Abu Dhabi Grand Prix 2014 - Season Finale
เมอร์เซเดสจบปีด้วยความสมบูรณ์แบบแน่นอนเพราะพวกเขาจะมีทั้งถ้วยแชมป์โลกประเภททีมผู้สร้างและประเภทนักขับอยู่ในมือ แต่นักขับคนใดของทีมจะเป็นผู้สมหวัง ลุ้นกันในสนามสุดท้ายสัปดาห์นี้ค่ะ
รายละเอียดการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย) สนามที่ 19: 21-23 พ.ย. 57 ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 21 พ.ย. เวลา 16.00-17.30 น. ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 21 พ.ย. เวลา 20.00-21.30 น. ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 22 พ.ย. เวลา 17.00-18.00 น. รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 22 พ.ย. เวลา 20.00-21.00 น. แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 23 พ.ย. เวลา 20.00 น. *ติดตามชมได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์เอชดี ฟ็อกซ์สปอร์ตส์เอชดี 3 หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ข้อมูลสนาม ชื่อสนาม: ยาสมารีน่า (สนามถาวร) ทิศทางการวิ่ง: ทวนเข็มนาฬิกา จำนวนรอบแข่งขัน: 55 รอบ จำนวนโค้ง: 21 โค้ง ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 2009 ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 2009 ความยาวของสนาม: 5.554 กม. ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 305.355 กม. สถิติสนามต่อ 1 รอบ: 1:40.279 (เซบาสเตียน เวทเทล / เร้ดบูล - 2009)
ข้อมูลทางเทคนิค ความเร็วสูงสุด: 316 กม./ชม. อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: 60% ดาวน์ฟอร์ซ: สูง อัตราการใช้ยาง: ปานกลาง การเลือกยางของปิเรลลี่: ซอฟต์ (สีเหลือง) / ซูเปอร์ซอฟต์ (สีแดง) อัตราการใช้เบรก: ปานกลาง แรง G สูงสุด: 4 DRS Zone: 1) ระหว่างโค้ง 7 ถึงโค้ง 8 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 40 เมตรก่อนโค้ง 7 2) ระหว่างโค้ง 10 ถึงโค้ง 11 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 50 เมตรหลังโค้ง 9 จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ระหว่างช่วงฝึกซ้อม ในรอบควอลิฟาย และการแข่งขัน
พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน
ผู้ได้ตำแหน่งโพลในอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2013 - มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 1:39.957 2012 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:40.630 2011 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:38.481
ผู้ชนะอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 2012 - คิมี่ ไรค์โคเน่น (โลตัส) 2011 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน)
เวลาต่อรอบเร็วที่สุดในอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2013 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 1:43.434 รอบที่ 55 2012 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:43.964 รอบที่ 54 2011 - มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 1:42.612 รอบที่ 51
รู้จักอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ มากยิ่งขึ้น
- สุดสัปดาห์นี้จะเป็นอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่ 6 โดยก่อนหน้านี้ในปี 2009 และ 2010 สนามแห่งนี้ก็เคยเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลมาแล้ว
- วันอาทิตย์นี้จะเป็นการขับให้เร้ดบูลเป็นสนามสุดท้ายของเซบาสเตียน เวทเทล หลังจากเขาร่วมทีมมาตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งเขาเป็นผู้ชนะคนแรกของรายการนี้ในปีดังกล่าว และยังชนะอีก 2 ครั้งในปี 2010 และ 2013
- นอกจากเวทเทลแล้ว ผู้ชนะคนอื่นของรายการนี้ก็ยังมีดีกรีแชมป์โลกเช่นกัน ลูอิส แฮมิลตัน เคยชนะที่นี่ในปี 2011 และคิมี่ ไรค์โคเน่น ชนะในปี 2012
- เซบาสเตียน เวทเทล และลูอิส แฮมิลตัน ไม่เพียงแต่เคยชนะในสนามยาสมารีน่า แต่พวกเขาต่างเคยออกตัวจากตำแหน่งโพลมาแล้วคนละ 2 ครั้ง แฮมิลตันได้ตำแหน่งโพลในปี 2009 และ 2012 ในขณะที่เวทเทลได้มาในปี 2010 และ 2011 ส่วนอีกคนหนึ่งที่เคยสตาร์ทจากตำแหน่งโพลคือ มาร์ก เว็บเบอร์ ในปี 2013 โดยผู้ชนะที่มาจากตำแหน่งโพลเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก่อนหน้านี้ในปี 2010 จากผลงานของเวทเทล
- เฟลิเป้ มาสซ่า เป็นนักขับในกริดปัจจุบันเพียงคนเดียวที่ได้คะแนนจากการแข่งขันที่นี่ทุกครั้งที่ลงแข่ง แม้ว่าเขาพลาดการแข่งขันในปีแรกจากอุบัติเหตุที่สนามฮังกาโรริง แต่หลังจากนั้นเขาได้ลงแข่งขันและได้คะแนนมาตลอด
พรีวิวสนามแบบสามมิติโดยปิเรลลี่
คลิปจากยูทูบโดย NextgenAutoVideos
***********************************************
วัดกันด้วยตัวเลข
เพื่อเพิ่มอรรถรสในการลุ้นแชมป์ เรามาดูสถิติผลงานในปี 2014 ระหว่างลูอิส แฮมิลตัน กับนิโค รอสเบิร์ก แบบตัวต่อตัวกันค่ะ
จำนวนที่ได้ตำแหน่งโพล: Hamilton: 7 (Australia, Malaysia, China, Spain, Italy, Singapore, Russia) Rosberg: 10 (Bahrain, Monaco, Canada, Great Britain, Germany, Hungary, Belgium, Japan, United States, Brazil)
จำนวนครั้งที่ควอลิฟายได้เหนือเพื่อนร่วมทีม: Hamilton: 7 (Australia, Malaysia, China, Spain, Italy, Singapore, Russia) Rosberg: 11 (Bahrain, Monaco, Canada, Austria, Great Britain, Germany, Hungary, Belgium, Japan, United States, Brazil)
จำนวนครั้งที่ไม่ได้สตาร์ทแถวหน้า: Hamilton: 4 (Austria, Great Britain, Germany, Hungary) Rosberg: 4 (Australia, Malaysia, China, Austria)
ตำแหน่งที่ควอลิฟายได้โดยเฉลี่ย: Hamilton: 3.50 Rosberg: 1.72
จำนวนชัยชนะ: Hamilton: 10 (Malaysia, Bahrain, China, Spain, Britain, Italy, Singapore, Japan, Russia, United States) Rosberg: 5 (Australia, Monaco, Austria, Germany, Brazil)
จำนวนชัยชนะจากตำแหน่งโพล: Hamilton: 6 (Malaysia, China, Spain, Italy, Singapore, Russia) Rosberg: 3 (Monaco, Germany, Brazil)
จำนวนโพเดียม: Hamilton: 15 (10 x 1st, 3 x 2nd, 2 x 3rd) Rosberg: 15 (5 x 1st, 10 x 2nd)
จำนวนเวลาต่อรอบเร็วที่สุด: Hamilton: 7 (Malaysia, Britain, Germany, Italy, Singapore, Japan, Brazil) Rosberg: 4 (Australia, Bahrain, China, Hungary)
จำนวนครั้งที่ไม่จบการแข่งขัน: Hamilton: Three (Australia, Canada, Belgium) Rosberg: Two (Great Britain, Singapore)
จำนวนครั้งที่เข้าเส้นชัยก่อนหน้าเพื่อนร่วมทีมเมื่อจบการแข่งขันทั้งสองคัน: Hamilton: 9 (Malaysia, Bahrain, China, Spain, Hungary, Italy, Japan, Russia, United States) Rosberg: 4 (Monaco, Austria, Germany, Brazil)
จำนวนที่จบแต่ละช่วง (P1, P2, P3, Q1, Q2, Q3, Race) ด้วยอันดับที่ 1: Hamilton: 60 Rosberg: 47
จำนวนสนามที่ลงแข่งขันในฐานะผู้นำในคะแนนสะสม: Hamilton: 6 Rosberg: 12
จำนวนคะแนนสะสมที่นำห่างมากที่สุด: Hamilton: 24 points (after U.S. GP) Rosberg: 29 points (after Austrian and Belgian GPs)
***********************************************
คุณทราบหรือไม่?
ในรายการอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้เป็นเพียงครั้งที่ 6 ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันนับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ที่จะต้องตัดสินแชมป์โลกประเภทนักขับถึงสนามสุดท้ายของฤดูกาล
ตั้งแต่ก้าวสู่ศตวรรษปัจจุบัน มีการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาแล้ว 14 ฤดูกาล ซึ่งมีการแข่งขันเพื่อหาแชมป์โลกจนถึงสนามสุดท้ายมา 5 ฤดูกาล ได้แก่ ปี 2003 2007 2008 2010 และ 2012 โดยใน 5 ปีดังกล่าว ผู้ที่มีคะแนนสะสมนำมาถึงสนามสุดท้ายทำสำเร็จได้แชมป์ไปคิดเป็นร้อยละ 60 ยกเว้นปี 2007 และ 2010 ที่เป็นฤดูกาลในความทรงจำของใครหลายคนเพราะผู้ที่คว้าแชมป์โลกไม่ใช่ผู้นำในคะแนนสะสมก่อนถึงสนามสุดท้าย...
ไรค์โคเน่นไล่แซงคะแนนในสนามสุดท้ายปี 2007
ในฤดูกาล 2007 ลูอิส แฮมิลตัน มาถึงสนามสุดท้ายที่บราซิลโดยมีคะแนนสะสมนำเฟอร์นันโด อลอนโซ่ 4 คะแนน (ตามการให้คะแนนระบบเดิมซึ่งผู้ชนะได้ 10 คะแนน) ทั้งสองคนเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 7 และ 3 ตามลำดับ ในขณะที่คิมี่ ไรค์โคเน่น ผู้ที่มีคะแนนสะสมอยู่ในอันดับที่ 3 ก่อนหน้านี้และตามหลังผู้นำอยู่ 7 คะแนน กลับเป็นผู้เข้าเส้นชัยคนแรก เขาจึงมีคะแนนสะสมเพียงพอในการคว้าแชมป์โลกด้วยจำนวนมากกว่าแฮมิลตันและอลอนโซ่เพียง 1 คะแนน
4 คนอลเวงในสนามสุดท้ายปี 2010
ในปี 2010 ก่อนมาถึงสนามอาบูดาบีซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปี มีนักขับ 4 คนมีสิทธิ์คว้าแชมป์โลก โดยลูอิส แฮมิลตัน มีโอกาสน้อยที่สุดเพราะตามหลังผู้นำอยู่ 24 คะแนน ผู้ที่มีคะแนนนำคือเฟอร์นันโด อลอนโซ่ มีคะแนนมากกว่ามาร์ก เว็บเบอร์ 8 คะแนน และทั้งสองคนจบการแข่งขันในอันดับที่ 7 และ 8 ขณะที่เซบาสเตียน เวทเทล มาถึงสนามนี้โดยตามหลังผู้นำ 15 คะแนน แต่เขาเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกจึงพลิกกลับมาคว้าแชมป์โลกไปได้ในที่สุด
มาถึงสนามสุดท้ายของปี 2014 ที่อาบูดาบี ปีนี้เป็นครั้งแรกของการให้คะแนนเป็น 2 เท่าของคะแนนปกติในสนามสุดท้าย ซึ่งมีนักขับที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ 2 คนและเป็นนักขับเมอร์เซเดสทั้งคู่ ลูอิส แฮมิลตัน มีคะแนนนำนิโค รอสเบิร์ก อยู่ 17 คะแนน เพราะฉะนั้น กฎ "ดับเบิ้ลพอยท์" จะมีส่วนอย่างยิ่งในการตัดสินแชมป์โลกปีนี้ แฮมิลตันเคยทั้งได้แชมป์และสูญเสียแชมป์ในสนามสุดท้าย ขณะที่รอสเบิร์กตามหาความฝันที่จะได้เป็นแชมป์สมัยแรก แต่งานของนักขับอังกฤษอาจง่ายกว่า เพียงเขาจบใน 2 อันดับแรกก็จะได้เป็นแชมป์โดยไม่ต้องกังวลกับผลงานของเพื่อนร่วมทีม
สรุปสถานการณ์ของผู้มีโอกาสลุ้นแชมป์โลกเมื่อเข้าสู่สนามสุดท้ายของทุกฤดูกาลนับตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21
2013 - เซบาสเตียน เวทเทล นำ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ 145 คะแนน - เวทเทลได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2012 - เซบาสเตียน เวทเทล นำ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ 13 คะแนน - เวทเทลได้แชมป์
2011 - เซบาสเตียน เวทเทล นำ เจนสัน บัตตัน 119 คะแนน - เวทเทลได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2010 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ นำ มาร์ก เว็บเบอร์ 8 คะแนน / นำ เซบาสเตียน เวทเทล 15 คะแนน / นำ ลูอิส แฮมิลตัน 24 คะแนน - เวทเทลได้แชมป์
2009 - เจนสัน บัตตัน นำ เซบาสเตียน เวทเทล 15 คะแนน - บัตตันได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2008 - ลูอิส แฮมิลตัน นำ เฟลิเป้ มาสซ่า 7 คะแนน - แฮมิลตันได้แชมป์
2007 - ลูอิส แฮมิลตัน นำ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ 4 คะแนน / นำ คิมี่ ไรค์โคเน่น 7 คะแนน - ไรค์โคเน่นได้แชมป์
2006 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ นำ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ 10 คะแนน - อลอนโซ่ได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2005 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ นำ คิมี่ ไรค์โคเน่น 19 คะแนน - อลอนโซ่ได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2004 - มิชาเอล ชูมัคเกอร์ นำ รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ 38 คะแนน - ชูมัคเกอร์ได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2003 - มิชาเอล ชูมัคเกอร์ นำ คิมี่ ไรค์โคเน่น 9 คะแนน - ชูมัคเกอร์ได้แชมป์
2002 - มิชาเอล ชูมัคเกอร์ นำ รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ 63 คะแนน - ชูมัคเกอร์ได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2001 - มิชาเอล ชูมัคเกอร์ นำ เดวิด คูลธาร์ด 52 คะแนน - ชูมัคเกอร์ได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
2000 - มิชาเอล ชูมัคเกอร์ นำ มิก้า ฮัคคิเน่น 12 คะแนน - ชูมัคเกอร์ได้แชมป์ก่อนหน้านั้นแล้ว
***********************************************
อัพเดทนักขับในปี 2015
ข่าวที่ทุกคนรอคอยได้ประกาศออกมาเป็นทางการแล้วในเช้าวันนี้ที่อาบูดาบี เริ่มจากการประกาศแยกทางกันด้วยดีของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ กับเฟอร์รารี่ หลังร่วมงานกันมา 5 ปี นับจากฤดูกาล 2010 ซึ่งอลอนโซ่คว้าชัยชนะภายใต้ชุดสีแดง 11 ครั้ง ขึ้นโพเดียม 44 ครั้ง และได้คะแนนรวม 1,186 คะแนน
อลอนโซ่กล่าวในโอกาสอำลาทีมจากอิตาลีว่า "ผมอำลาเฟอร์รารี่หลังจากผ่านไป 5 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ผมเป็นมืออาชีพในระดับสูงสุด ได้ประสบกับความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ผมได้ค้นพบความเป็นที่สุดใหม่ๆ ผมยังได้พิสูจน์ความเป็นทีมอย่างแท้จริงด้วยการมองถึงประโยชน์ของทีมก่อนตนเอง
"เมื่อผมต้องตัดสินใจครั้งสำคัญเกี่ยวกับอนาคต ผมได้ทำโดยมีเฟอร์รารี่อยู่ในหัวใจ ด้วยความรักที่มีต่อทีม ผมภูมิใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เราผ่านมาด้วยกัน
"ขอขอบคุณความพยายามของหนุ่มสาวทุกคนในมาราเนลโล่จาก 3 โอกาสสำคัญ หนึ่งคือการที่เราได้เป็นรองแชมป์โลก อีก 2 ครั้งคือการช่วยกันสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์จนถึงสนามสุดท้าย นับว่าเราลงวิ่งในฐานะแชมป์อยู่หลายรอบเลยทีเดียว
"แน่นอนว่าจาก 5 ปีที่ผ่านมา หลายครั้งที่เราได้มีเวลาที่ดีที่สุดร่วมกันในช่วงอาชีพของผมและผมรับรู้ได้ สำหรับการจากลาทีม ผมรู้สึกเหมือนต้องทิ้งครอบครัวมากกว่าจะเป็นเพื่อนไว้เพียงเบื้องหลัง"
ทั้งนี้ มาร์โก้ มัตติอัชชี่ ทีมบอสเฟอร์รารี่ได้กล่าวขอบคุณความทุ่มเทของอลอนโซ่ที่มีให้ทีมตลอดระยะเวลาดังกล่าว และเขาจะยังเป็นคนพิเศษสำหรับที่แห่งนี้เสมอ ซึ่งเขาแน่ใจว่านักขับสเปนจะอยู่ในหัวใจของแฟนม้าลำพองตลอดไป
ต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน เฟอร์รารี่ก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่าเซบาสเตียน เวทเทล จะเป็นนักขับคนใหม่ของทีมนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไปด้วยสัญญา 3 ปี
เวทเทลกล่าวในโอกาสที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในมาราเนลโล่ว่า "ก้าวต่อไปในอาชีพนักขับของผมจะอยู่กับเฟอร์รารี่ ซึ่งสำหรับผมหมายถึงว่าความใฝ่ฝันที่มีมาตลอดชีวิตได้เป็นจริงเสียที
"ตอนที่ผมเป็นเด็ก ไอดอลในดวงใจของผมคือมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ในรถสีแดง และตอนนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ในที่สุดจะได้มีโอกาสขับเฟอร์รารี่ ผมเคยได้ลิ้มรสความหมายของเฟอร์รารี่มาบ้างแล้วในชัยชนะของผมครั้งแรกที่มอนซ่าเมื่อปี 2008 กับเครื่องม้าลำพองที่ประกอบจากมาราเนลโล่
"เฟอร์รารี่มีประเพณีที่เยี่ยมยอดในฟอร์มูล่าวันและผมมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะนำพาทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่ ผมจะใช้ทั้งหัวใจและวิญญาณในการทำให้ประสบความสำเร็จ"
โดยทีมบอสเฟอร์รารี่ได้กล่าวต้อนรับนักขับเยอรมันซึ่งจะมาจับคู่กับเพื่อนสนิทอย่างคิมี่ ไรค์โคเน่น ในปีหน้า พร้อมให้เหตุผลที่เลือกเวทเทลจากส่วนผสมของการเป็นนักขับที่ยังอายุน้อยแต่มีประสบการณ์ และยังมีความกระหายในชัยชนะร่วมกันเพื่อจะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับทีม
นอกจากนั้น เมื่อวานนี้โลตัสได้ประกาศยืนยันว่าโรแมง โกรส์ฌอง จะยังคงเป็นนักขับของทีมในปี 2015 คู่กับพาสเตอร์ มัลโดนาโด ต่อไป ทำให้ตอนนี้ที่ว่างเหลือไม่มากแล้ว โดยสถานการณ์ของเฟอร์นันโด อลอนโซ่ นับถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม ในขณะที่แม็คลาเรนระบุว่าพวกเขาจะยังไม่ประกาศรายชื่อนักขับก่อนวันที่ 1 ธันวาคม
สรุปสถานะล่าสุดของนักขับปี 2015
เมอร์เซเดส: ลูอิส แฮมิลตัน - นิโค รอสเบิร์ก เร้ดบูล: แดเนียล ริกเคียร์โด้ - ดาเนียล คัฟยาต วิลเลียมส์: วาลท์เทรี่ บอตทาส - เฟลิเป้ มาสซ่า เฟอร์รารี่: คิมี่ ไรค์โคเน่น - เซบาสเตียน เวทเทล แม็คลาเรน: ยังไม่ระบุทั้ง 2 คน ฟอร์ซอินเดีย: นิโค ฮูลเคนเบิร์ก - เซอร์จิโอ เปเรซ (ตามคาดการณ์) โตโร รอสโซ: แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น - ยังไม่ระบุ โลตัส: พาสเตอร์ มัลโดนาโด - โรแมง โกรส์ฌอง เซาเบอร์: มาร์คุส เอริกสัน - เฟลิเป้ นาสเซอร์ แมเนอร์ (อดีตมารุสเซีย): สถานะของทีมยังไม่แน่นอน แคเทอร์แฮม: สถานะของทีมยังไม่แน่นอน
*ข้อมูลจาก formula1.com / fia.com / en.wikipedia.org / motorsport.com / skysports.com / gpupdate.net ภาพจาก formula1.com
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 23:51:15 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1813 Pageviews. |
|
|
ปล.ปีนี้น่าจะเซ็งติดอันดับ