร้างประชาชนเชื่อง , ว่านอนสอนง่าย , ให้คนมือถือสากปากคาบคัมภีร์ปล้นสะดมได้สะดวก
: ไมเคิล ไรท (นักเขียนชาวอังกฤษที่เข้าใจภาษาไทยอย่างแตกฉาน)
นิตยสาร : มติชน สุดสัปดาห์ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1120
.................................................... 1. การศึกษาของไทยไม่มุ่งหมายเผยความจริงให้เด็กๆรู้จริงเห็นแจ้ง 2. การศึกษาของไทยตั้งบนข้อความเชื่อว่า “เด็กไทยโง่” จึงมุ่งมั่นอำพรางความจริงให้เด็กโง่ต่อไปตลอดชีวิต 3. การศึกษาของไทยเป็นขั้วหัวใจของระบอบราชการแบบอาณานิคม ที่มุ่งหมายสอนประชาชนให้เป็นคน “ว่านอนสอนง่าย (Docile)” จึงยินยอมตกเป็นเหยื่อของผู้นำที่อ่อนปัญญาและไร้ศีลธรรม 4. ในสายตา “คนถือสากปากคาบคัมภีร์” วิชาความรู้ทั้งหมดมาจากตะวันตก และคุณครูเป็นเจ้าของและผู้ประศาสน์ความรู้นั้นๆแก่เด็ก ท่านจึงหวงวิชา
: ไมเคิล ไรท (นักเขียนชาวอังกฤษที่เข้าใจภาษาไทยอย่างแตกฉาน)
นิตยสาร : มติชน สุดสัปดาห์ ปีที่ 22 ฉบับที่ 1120
...................................................
หากว่าเขาเป็นครู การงานที่เขาต้องทำ ก็คือ การมอบความรู้ให้แก่ผู้ที่จะหาประโยชน์จากมันได้อย่างแท้จริง มิใช่ผู้ที่พยายามใช้ความรู้เพื่อประดับเกียรติ เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้อื่น หรือเพื่อสร้างความสำคัญให้ตัวเอง
หนังสือ : เมธีทะเลทราย เขียนโดย : อิดริส ชาฮ์ แปลโดย : สุธาสินี พานิชชานนท์
………………………………………………..
อัจฉริยะ... มาจากแรงบันดาลใจเพียงหนึ่งเปอร์เซนต์ แต่จากหยาดเหงื่อถึง 99 เปอร์เซ็นต์
: ธอมัส อัลวา เอดิสัน (นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน)
หนังสือ : 1000 ถาม-ตอบ ความรู้รอบตัว รวบรวมและแปลโดย : กวิน ซื่อแท้
………………………………………………..
ในโลกนี้มีคำถามโง่ๆเพียงคำถามเดียว ก็คือ คำถามที่คุณไม่ได้ถาม
หนังสือ : เมืองไทยในสายตาผม (คืนชีพ) เขียนโดย : แอนดรูว์ บิ๊กส์
………………………………………….
เรียนมหาวิทยาลัยเป็นเรื่องดี แต่เรียนจบแล้ว ต้องทำงาน เอาวิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมารับใช้สังคม เรียนหนังสือสูงๆ แต่ปรับเปลี่ยนชีวิตของตนเองไม่ได้ แล้วจะเรียนให้โง่ทำไม ?
หนังสือ : พลิกโฉม ล้มเหลวสู่สำเร็จ เขียนโดย : เฝิงเหลี่ยงนู่ แปลโดย : สุภาณี ปิยพสุนทรา
..............................................
หนังสือที่ดีที่สุดก็ไม่มีค่า ถ้าไม่หาเวลาอ่านมัน
ข้อความจากที่คั่นหนังสือ จัดทำโดย : สำนักพิมพ์ พัฒนาศึกษา
………………………………………….
มันต่างกันนะ ระหว่างการรู้จักทางเดิน กับการเดินอยู่บนทางนั้น
ภาพยนตร์เรื่อง : The Matrix
หนังสือ : คำคมคารมหนัง แปลโดย : รติรัตน์
…………………………………………….
การศึกษาที่แท้จริง เป็นการลงทุนที่ดีที่สุด ที่คุณจะทำได้ในตัวคุณเอง
หนังสือ : คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก เขียนโดย : David J.Schwartz แปลโดย : นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
…………………………………………
สิ่งมีค่าที่สุด คือ แสงแห่งปัญญา
ภาพยนตร์ : อภินิหารตั๊กม้อ ( The Master Of Zen )
………………………………………….
ยังมีสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้อีกมาก ความเข้าใจในโลกและชีวิต ไม่ใช่การบรรลุนิติภาวะที่ได้มาอย่างปุบปับทันทีทันใด เพียงคืนเดียวที่ทำให้เด็กวานนี้ กลายเป็นผู้ใหญ่ เพราะอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์วันนี้ ชีวิตยังมีสิ่งที่จะต้องเรียนอีกมาก จนกว่าผมของเธอจะขาวโพลงทั้งหัวเมื่อไหร่นั่นแหละ เธอจึงพอจะพูดได้บ้างว่าเธอรู้จักโลกและชีวิต
หนังสือ : ปีศาจ เขียนโดย : เสนีย์ เสาวพงศ์
…………………………………………
“ประสบการณ์” เป็นครูที่ปราศจากความปราณี มันจะให้บททดสอบก่อน จากนั้นจึงให้บทเรียน
หนังสือ : บางสิ่งบางอย่าง ช่วยสร้างรอยยิ้ม ( Something To Smile About ) เขียนโดย : Zig Ziglar แปลโดย : สมใจ รักษาศรี
…………………………………………
ในห้องเรียนวิชาสังคมวิทยา ที่ศึกษาเด็กผู้ชาย 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเมืองบัลติมอร์ในแมรี่แลนด์ ผลการศึกษาได้ข้อสรุปตรงกันว่า เด็กผู้ชายทุกคน “ไม่มีโอกาสก้าวหน้า”
ยี่สิบห้าปีต่อมา... ศาสตราจารย์ทางสังคมวิทยาอีกคนหนึ่ง ได้ทำการสำรวจ เพื่อติดตามผลสิ่งที่ได้ศึกษาไป และเขาสามารถติดต่อคนกลุ่มเดิมได้ถึง 180 คนจาก 200 คน จากจำนวนนั้น 176 คน มีอาชีพเป็นหมอ นักกฎหมาย นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ฯลฯ
คำถามก็คือว่า... คนเหล่านี้ก้าวออกมาจากคำทำนายอนาคตของพวกเขาได้อย่างไร ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “เพราะครูคนนี้....”
ศาสตราจารย์ได้พบครูคนนั้น และได้ถามว่า เธอทำอะไร...จึงได้มีอิทธิพลต่อเด็กพวกนี้มากขนาดนี้ เธอเพียงแต่ยิ้มและพูดว่า... “ฉันเพียงแต่รักพวกเขา”
หนังสือ : บางสิ่งบางอย่าง ช่วยสร้างรอยยิ้ม ( Something To Smile About ) เขียนโดย : Zig Ziglar แปลโดย : สมใจ รักษาศรี
………………………………………………
ตอนนักข่าวคนหนึ่งถาม เย เต ซา นักศึกษา นักกิจกรรมชื่อดัง ที่เคยเป็นอดีตนักโทษการเมืองว่า “เขาอยู่คุกไหน?” เย เต ซา ตอบ “คุณหมายถึงคุกไหนล่ะ ในพม่ามีคุกอยู่สองแห่งเท่านั้น คุกที่มีกำแพง กับที่ไม่มีกำแพง”
หนังสือ : พม่าและข้าพเจ้า สิบปีที่ผ่านพ้น เขียนโดย : โม เอ (นักเขียน , นักโทษการเมืองชาวพม่า) แปลโดย : จิตราภรณ์ วนัสพงศ์ และ ธารา รินศานต์
……………………………………………….
เรียนรู้และสอนผู้อื่น , คุณว่างั้น คุณเรียนรู้วิธีทำให้ผู้คนเป็นสุขได้ละหรือ ไม่หรอก...คุณทำไม่ได้ รอให้ผมหงอกก่อนเถอะ แล้วค่อยคิดสอนคนอื่น คุณจะสอนอะไรเขาล่ะ คนเราทุกคนรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร คนฉลาดรับเอาสิ่งที่ชีวิตเสนอให้ คนโง่ไม่ได้อะไรเลย ทว่าแต่ละคนก็เรียนรู้สำหรับตัวเอง
เรื่อง : Makar Chudra เขียนโดย : แม็กซิม กอร์กี้ แปลโดย : ร.จันเสน
……………………………………………………
โลกนี้ คือ หนังสือเล่มสวยงาม แต่จะมีประโยชน์อะไร กับคนที่ไม่รู้จักอ่านมัน
: กอลโดนี
หนังสือ : บทเรียนชีวิต เขียนและแปลโดย : นายตำรา ณ เมืองใต้
…………………………………………………
เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่โดยการเปิดตนเองออกสู่โลก รับรู้มันอย่างที่มันเป็น เราก็อาจค้นพบว่า ความอ่อนโยน ความสุภาพ กล้าหาญ เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ มิใช่เพียงเฉพาะกับเรา แต่กับมนุษย์ทุกคน
หนังสือ : ชัมบาลา เขียนโดย : เชอเกียม ตรุงปะ แปลโดย : พจนา จันทรสันติ
Create Date : 30 เมษายน 2550 |
Last Update : 12 กันยายน 2554 11:50:59 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1200 Pageviews. |
|
|
|
|