- ดาเนียล คัฟยาต ได้ขึ้นโพเดียมฟอร์มูล่าวันเป็นครั้งที่ 2 ขณะที่เวทเทลได้โพเดียมเป็นครั้งที่ 81 ทำให้มีสถิติเทียบเท่ากับคิมี่ ไรค์โคเน่น แต่สตาร์ทกรังด์ปรีซ์น้อยกว่านักขับฟินน์อยู่ 73 สนาม และมีนักขับเพียง 4 คนที่มีจำนวนโพเดียมมากกว่าพวกเขาทั้งสอง ได้แก่ ลูอิส แฮมิลตัน (89 ครั้ง) เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (97 ครั้ง) อแลง พรอสต์ (106 ครั้ง) และมิชาเอล ชูมัคเกอร์ (155 ครั้ง)

- ไม่ใช่แค่รอสเบิร์กที่ได้อันดับเดียวกันตั้งแต่สนามแรกของปีนี้ แดเนียล ริกเคียร์โด้ ก็เช่นกัน เขาได้อันดับที่ 4 มาตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2016 ทำให้มีคะแนนสะสม 36 คะแนน นับเป็นฤดูกาลที่เขาเริ่มต้นได้ดีที่สุดนับตั้งแต่เข้าแข่งขันฟอร์มูล่าวัน

- ตามข้อมูลของเมอร์เซเดส แฮมิลตันแซงรถในสนามไปทั้งหมด 18 ครั้ง (และโดนแซง 2 ครั้ง) แต่เขาจบได้เพียงอันดับที่ 7 ถือเป็นการจบการแข่งขันในอันดับต่ำที่สุดของเขานับตั้งแต่ได้อันดับที่ 9 จากการแข่งขันบราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 2013 หรือเมื่อ 41 สนามที่แล้ว

- เซอร์จิโอ เปเรซ ผู้ซึ่งแข่งขันด้วยหมายเลข 11 จบการแข่งขันสนามเซี่ยงไฮ้ในอันดับที่ 11 มา 4 จาก 5 ครั้งหลังสุด

- แม้แฮมิลตันพลาดขึ้นโพเดียมครั้งแรกในรอบ 8 สนาม แต่อย่างน้อยรถทั้งสองคันของเมอร์เซเดสก็เข้าเส้นชัยแบบมีคะแนนเป็นสนามที่ 3 ติดต่อกันนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล โดยอีกทีมหนึ่งที่ทำได้เช่นกันคือวิลเลียมส์ ขณะที่โตโร รอสโซ มีรถ 2 คันในอันดับคะแนนสะสมเป็นสนามที่ 2 เช่นเดียวกับเร้ดบูล แต่รถ 2 คันของเฟอร์รารี่เพิ่งจะจบในอันดับที่มีคะแนนพร้อมกันเป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้

- ถึงแม้ว่านิโค ฮูลเคนเบิร์ก จะจบการแข่งขันอันดับที่ 15 แต่ในสนามนี้เขาเป็นผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด และเพิ่งเป็นครั้งที่ 2 ของเขาเท่านั้นในฟอร์มูล่าวัน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยทำได้ครั้งหนึ่งที่สิงคโปร์ปี 2012










*ข้อมูลจาก formula1.com
ภาพจาก motorsport.com