Italian Grand Prix 2014
มาถึงสนามที่รถฟอร์มูล่าวันจะวิ่งได้เร็วที่สุดเป็นการปิดท้ายการแข่งขันในแผ่นดินยุโรปเช่นเคย ท่ามกลางความตึงเครียดของการลุ้นแชมป์ของสองนักขับเมอร์เซเดสจะมีใครสอดแทรกมาได้อีกหรือไม่ ลุ้นกันในสุดสัปดาห์นี้ค่ะ
รายละเอียดการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย)
สนามที่ 13: 5-7 ก.ย. 57
ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 5 ก.ย. เวลา 15.00-16.30 น.
ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 5 ก.ย. เวลา 19.00-20.30 น.
ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 6 ก.ย. เวลา 16.00-17.00 น.
รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 6 ก.ย. เวลา 19.00-20.00 น.
แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 7 ก.ย. เวลา 19.00 น.
*ติดตามชมได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์เอชดี ฟ็อกซ์สปอร์ตส์เอชดี 3 หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ข้อมูลสนาม
ชื่อสนาม: ออโตโดรโมดิมอนซ่า (สนามถาวร)
ทิศทางการวิ่ง: ตามเข็มนาฬิกา
จำนวนรอบแข่งขัน: 53 รอบ
จำนวนโค้ง: 11 โค้ง
ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 1922
ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 1950
ความยาวของสนาม: 5.793 กม.
ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 306.720 กม.
สถิติสนามต่อ 1 รอบ: 1:21.046 (รูเบนส์ บาร์ริเคลลโล่ / เฟอร์รารี่ - 2004)
ข้อมูลทางเทคนิค
ความเร็วสูงสุด: 351 กม./ชม.
อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อ 1 รอบ: 70%
ดาวน์ฟอร์ซ: ต่ำมาก
อัตราการใช้ยาง: ต่ำ
การเลือกยางของปิเรลลี่: ฮาร์ด (สีส้ม) / มีเดียม (สีขาว)
อัตราการใช้เบรก: สูง
แรง G สูงสุด: 3.8
DRS Zone:
1) ระหว่างโค้ง 7 ถึงโค้ง 8 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 95 เมตรก่อนโค้ง 7
2) ทางตรงหน้าพิต ระหว่างโค้ง 11 ถึงโค้ง 1 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 20 เมตรก่อนโค้ง 11
จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ระหว่างช่วงฝึกซ้อม ในรอบควอลิฟาย และการแข่งขัน
พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน
ผู้ได้ตำแหน่งโพลในอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:23.755
2012 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:24.010
2011 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:22.275
ผู้ชนะอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
2012 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน)
2011 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล)
เวลาต่อรอบเร็วที่สุดในอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด
2013 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:25.849 รอบที่ 51
2012 - นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:27.239 รอบที่ 53
2011 - ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 1:26.187 รอบที่ 52
รู้จักอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ มากยิ่งขึ้น
- รายการอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ เป็นเพียงหนึ่งในสองรายการที่ถูกบรรจุในปฎิทินการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมาทุกฤดูกาลนับตั้งแต่มีการจัดการแข่งขัน ส่วนอีกรายการหนึ่งนั้นเป็นบริติช กรังด์ปรีซ์
- สุดสัปดาห์นี้เป็นอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่ 65 ติดต่อกัน ซึ่งการแข่งขัน 64 ครั้งจัดในสนามมอนซ่าที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่เฉพาะในปี 1980 ได้ย้ายไปจัดในสนามอิโมล่า ครั้งนั้นชนะโดยเนลสัน ปิเกต์
- นักขับที่ชนะการแข่งขันในรายการนี้มากที่สุดคือ มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ด้วยจำนวน 5 ครั้งในปี 1996 1998 2000 2003 และ 2006 โดยทั้งหมดนี้เป็นผลงานร่วมกับเฟอร์รารี่ ซึ่งทีมม้าลำพองก็เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้มากที่สุดเช่นกัน นอกจากชูมัคเกอร์แล้ว ยังมีนักขับที่คว้าชัยชนะในสนามมอนซ่าให้กับเฟอร์รารี่อีกมากมาย ได้แก่ อัลแบร์โต้ อัสคารรี่ (1951-2) ฟิล ฮิลล์ (1960-1) จอห์น เซอร์ทีส์ (1964) ลูโดวิโซ่ สการ์ฟิออตติ (1966) เคลย์ เรกัซโซนี่ (1970 และ 1975) โจดี้ เช็กเตอร์ (1979) แกร์ฮาร์ด แบร์เกอร์ (1988) รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ (2002 และ 2004) และนักขับเฟอร์รารี่คนล่าสุดที่ชนะให้ทีมคือ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (2010)
- ก่อนหน้านั้นเฟอร์นันโด อลอนโซ่ เคยคว้าชัยชนะรายการนี้มาแล้วเมื่อปี 2007 ขณะเป็นนักขับของแม็คลาเรน นอกจากเขาแล้วยังมีลูอิส แฮมิลตัน (2012) และเซบาสเตียน เวทเทล (2008 2011 และ 2013) ที่เป็นนักขับในกริดปัจจุบันที่เคยชนะในสนามแห่งนี้
- ชัยชนะของเซบาสเตียน เวทเทล เมื่อปี 2008 ทำให้เขาเป็นผู้ชนะการแข่งขันที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟอร์มูล่าวัน ขณะนั้นนักขับเยอรมันมีอายุ 21 ปี 74 วัน โดยก่อนหน้านั้นเพียง 1 วันเขาก็เพิ่งทำสถิติเป็นนักขับที่อายุน้อยที่สุดที่คว้าตำแหน่งโพลได้ ซึ่งหากพิจารณาอายุนักขับของกริดปัจจุบันแล้วจะมีเพียงดาเนียล คัฟยาต คนเดียวที่จะสามารถทำลายสถิติผู้ชนะที่มีอายุน้อยที่สุดของเวทเทลได้ โดยเขาจะมีเวลาจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมปีหน้า แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูกาล 2015 แล้ว แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น นักขับใหม่ของโตโร รอสโซ ก็จะเป็นนักขับอีกคนที่มีสิทธิ์ท้าชิงตำแหน่งนี้ โดยจะมีเวลาถึงก่อนจบฤดูกาล 2018
- ผู้ชนะรายการนี้ชนะจากตำแหน่งโพลทั้งสิ้น 21 ครั้ง โดยมากกว่าครึ่งเกิดขึ้นหลังก้าวเข้าสู่ศตวรรษปัจจุบัน มีเพียงในปี 2002 ที่บาร์ริเคลโล่ชนะจากกริดที่ 4 ปี 2006 ที่ชูมัคเกอร์ชนะจากกริดที่ 2 และปี 2009 ซึ่งเป็นชัยชนะอีกครั้งของบาร์ริเคลโล่ที่ออกตัวจากกริดที่ 5
- สถิติเรื่องความเร็วจากสนามมอนซ่ามีมากมายและหลากหลาย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากรถในยุค V10 มิชาเอล ชูมัคเกอร์ เป็นเจ้าของสถิติความเร็วเฉลี่ยสูงสุดในการแข่งขันจากปี 2003 ด้วยความเร็วเฉลี่ย 247.585 กม./ชม. นั่นทำให้การแข่งขันในปีดังกล่าวเป็นการแข่งขันด้วยเวลาที่สั้นที่สุดคือ 1 ชั่วโมง 14 นาที 19.838 วินาที ด้านรูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ ถือสถิติเป็นนักขับที่ทำความเร็วต่อรอบสูงที่สุดในการควอลิฟาย เขาได้ตำแหน่งโพลเมื่อปี 2004 ด้วยความเร็วเฉลี่ย 260.395 กม./ชม. แต่หากนับรวมตลอดสุดสัปดาห์นั้น ฮวน พาโบล มอนโตย่า เป็นนักขับที่ทำความเร็วเฉลี่ยต่อรอบสูงที่สุด ด้วยความเร็วเฉลี่ย 262.242 กม./ชม. ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงการฝึกซ้อม นอกจากนี้ มอนโตย่ายังเป็นเจ้าของสถิติความเร็วสูงสุดของการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน โดยทำความเร็วได้ถึง 372.6 กม./ชม. ระหว่างการแข่งขันอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 2005
พรีวิวสนามแบบสามมิติโดยปิเรลลี่
คลิปจากยูทูบโดย NextgenAutoVideos
*ข้อมูลจาก formula1.com / fia.com / en.wikipedia.org
ภาพจาก formula1.com
| Create Date : 04 กันยายน 2557 |
| Last Update : 4 กันยายน 2557 22:50:45 น. |
|
6 comments
|
| Counter : 1684 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [
บล็อกเมื่อวานข้อมูลรจากเว็บไซต์ nextgen-auto.com ะบุว่าเจ้าของสถิติทำความเร็วสูงสุดในสนามเป็นคิมี่ ไรค์โคเน่น แต่ข้อมูลวันนี้ซึ่ง จขบ. นำมาจากเว็บไซต์ fia.com บอกว่าเป็นฮวน พาโบล มอนโตย่า ค่ะ