ยางที่สปา
สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ...
จขบ. กลับมาพร้อมประจำการในการแข่งขันในครึ่งฤดูกาลหลังแล้วค่ะ ช่วงที่พักไปเกือบสามสัปดาห์ก็ไม่ได้มีข่าวคราวอะไรมากมายนัก แต่เมื่ออีกไม่กี่วันการแข่งขันสนามต่อไปที่เบลเยียมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว วันนี้เราก็เลยนำข้อมูลยางปิเรลลี่สำหรับสนามสปามาให้อ่านกันเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมกันก่อนนะคะ
ยางที่ถูกเลือกใช้ในสนามนี้เป็นยางมีเดียม (สีขาว) และยางซอฟต์ (สีเหลือง) ซึ่งนับว่าเป็นยางชุดที่เนื้อนิ่มกว่ายางของปีที่แล้ว จุดประสงค์คือเพื่อให้เกิดกลยุทธ์ที่หลากหลายขึ้น โดยตลอดความยาวกว่า 7 กม. ของสนามสปา-ฟรองคอร์ชองส์ อันเลื่องชื่อแห่งนี้ประกอบไปด้วยทั้งทางตรงและโค้งความเร็วสูง พื้นผิวแทร็คที่ค่อนข้างขรุขระ และการเปลี่ยนระดับสูงต่ำของสนาม ทั้งหมดนี้ทำให้ยางต้องรับภาระหนัก นอกจากนั้นสภาพอากาศที่แสนจะแปรปรวนเพราะสถานที่ตั้งของสนามอยู่ท่ามกลางหุบเขา ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่เซฟตี้คาร์ต้องออกมา กลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก และนี่คือบททดสอบอย่างยิ่งยวดต่อทั้งรถ นักขับ และยาง
พอล เฮมเบรี่ ผู้อำนวยการด้านมอเตอร์สปอร์ตของปิเรลลี่กล่าวว่าจากประสบการณ์ของพวกเขา สิ่งสำคัญของยางสำหรับสนามนี้คือต้องมีการปรับตัวได้กับสภาพสนามและสภาพอากาศที่หลากหลายดังที่เราได้เห็นมาเสมอ แม้สนามนี้ยางจะต้องทนให้ได้มากที่สุด แต่ปีนี้พวกเขาเลือกยางมีเดียมและซอฟต์มาใช้ที่สปาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลับเข้าสู่ฟอร์มูล่าวันเมื่อปี 2011 ซึ่งแน่นอนว่ายางซอฟต์จะให้เวลาที่ดีกว่าในการลงในรอบควอลิฟาย ด้วยความยาวของสนามสปาทำให้การวางกลยุทธ์เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ในหนึ่งรอบนั้นมีเวลามากพอที่จะทำให้ได้หรือเสีย การเลือกใช้ประเภทยางให้ถูกประเภทถูกเวลาจึงเป็นสิ่งที่ต้องพึงระลึก
ฌอง อเลซี่ อดีตนักขับฟอร์มูล่าวันชาวฝรั่งเศส ที่ปรึกษาของปิเรลลี่กล่าวว่า นักขับมีความสุขมากในการลงแข่งที่สปา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นในสภาพพื้นผิวสนามแห้งหรือเปียก ในมุมมองของยาง สนามนี้ยางต้องรับภาระหนัก โดยเฉพาะผิวแทร็คขรุขระมาก จึงเป็นปกติที่ยางจะสึกเร็ว อย่างตัวเขาเองก็เล่าถึงเมื่อครั้งที่ต้องลงทำเวลาในรอบควอลิฟายในอดีต แม้เริ่มต้นมาดีแต่ตอนท้ายรอบต้องประสบกับปัญหายางเสมอ เมื่อมาถึงชิเคน "บัสสต๊อป" ในตอนท้ายยางก็แทบจะหมดอยู่รอมร่อ แต่ปัจจุบันยางได้เปลี่ยนไปแล้วเพราะมีความคงทนมากยิ่งขึ้น ส่วนการเซ็ตรถต้องทำให้เกิดดาวน์ฟอร์ซต่ำ ไม่เช่นนั้นรถจะไม่มีความเร็วบนทางตรงซึ่งเป็นจุดที่นักขับสามารถเก็บเวลาได้ อย่างไรก็ตาม แม้สนามจะขรุขระมาก แต่ความขรุขระนั้นกลับเป็นเรื่องดีเมื่อสนามเปียก ไม่ว่าฝนจะตกหนักอย่างไรรถก็ยังเกาะถนนได้ดี
ข้อมูลสำคัญของยางสำหรับการแข่งขันในสนามสปา
- อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นแล้วว่ายางจะต้องรับบทหนักในการแข่งขันที่นี่ ยกตัวอย่างเช่นในโค้งโอรูจ ขณะที่เครื่องยนต์ต้องให้กำลังกับความเร็วที่มากถึง 300 กม./ชม. ก็จะเกิดแรง G ตั้งแต่ 1-5 นับว่าไม่มีสนามไหนในปฏิทินการแข่งขันที่ทำให้ยางต้องทำงานหนักได้มากเท่านี้อีกแล้ว
- ยางมีเดียมเป็นยางที่มีขอบข่ายการทำงานไม่มาก แต่ตอบสนองได้ดีในสภาวะอุณหภูมิต่ำอันหลากหลาย ซึ่งเกิดขึ้นเสมอในสนามแห่งนี้ ในทางตรงกันข้าม ยางซอฟต์เป็นยางที่มีขอบข่ายการทำงานได้กว้าง เหมาะกับอุณหภูมิที่สูงกว่า ฝนมักมาเยือนสนามสปา แต่จากการแข่งขันปีที่แล้วรวมถึงรายการสปา 24 ชม. เมื่อเดือนที่แล้วปรากฏว่าสนามแห้งสนิท
- การที่ต้องเซ็ตรถให้มีดาวน์ฟอร์ซต่ำได้ส่งผลกระทบไปถึงการเบรก ด้วยความที่มีแรงกดต่อตัวรถน้อยลงในขณะที่รถชะลอความเร็วก็มีความเสี่ยงที่ล้อจะล็อก ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายของยางต่อไป
- ในการแข่งขันปี 2013 ปิเรลลี่เลือกเป็นยางฮาร์ดและมีเดียม ซึ่งผู้ชนะ เซบาสเตียน เวทเทล ของเร้ดบูล เข้าพิต 2 ครั้ง โดยยางสองชุดแรกเป็นยางมีเดียมและชุดสุดท้ายใช้ยางฮาร์ด เข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรกจากการสตาร์ทในกริดที่ 2 ในขณะที่โรแมง โกรส์ฌอง ของโลตัส เลือกเข้าพิตครั้งเดียวและจบการแข่งขันในอันดับที่ 8
*ข้อมูลจาก nextgen-auto.com
Create Date : 18 สิงหาคม 2557 |
Last Update : 18 สิงหาคม 2557 23:37:52 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1734 Pageviews. |
|
|
|
ทีมกระทิงน้อยได้นักแข่งใหม่แระ Max Verstappen เด็กน้อยอายุ 16 เองง่ะ ไม่รู้จักเลย 555 มาแทน Jean-Eric Vergne ตามคาด