Japanese Grand Prix 2014 - Qualifying และการประกาศอำลาเร้ดบูลของเซบาสเตียน เวทเทล
ซ้อมรอบเช้าวันเสาร์ (Free Practice 3)
*สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิ: (ไม่มีข้อมูล) อุณหภูมิพื้นสนาม: (ไม่มีข้อมูล)
ไฮไลท์
- นิโค รอสเบิร์ก ทำเวลาเร็วที่สุดอีกครั้งในการซ้อมครั้งสุดท้าย โดยมีลูอิส แฮมิลตัน ทำเวลาตามมาเหมือนเคย แต่ก่อนจบช่วงเพียงไม่กี่นาทีในขณะที่เขาพยายามจะกดเวลาลงอีกนั้น นักขับอังกฤษเข้าโค้ง 1 เร็วมากเกินไป ทำให้เขาหลุดโค้งไปจนถึงกำแพงยาง โดยมุมหน้าซ้ายของรถได้รับความเสียหายพอสมควร
- เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ทำเวลามาในอันดับที่ 3 อีกครั้ง แต่เพื่อนร่วมทีมเฟอร์รารี่ คิมี่ ไรค์โคเน่น มีปัญหากับเครื่องยนต์ และเขาต้องอยู่ในการาจเสียเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้ทีมงานเปลี่ยนเครื่อง
- ยังมีจังหวะหลุดให้เห็นหลายครั้ง เอสเตบัน กูเตียร์เรซ ทำรถท้ายปัดและหมุนหลุดออกไปที่โค้ง 130R โชคดีที่เขาไปไม่ถึงกำแพง ในขณะที่อาเดรียน ซูทิล เพื่อนร่วมทีมเซาเบอร์ก็หมุนเช่นกันบริเวณชิเคน ส่วนนักขับโลตัสทั้งสองคนหลุดโค้ง 1 ตามรอยแฮมิลตันเพียงแต่ไม่เข้าหากำแพง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลจากลมส่งท้ายในโค้งนั้น
ผลการควอลิฟาย
หมายเหตุ 1. เวลา 107% ของเวลาที่ดีที่สุดใน Q1 คือ 1m40.163s โดยรถทุกคันผ่านการควอลิฟาย 2. พาสเตอร์ มัลโดนาโด ของโลตัส และฌอง-เอริก แวนญ์ ต้องรับโทษปรับกริด 10 อันดับ เนื่องจากเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นตัวที่ 6 ของฤดูกาล ซึ่งเกินโควต้าจำนวน 5 เครื่องที่นักขับแต่ละคนได้รับ 3. อันดับกริดสตาร์ทใหม่
*สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นส่วนมาก อุณหภูมิ: 24 องศา อุณหภูมิพื้นสนาม: 40 องศา
ไฮไลท์
Q1 หลังจากเริ่มช่วงด้วยยางฮาร์ด สุดท้ายแล้วทีมในกลุ่มกลางก็เปลี่ยนมาใช้ยางมีเดียมในนาทีท้ายๆ เพื่อชิงความได้เปรียบ ในขณะที่เร้ดบูลทั้งสองคันตัดสินใจไม่ทำเวลาด้วยยางมีเดียม พวกเขาจึงมีช่วงเสี่ยงที่จะหลุด Q1 ก่อนธงตราหมากรุกจะโบกลงในอีกไม่กี่อึดใจ แต่ก็รอดไปได้ในที่สุด
Q2 โตโร รอสโซ เกือบทำสำเร็จหลังจากที่ทำเวลาได้ดีในช่วงต้น แต่เจนสัน บัตตัน ทำได้ดีกว่าในนาทีสุดท้าย ผ่านเข้าสู่ Q3 ได้สำเร็จและยังกดให้เวลาของเซบาสเตียน เวทเทล เกือบหลุดออกจาก 10 คันสุดท้ายด้วย ขณะที่ฟอร์ซอินเดียก็พยายามเต็มที่ แต่ไม่ผ่านทั้งสองคัน โดยเซอร์จิโอ เปเรซ มีปัญหาในเรื่องกำลังของรถระหว่างช่วง
Q3 นิโค รอสเบิร์ก คว้าตำแหน่งโพลครั้งแรกในสนามซูซูกะได้สำเร็จ เขาทำเวลาเร็วที่สุดได้หลายครั้งทั้งในรอบ Q2 และในการวิ่งครั้งแรกในรอบสุดท้ายนี้ โดยลูอิส แฮมิลตัน มีโอกาสที่จะแย่งตำแหน่งโพลด้วย หากแต่การทำเวลาครั้งสุดท้ายของเขาเสียไปขณะล้อล็อกที่โค้งแฮร์พิน สำหรับวิลเลียมส์ผลงานยังยอดเยี่ยมทั้งสองคัน วาลท์เทรี่ บอตทาส และเฟลิเป้ มาสซ่า จะออกตัวคู่กันในแถวที่ 2
เฟอร์รารี่ เร้ดบูล และแม็คลาเรน มาครบคันแต่แยกข้างกันสตาร์ท เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ทำได้ในอันดับที่ 5 โดยที่เครื่องยนต์ของคิมี่ ไรค์โคเน่น ยังดูไม่สมบูรณ์และทำเวลาได้เพียงอันดับที่ 10 ด้านแดเนียล ริกเคียร์โด้ ทำเวลาหนีห่างเซบาสเตียน เวทเทล จะสตาร์ทห่างกัน 3 อันดับ และเควิน แม็กนุสเซ่น ทำเวลาได้ดีกว่าเจนสัน บัตตัน แต่ได้สตาร์ทคู่กันในแถวที่ 4
ข้อมูลเพิ่มเติม
- อันดับเวลาเร็วที่สุดในแต่ละช่วง (Best Sector Times) คลิกที่นี่
- อันดับการใช้ความเร็วมากที่สุดที่จุดตรวจจับ (Speed Trap) คลิกที่นี่
- พยากรณ์อากาศล่าสุด
ทุกคนยังจับตามองพายุไต้ฝุ่นที่คาดว่าจะเข้าสู่ญี่ปุ่นและมาถึงสนามซูซูกะในวันพรุ่งนี้ ถ้าเกิดมีทั้งฝนหนักและลมแรงขึ้นมาจริงๆ การควอลิฟายวันนี้จะสำคัญมากเพราะมีความเป็นไปได้ว่าช่วงเริ่มการแข่งขันจะมีเซฟตี้คาร์ออกมานำค่ะ ติดตามลุ้นการแข่งขันรายการเจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ได้ในวันพรุ่งนี้เวลา 13.00 น. ค่ะ
*********************************************************
เซบาสเตียน เวทเทล ประกาศอำลาเร้ดบูลหลังจบฤดูกาลนี้
อย่างที่หลายคนทราบแล้วนะคะ ก่อนเริ่มการซ้อมครั้งสุดท้ายมีข่าวใหญ่ในแพดด็อกเกิดขึ้น เมื่อเร้ดบูลประกาศว่าพวกเขาได้รับแจ้งจากเซบาสเตียน เวทเทล ว่าจะสิ้นสุดการเป็นนักขับเร้ดบูลหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งแม้ว่าสัญญาของเวทเทลจะหมดลงจริงๆ สิ้นปี 2015 แต่ในสัญญานั้นมีวรรคพิเศษที่ทำให้นักขับเยอรมันไปได้ก่อนเวลา
หลังจากที่ทีมบอส คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ได้รู้เจตนาของเวทเทลเมื่อคืนวันศุกร์ เร้ดบูลได้ออกแถลงการณ์ในเช้าวันเสาร์ผ่านทางเว็บไซต์ของทีม โดยมีข้อความขอบคุณการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของเขาตลอดระยะเวลาที่อยู่กับทีมมา 6 ปี พร้อมคว้าชัยชนะมา 38 ครั้ง ตำแหน่งโพล 44 ครั้ง และที่สำคัญที่สุดคือการคว้าแชมป์โลกประเภททีมผู้สร้างและประเภทนักขับอย่างละ 4 สมัย โดยเมื่อรวมกับระยะเวลา 1 ปีครึ่งก่อนหน้านั้นที่เขาอยู่กับโตโร รอสโซ เท่ากับคว้าชัยชนะในฟอร์มูล่าวันกับครอบครัวเร้ดบูลรวม 39 ครั้ง และตำแหน่งโพล 45 ครั้ง ทั้งนี้ เร้ดบูลได้ประกาศให้ดาเนียล คัฟยาต นักขับของโตโร รอสโซ ในปัจจุบันซึ่งเป็นผลผลิตอีกคนในโปรแกรมเยาวชนของเร้ดบูลขึ้นมาจับคู่กับแดเนียล ริกเคียร์โด้ ในปีหน้า
ด้านเซบาสเตียน เวทเทล ได้โพสต์ข้อความอำลาในเว็บไซต์ของทีมเช่นกัน เขากล่าวว่าหลังจากอยู่กับเร้ดบูลด้วยความสุขและความสำเร็จมา 15 ปี เขาได้ตัดสินใจลาจากทีมไปหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่ไม่ง่ายเลย เขามีโอกาสชนะฟอร์มูล่าวันครั้งแรกกับโตโร รอสโซ และเป็นแชมป์โลก 4 สมัยกับเร้ดบูล ซึ่งเป็นความทรงจำที่สวยงามที่เขาไม่มีวันลืมเลือน แต่วันนี้เขาต้องก้าวไปอีกขั้นในอาชีพ โดยเขาได้กล่าวขอบคุณดีทริช มาเทชิตซ์ เจ้าของทีม ดร.เฮลมุท มาร์โค ที่ปรึกษา คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอส และทุกคนในครอบครัวเร้ดบูลที่ไว้วางใจและสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่เสมอมา สำหรับอนาคตของเขาจะมีการประกาศให้ทราบในเร็วๆ นี้
นับจากนี้สายตาทุกคู่จะจับจ้องรอคำตอบจากฝั่งของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ แล้วล่ะค่ะ โดยหลังจบการควอลิฟาย อลอนโซ่ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกแปลกใจกับการตัดสินใจของเวทเทลและรู้ว่าทุกคนรอการประกาศจากทางเขาอยู่ ซึ่งความจริงเขามีคำตอบในใจมาสัก 2-3 เดือนแล้วแม้จะยังไม่ใช่การตัดสินใจ 100% ก็ตาม แต่ตอนนี้ยังไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว ขอทำงานกับเฟอร์รารี่ในสนามซูซูกะให้ดีที่สุดเสียก่อน
ขณะที่ รอน เดนนิส ประธานแม็คลาเรนกรุ๊ปเปิดเผยว่าพวกเขายังไม่ได้เซ็นสัญญากับนักขับคนใดทั้งสิ้น โดยมีโอกาสคุยกับนักขับทุกคนที่เป็นหัวกะทิในกริดปัจจุบัน เพื่อจะให้ได้นักขับที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา ส่วนปัญหากับอลอนโซ่ในอดีตทั้งความเห็นไม่ลงรอยกัน รวมทั้งเกี่ยวกับคดี "สปายเกท" หรือครั้งที่ข้อมูลสำคัญของเฟอร์รารี่รั่วไหลมายังแม็คลาเรนในปี 2007 นั้น เดนนิสกล่าวว่าในเวลานั้นสื่อตีข่าวเกินจริงและแท้จริงแล้วอลอนโซ่เป็นแค่ตัวประกอบตัวหนึ่งเท่านั้นเนื่องจากข้อมูลมีการส่งผ่านทางอีเมลของเขา เมื่อผ่านมาหลายปีทางทีมก็ไม่ได้ค้างคาใจอีกต่อไปและไม่มีปัญหาหากพวกเขาจะเซ็นสัญญากับอลอนโซ่อีกครั้ง
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 / gpupdate.net / infiniti-redbullracing.com ภาพจาก formula1.com และ nextgen-auto.com
Create Date : 04 ตุลาคม 2557 |
Last Update : 4 ตุลาคม 2557 19:55:28 น. |
|
15 comments
|
Counter : 3445 Pageviews. |
|
|