Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 
6 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
German Grand Prix 2013 - Qualifying

ซ้อมรอบเช้าวันเสาร์ (Free Practice 3)

1. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m29.517s (19 laps)
2. Nico Rosberg (Mercedes) 1m30.193s / +0.676s (19)
3. Mark Webber (Red Bull-Renault) 1m30.211s / +0.694s (18)
4. Fernando Alonso (Ferrari) 1m30.621s / +1.104s (16)
5. Felipe Massa (Ferrari) 1m30.639s / +1.122s (17)
6. Kimi Raikkonen (Lotus-Renault) 1m30.671s / +1.154s (19)
7. Lewis Hamilton (Mercedes) 1m30.744s / +1.227s (20)
8. Romain Grosjean (Lotus-Renault) 1m30.781s / +1.264s (18)
9. Nico Hulkenberg (Sauber-Ferrari) 1m30.966s / +1.449s (20)
10. Adrian Sutil (Force India-Mercedes) 1m31.009s / +1.492s (18)
11. Jenson Button (McLaren-Mercedes) 1m31.326s / +1.809s (22)
12. Esteban Gutierrez (Sauber-Ferrari) 1m31.405s / +1.888s (20)
13. Paul di Resta (Force India-Mercedes) 1m31.733s / +2.216s (21)
14. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Ferrari) 1m31.855s / +2.338s (18)
15. Sergio Perez (McLaren-Mercedes) 1m31.855s / +2.338s (23)
16. Daniel Ricciardo (Toro Rosso-Ferrari) 1m31.898s / +2.381s (19)
17. Pastor Maldonado (Williams-Renault) 1m31.969s / +2.452s (20)
18. Valtteri Bottas (Williams-Renault) 1m32.036s / +2.519s (23)
19. Charles Pic (Caterham-Renault) 1m33.230s / +3.713s (19)
20. Jules Bianchi (Marussia-Cosworth) 1m33.470s / +3.953s (22)
21. Giedo van der Garde (Caterham-Renault) 1m33.964s / +4.447s (21)
22. Max Chilton (Marussia-Cosworth) 1m34.683s / +5.166s (20)

*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นส่วนมาก
อุณหภูมิ: 21 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 29 องศา

ไฮไลท์

- เซบาสเตียน เวทเทล ทำเวลาเร็วที่สุดอีกครั้ง โดยเขาทำเวลาเร็วที่สุดได้ทั้งช่วงที่ใช้ยางมีเดียมและยางซอฟต์ ตามมาด้วยนิโค รอสเบิร์ก และมาร์ก เว็บเบอร์ เหมือนการซ้อมช่วงบ่ายวานนี้ ในขณะที่ลูอิส แฮมิลตัน ยังไม่พอใจกับการเซ็ตอัพของรถ

- พาสเตอร์ มัลโดนาโด ประสบปัญหากับ KERS อยู่ในโรงเก็บรถตั้งแต่ช่วงเช้า แต่โชคดีที่ทีมงานวิลเลียมส์แก้ไขได้ทันท่วงทีและสามารถร่วมการซ้อมได้ตั้งแต่ต้น


ผลการควอลิฟาย

1. Lewis Hamilton (Mercedes) 1m29.398s (14 laps)
2. Sebastian Vettel (Red Bull-Renault) 1m29.501s / +0.103s (14)
3. Mark Webber (Red Bull-Renault) 1m29.608s / +0.210s (14)
4. Kimi Raikkonen (Lotus-Renault) 1m29.892s / +0.494s (15)
5. Romain Grosjean (Lotus-Renault) 1m29.959s / +0.561s (16)
6. Daniel Ricciardo (Toro Rosso-Ferrari) 1m30.528s / +1.130s (16)
7. Felipe Massa (Ferrari) 1m31.126s / +1.728s (17)
8. Fernando Alonso (Ferrari) 1m31.209s / +1.811s (15)
9. Jenson Button (McLaren-Mercedes) --No time set-- (16)
10. Nico Hulkenberg (Sauber-Ferrari) --No time set-- (13)
Q2 cut-off time: 1m30.269s (ด้านท้ายคือเวลาที่ต่างจากเวลาดีที่สุดใน Q2)
11. Nico Rosberg (Mercedes) 1m30.326s / +0.501s (10)
12. Paul di Resta (Force India-Mercedes) 1m30.697s / +0.872s (18)
13. Sergio Perez (McLaren-Mercedes) 1m30.933s / +1.108s (16)
14. Esteban Gutierrez (Sauber-Ferrari) 1m31.010s / +1.185s (17)
15. Adrian Sutil (Force India-Mercedes) 1m31.010s / +1.185s (15)
16. Jean-Eric Vergne (Toro Rosso-Ferrari) 1m31.104s / +1.279s (12)
Q1 cut-off time: 1m31.681s (ด้านท้ายคือเวลาที่ต่างจากเวลาดีที่สุดใน Q1)
17. Valtteri Bottas (Williams-Renault) 1m31.693s / +1.146s (8)
18. Pastor Maldonado (Williams-Renault) 1m31.707s / +1.160s (6)
19. Charles Pic (Caterham-Renault) 1m32.937s / +2.390s (8)
20. Jules Bianchi (Marussia-Cosworth) 1m33.063s / +2.516s (9)
21. Giedo van der Garde (Caterham-Renault) 1m33.734s / +3.187s (8)
22. Max Chilton (Marussia-Cosworth) 1m34.098s / +3.551s (9)

หมายเหตุ เวลา 107% ของเวลาที่ดีที่สุดใน Q1 คือ 1m36.885s ซึ่งรถทุกคันผ่านการควอลิฟาย

*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: มีแดดเป็นส่วนมาก
อุณหภูมิ: 24 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 43 องศา

ไฮไลท์

Q1
ทั้ง 6 คันที่ถูกตัดออกไปล้วนแล้วแต่เป็นคู่ทีมเมทจากวิลเลียมส์ แคเทอร์แฮม และมารุสเซีย โดยก่อนหน้าที่จะหมดเวลา มีจังหวะหวาดเสียวสำหรับแฟนแม็คลาเรนเมื่อเซอร์จิโอ เปเรซ กำลังจะหลุดออกไปตั้งแต่ช่วงนี้ แต่ยังโชคดีเมื่อเวลาหมดลงแล้วเขายังผ่านเข้าสู่ช่วงต่อไปได้

Q2
นิโค รอสเบิร์ก หนึ่งในตัวเก็งที่จะได้ตำแหน่งโพลกลับหลุดออกไปในช่วงนี้เหตุเพราะเข้าใจว่าเวลาที่ทำไว้ดีพอแล้ว ต่อเมื่อสภาพสนามเปลี่ยนแปลง มีนักขับหลายคนทำเวลาดีขึ้นในนาทีสุดท้าย เขาจึงตกไปอยู่อันดับที่ 11 แบบช็อกกันไปถ้วนหน้า ด้านสองนักขับของฟอร์ซอินเดียที่เคยทำได้ดีมาในระยะหลัง แต่วันนี้พวกเขากลับไม่สามารถผ่านเข้า Q3 ได้เลย ส่วนเซอร์จิโอ เปเรซ แม้จะผ่านเข้ามาจากช่วงแรกได้ แต่สุดท้ายทำได้เพียงอันดับที่ 13 ซึ่งจะได้ออกตัวจากแถว 7 คู่กับเอสเตบัน กูเตียร์เรซ เพื่อนร่วมชาติ

Q3
คู่ชิงตำแหน่งโพลกลายเป็นลูอิส แฮมิลตัน กับเซบาสเตียน เวทเทล โดยฝ่ายแรกทำเวลาได้ดีกว่าจากการวิ่งทำเวลารอบแรก ต่อมาเวทเทลล้มเวลาของเขาลงได้ ยืนระยะเป็นเจ้าของโพลชั่วคราว ก่อนที่แฮมิลตันจะทำเวลาเร็วกว่าเขาอีกครั้ง คว้าตำแหน่งโพลให้กับทีมเจ้าถิ่นได้สำเร็จ สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ของช่วงนี้คือการที่เฟอร์รารี่ทั้งสองคันเลือกใช้ยางมีเดียมลงวิ่ง ส่วนเจนสัน บัตตัน และนิโค ฮูลเคนเบิร์ก เลือกไม่ทำเวลา ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่ากลยุทธ์เหล่านั้นจะออกผลหรือไม่

ข้อมูลเพิ่มเติม

- ผลรวมของการควอลิฟายทุกช่วง
//www.formula1.com/results/season/2013/902/7232/

- อันดับเวลาเร็วที่สุดในแต่ละช่วง (Sector)
//www.formula1.com/results/season/2013/902/7232/best_sector_times.html

- อันดับการใช้ความเร็วมากที่สุดที่จุดตรวจจับ (Speed Trap)
//www.formula1.com/results/season/2013/902/7232/speed_trap.html


ดูจากการควอลิฟายวันนี้รับรองว่าการแข่งขันต้องสนุกแน่นอน แฟนๆ ติดตามชมการแข่งขันรายการเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ สนามนัวร์บวร์กริงได้ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.00 น. ค่ะ











*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 / gpupdate.net / formula1.com


Create Date : 06 กรกฎาคม 2556
Last Update : 7 กรกฎาคม 2556 0:33:56 น. 13 comments
Counter : 1807 Pageviews.

 
สำหรับ rosberg แล้วมันค่อนข้างเหนือความคาดหมายครับ ตอนที่หมด 15 นาทีไปแล้วเขาอยู่ประมาณที่ 6-7 นะครับ

ส่วน ferrari เขาคาดว่ายาง soft จะไปได้แค่ 6-7 รอบ ขณะที่ medium จะไปได้ 20 รอบ เขาเลยเสี่ยงที่จะออกด้วย medium ในขณะที่ alonso ไม่ค่อยจะเห็นด้วย... หรือว่าเขาจะประชด alonso qualify กี่สนามก็ที่ 5-6 ตลอด :)


โดย: nin IP: 115.87.106.17 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:3:16:39 น.  

 
^
^
นั่นนะสิครับผมคาใจมานานแล้วว่าทำไมเฟอ ไม่เคยจะควอลิฟายได้ที่1-2สักทีจะว่ารถสู้ทีมอื่นไม่ได้ก้ไม่น่าจะใช่ หรืออาจจะเป็นแท็คติก รอผู้รุ้ในบ้านนี้มาวิเคราะห์ให้ฟังๆ :"))


โดย: fame IP: 58.11.119.249 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:6:36:32 น.  

 
ตามคุณ fame ครับ ผมก็ข้องใจเหมือนกัน ตอนควอลิฟายนี้ ยังกะม้าไม่ได้กินหญ้ายังงั้น พอตอนแข่งเหมือนม้าโดนฉีดยาเลย


โดย: Tae IP: 171.101.156.7 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:9:09:59 น.  

 
ผมเคยได้ยินมาพักนึงแล้วว่า DRS ของ ferrari ประสิทธิภาพสู้ทีมอื่นไม่ได้ ( ไม่เกี่ยวกับที่เปิดแล้วปิดไม่ลงนะครับ :) ) ตอน qualify ซึ่งเปิด DRS ได้ตลอดความเร็วเลยสู้ไม่ได้ครับ

ผิด/ถูกยังไงรบกวนผู้รู้ด้วยนะครับ


โดย: nin IP: 115.87.106.17 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:35:56 น.  

 
DRS มันก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนนี่ครับแค่เปิดปิดปีกหลังด้านบนคงไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้เวลา QF สู้ทีมอื่นไม่ได้หรอกครับน่าจะเป็นสาเหตุอย่างอื่นมากกว่า


โดย: Puakpiak IP: 14.207.62.222 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:05:30 น.  

 
สิ่งที่แตกต่างระหว่างรอบควอลิฟายกับวันแข่งจริงคือปริมาณน้ำมันครับ หรือก็คือน้ำหนักรถที่ต่างกัน รถ Ferrari เวลาน้ำหนักเบาจะทำความร้อนให้ยางได้ไม่เหมาะสมเลยทำ Flying Lap สู้ทีมอื่นไม่ค่อยได้ แต่ความร้อนที่่ Ferrari ทำให้ยางได้เหมาะกับสภาพการแข่งยาว ๆ มากกว่าครับ

ส่วน Mercedes กับ Red Bull สามารถทำความร้อนให้ยางในรอบควอลิฟายได้ดีกว่า เหมือนแสงสว่างวาบ เรียกประสิทธิภาพออกมาในช่วงสั้น ๆ จากนั้นยางก็หมดสภาพ ยิ่งบวกกับสภาพรถน้ำหนักมากจะทำให้อัตราการกินยางเพิ่มขึ้น การเซตรถที่ไม่ดีพออาจทำลายยางในระหว่างการแข่งขันเร็วกว่าปกติครับ

อย่างกรณีของ Mercedes เมื่อทำการควอลิฟายรถจะมีน้ำหนักเบา แต่วันแข่งเมื่อใส่น้ำมันเข้าไปในตัวรถซึ่งถังน้ำมันจะอยู่บริเวณส่วนครึ่งหลังรถ ทำให้น้ำหนักที่ไปตกลงล้อหลังมากกว่าวันควอลิฟาย ยางหลังจึงร้อนมากเกินไปจนทำลายยางในระหว่างการแข่งหมดครับ รถ Mercedes ก่อนหน้านี้เลยควอลิฟายได้ดี แต่พอแข่งทีหายไปท้ายแถวตลอด

ส่วน DRS ปีนี้ไม่สามารถเปิดได้ตลอดทั้งสนามครับ สามารถเปิดใช้ได้แค่ตำแหน่งที่กำหนดไว้ในวันแข่ง เพราะฉะนั้นรถ Red Bull ที่ทำความเร็วปลายได้น้อยสุดจึงได้เปรียบกว่าปีที่แล้ว เพราะไม่มีพื้นที่ให้ใช้ DRS มากนักครับ ส่วน Ferrari ปีนี้เป็นรถที่ทำ Top Speed ได้สูงสุดแทบจะทุกสนามครับ


โดย: Fascinator IP: 124.120.182.230 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:39:57 น.  

 
รอหน้าจอกันรึยังค้า...

อันดับกริดเปลี่ยนนิดหน่อยนะคะ ชาร์ลส์ พิค เปลี่ยนเกียร์บ็อกซ์ ต้องสตาร์ทอันดับสุดท้าย

กริดใหม่ค่ะ
//www.gpupdate.net/en/f1-results/7456/starting-grid-2013-german-formula-1-grand-prix/



โดย: finishline วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:41:04 น.  

 
@Fascinator ขอบคุณมากครับบสำหรับข้อมูลที่มาไขข้อข้องใจ กระจ่างกันเลยทีเดียวว ^^
ผมคิดเล่นๆว่าถ้าออกที่1แล้วผ่านไป2-3รอบ แล้วยังทิ้งคันที่ตามหลังไม่ได้เกิน2-3วินาทีคงลำบากไม่น้อย ยิ่งถ้าคันตามหลังได้ DRS ด้วยยิ่งกดดันเลย


โดย: fame IP: 58.8.203.215 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:52:26 น.  

 
6-7รอบ เข้าพิทปันเป็นแถวววววว~~~


โดย: fame IP: 58.8.203.215 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:19:15:54 น.  

 
สิบรอบสุดท้ายลุ้นกันเหงื่อตกเลย
ยินดีกับเจ้าเซิบครับ
และยินดีกับแม่ยกด้วยนะครับ อิ อิ


โดย: rainrain7 IP: 125.27.63.203 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:20:46:59 น.  

 
ดีใจกับแชมป์แรกที่ Germany GP คับ


โดย: W IP: 171.99.132.194 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:22:39 น.  

 
เสียดายแทน น้าเวป หมดลุ้นเพราะพิทแท้ๆ


โดย: Dentist IP: 171.6.33.94 วันที่: 7 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:33:19 น.  

 
ขอบคุณคุณ Fascinator มากครับ มิน่า mercedes qualify ดีมาก แต่แข่งจริงไปไม่เป็นเลย


โดย: nin IP: 125.25.185.8 วันที่: 8 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:49:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.