- นิโค รอสเบิร์ก ทำเวลาเร็วที่สุดเฉือนลูอิส แฮมิลตัน ไปเพียง 0.014 วินาทีในการซ้อมครั้งที่ 3 ในขณะที่เร้ดบูลติดท็อป 3 อีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นแดเนียล ริกเคียร์โด้ ที่อยู่ข้างหน้าดาเนียล คัฟยาต คั่นกลางด้วยเซบาสเตียน เวทเทล ของเฟอร์รารี่
- เริ่มการซ้อมได้ไม่นาน คิมี่ ไรค์โคเน่น ต้องจอดรถริมแทร็คทั้งที่เพิ่งวิ่งไป 4 รอบหลังเกิดควันออกจากท้ายรถ ซึ่งต่อมาทีมงานเฟอร์รารี่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ็อกซ์ให้ เป็นผลให้เขาต้องโดนปรับกริดสตาร์ท 5 อันดับในวันอาทิตย์
- เจนสัน บัตตัน ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการาจ ทีมงานแม็คลาเรนต้องเร่งแก้ไขเครื่องยนต์หลังจากพบว่าเกิดแรงสั่นสะเทือนมากเมื่อรอบเครื่องต่ำลง อย่างไรก็ตาม แม็คลาเรนแจ้งตั้งแต่ก่อนถึงรอบควอลิฟายว่าบัตตันจะไม่ได้ลงในรอบควอลิฟายเป็นที่แน่นอน
- อเล็กซานเดอร์ รอสซี่ นักขับอเมริกันของแมเนอร์ ก็เป็นอีกคนที่ไม่มีโอกาสวิ่งในการซ้อมรอบสุดท้ายมากนัก เขามีปัญหากับเบรกหลังวิ่งไป 8 รอบและต้องเข้าพิต
- มีฝนตกในคืนวันศุกร์ ทำให้ผิวแทร็คมีความชื้นในช่วงต้น ซึ่งก่อปัญหาให้รถลื่นออกนอกแทร็คได้ง่ายเช่นเดิม และยังทำให้นักขับทำอุณหภูมิที่เหมาะสมให้ยางได้ยากอีกด้วย
ผลการควอลิฟาย หมายเหตุ 1. รถทุกคันผ่านการควอลิฟาย ซึ่งเจนสัน บัตตัน ของแม็คลาเรนไม่ได้ลงวิ่งในรอบควอลิฟาย แต่กรรมการอนุญาตให้ร่วมการแข่งขันได้
2. คิมี่ ไรค์โคเน่น ของเฟอร์รารี่ รับโทษปรับกริดสตาร์ทลง 5 อันดับจากการเปลี่ยนเกียร์บ็อกซ์ก่อนกำหนด
3. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ของแม็คลาเรน รับโทษปรับกริดสตาร์ทลง 15 อันดับจากการเปลี่ยนส่วนประกอบของหน่วยเครื่องยนต์ 1 ตัว และเปลี่ยนเกียร์บ็อกซ์ก่อนกำหนด
4. เจนสัน บัตตัน รับโทษปรับกริดสตาร์ทลง 55 อันดับจากการเปลี่ยนส่วนประกอบของเครื่องยนต์หลายตัว
5. อันดับกริดสตาร์ทใหม่
*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นบางส่วน
อุณหภูมิ: 21 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 36 องศา
ไฮไลท์- นิโค รอสเบิร์ก ทำเวลาดีที่สุดและคว้าตำแหน่งโพลไปครองเป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน เขาทำได้ตั้งแต่วิ่งรอบแรกของ Q3 เช่นเดียวกับนักขับคนอื่นๆ เนื่องจากอุณหภูมิผิวแทร็คมีการเปลี่ยนแปลงในท้ายช่วง Q3 อย่างฉับพลัน ทำให้ไม่มีใครทำเวลาดีกว่ารอบแรกเลยสักคน โดยลูอิส แฮมิลตัน ทำเวลาตามหลังเพื่อนร่วมทีม 0.188 วินาที สตาร์ทคู่กันเป็นครั้งที่ 13 ในฤดูกาลนี้
- เซบาสเตียน เวทเทล กลับมาได้หลังจากตามหลังคู่แข่งสำคัญมาตลอดในช่วงซ้อม เขาทำเวลาตามหลังรอสเบิร์ก 0.370 วินาที และอยู่ข้างหน้ารถเร้ดบูลทั้งสองคัน น่าเสียดายที่คิมี่ ไรค์โคเน่น มีปัญหาต่อเนื่อง ใน Q2 นักขับฟินน์มีปัญหาที่แป้นเบรก หลังหมุนที่โค้ง 1 ก็ตัดสินใจไม่วิ่งทำเวลาต่อ
- แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น ผ่านเข้า Q3 ได้หลังจากวิ่งรอบสุดท้ายใน Q2 และส่งผลให้คาร์ลอส ซายนซ์ เพื่อนร่วมทีมต้องหลุดไปอยู่ในอันดับที่ 11 พลาดเข้าช่วงสุดท้ายของการควอลิฟายไปเพียง 0.007 วินาที ด้านฟอร์ซอินเดียที่ผ่านเข้า Q3 ตามคาด แต่เพราะตัดสินใจออกมาวิ่งครั้งเดียวในช่วงสุดท้ายที่อุณหภูมิแทร็คเย็นลง ทำให้ไม่สามารถทำเวลาได้ดีกว่าอันดับที่ 9 และ 10
- นักขับแม็คลาเรนสตาร์ทจากท้ายกริดตามคาด เจนสัน บัตตัน ไม่ได้ลงวิ่งในรอบควอลิฟายเนื่องจากทีมงานยังแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ของเขาที่เกิดขึ้นในการซ้อมครั้งสุดท้ายไม่สำเร็จ ส่วนเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ทำเวลาไม่ผ่านตั้งแต่ Q1
สองนักขับเมอร์เซเดสออกตัวจากแถวหน้าคู่กันอีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่มีประเด็นกันมาจากสนามออสตินในการเบียดกันเข้าโค้ง 1 เหตุการณ์จะซ้ำรอยหรือไม่ หรือใครจะชิงความได้เปรียบไปจากเมอร์เซเดสได้ ลุ้นกันได้ในรายการเม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ คืนวันอาทิตย์ต่อเช้าวันจันทร์ เวลา 2.00 น. นะคะ
*ข้อมูลจาก autosport.com
ภาพจาก twitter.com/F1 และ fia.com