Preview: Chinese Grand Prix 2016
มาถึงสนามที่ 3 ของฤดูกาลซึ่งเป็นสนามที่ทดสอบยางอย่างจริงจังสนามแรกของฤดูกาล โดยเฉพาะยางหน้าซ้ายที่ต้องรับบทหนักกว่าด้านอื่น นิโค รอสเบิร์ก จะชนะอย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ ติดตามได้ในสุดสัปดาห์นี้ค่ะ
รายละเอียดการแข่งขัน (ตามเวลาประเทศไทย) สนามที่ 3: 15-17 เม.ย. 59 ซ้อม 1 - ศุกร์ที่ 15 เม.ย. เวลา 9.00-10.30 น. ซ้อม 2 - ศุกร์ที่ 15 เม.ย. เวลา 13.00-14.30 น. ซ้อม 3 - เสาร์ที่ 16 เม.ย. เวลา 11.00-12.00 น. รอบควอลิฟาย - เสาร์ที่ 16 เม.ย. เวลา 14.00-15.00 น. แข่งขัน - อาทิตย์ที่ 17 เม.ย. เวลา 13.00 น. *ติดตามชมรอบฝึกซ้อมครั้งที่ 1 และ 2 ได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ เอชดี และชมรอบฝึกซ้อมครั้งที่ 3 รอบควอลิฟาย และการแข่งขันได้ทางช่องฟ็อกซ์สปอร์ตส์ 2 หรือเว็บไซต์ที่ขึ้นไว้ด้านขวานี้
ข้อมูลสนาม ชื่อสนาม: เซี่ยงไฮ้อินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต (สนามถาวร) ทิศทางการวิ่ง: ตามเข็มนาฬิกา จำนวนรอบแข่งขัน: 56 รอบ จำนวนโค้ง: 16 โค้ง ปีที่สนามเปิดใช้: ค.ศ. 2004 ปีที่เริ่มจัดการแข่งขันกรังด์ปรีซ์: ค.ศ. 2004 ความยาวของสนาม: 5.451 กม. ระยะทางของการแข่งขันทั้งหมด: 305.066 กม. สถิติสนามต่อ 1 รอบ: 1:32.238 (มิชาเอล ชูมัคเกอร์ / เฟอร์รารี่ - 2004)
ข้อมูลทางเทคนิค ความเร็วสูงสุด: 333 กม./ชม. อัตราการใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ: 48% อัตราการใช้เชื้อเพลิงต่อรอบ: 1.78 กก. อัตราการเปลี่ยนเกียร์ต่อรอบ: 60 ครั้ง การเลือกยางของปิเรลลี่: ซูเปอร์ซอฟต์ (สีแดง) / ซอฟต์ (สีเหลือง) / มีเดียม (สีขาว) แรง G ในโค้งสูงสุด: 3.9 (โค้ง 7) โอกาสของเซฟตี้คาร์: 33% จำกัดความเร็วในพิตเลน: 80 กม./ชม. ตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขัน DRS Zone: 1) ทางตรงด้านหลัง ระหว่างโค้ง 13 ถึงโค้ง 14 เริ่มที่ระยะ 752 เมตรก่อนโค้ง 14 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่โค้ง 12 2) ทางตรงหน้าพิต เริ่มที่ระยะ 98 เมตรหลังโค้ง 16 โดยมีจุดตรวจจับเวลาที่ระยะ 35 เมตรก่อนโค้ง 16
พยากรณ์อากาศสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน วันศุกร์ - มีเมฆเบาบาง อุณหภูมิสูงสุด 18 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 14 องศาเซลเซียส วันเสาร์ - มีฝนตกหนัก อุณหภูมิสูงสุด 23 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส วันอาทิตย์ - มีเมฆเบาบาง อุณหภูมิสูงสุด 18 องศาเซลเซียส / ต่ำสุด 11 องศาเซลเซียส
ผู้ได้ตำแหน่งโพลในไชนีส กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2015 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:35.782 2014 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:53.860 2013 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:34.484
ผู้ชนะไชนีส กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2015 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 2014 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 2013 - เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่)
เวลาต่อรอบเร็วที่สุดในไชนีส กรังด์ปรีซ์ 3 ปีหลังสุด 2015 - ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 1:42.208 รอบที่ 31 2014 - นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:40.402 รอบที่ 39 2013 - เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1:36.808 รอบที่ 53
เรื่องน่ารู้ก่อนดูการแข่งขัน
- ไชนีส กรังด์ปรีซ์ จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2004 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 โดยลูอิส แฮมิลตัน เป็นผู้ชนะรายการนี้มากที่สุดจากจำนวน 4 ครั้งในปี 2008 2011 2014 และ 2015 ส่วนนักขับอีกคนที่เป็นผู้ชนะมากกว่า 1 ครั้ง คือ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ซึ่งชนะที่นี่มาในปี 2005 และ 2013
- นอกจากเป็นผู้ชนะรายการนี้มากที่สุดแล้ว แฮมิลตันยังเป็นนักขับที่ได้ขึ้นโพเดียมที่นี่มากที่สุดคือ 7 ครั้ง (รวมชัยชนะ) โดยเขายังได้อันดับที่ 2 ในปี 2010 และอันดับที่ 3 ในปี 2012 และ 2013 รองลงมาเป็นอลอนโซ่และคิมี่ ไรค์โคเน่น ที่ได้โพเดียมในสนามเซี่ยงไฮ้คนละ 5 ครั้ง ตามด้วยเจนสัน บัตตัน และนิโค รอสเบิร์ก (คนละ 4 ครั้ง) เซบาสเตียน เวทเทล (3 ครั้ง) มาร์ก เว็บเบอร์ และเฟลิเป้ มาสซ่า (คนละ 2 ครั้ง)
- ส่วนนักขับคนอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นที่เคยขึ้นโพเดียมสนามนี้ ได้แก่ รูเบนส์ บาร์ริเคลโล่ (2004) ราล์ฟ ชูมัคเกอร์ (2005) รวมทั้งมิชาเอล ชูมัคเกอร์ และจิอันคาร์โล ฟิซิเคลล่า (2006)
- สำหรับทีมที่ประสบความสำเร็จในรายการนี้มากที่สุดคือเฟอร์รารี่ โดยบาร์ริเคลโล่เป็นผู้ชนะครั้งแรกในปี 2004 และมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ชนะอีกครั้งในปี 2006 ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งสุดท้ายในฟอร์มูล่าวันของยอดนักขับชาวเยอรมันจากการสตาร์ททั้งสิ้น 306 ครั้ง ต่อมาไรค์โคเน่นชนะในปี 2007 ที่ชัยชนะนั้นเป็นส่วนสำคัญของการคว้าแชมป์โลกครั้งเดียวของเขา และครั้งล่าสุดที่เฟอร์รารี่ชนะสนามนี้มาจากฝีมือของอลอนโซ่ในปี 2013
- ชัยชนะและตำแหน่งโพลครั้งแรกของเร้ดบูลเกิดขึ้นที่นี่ในปี 2009 จากผลงานของเวทเทล และยังเป็นชัยชนะแบบ 1-2 ครั้งแรกของทีมอีกด้วย เพราะเว็บเบอร์เข้าเส้นชัยตามมาในอันดับที่ 2 ซึ่งตลอดระยะเวลาการจับคู่ของเวทเทลกับเว็บเบอร์ ทำให้เร้ดบูลได้ชัยชนะ 1-2 มาอีก 15 ครั้งนับจากนั้น
- ผู้ชนะ 7 จาก 12 ครั้งออกสตาร์ทจากตำแหน่งโพล ยกเว้นบางปีเช่นชัยชนะของชูมัคเกอร์ในปี 2006 มาจากกริดสตาร์ทอันดับที่ 6 ส่วนบัตตัน ผู้ชนะในปี 2010 มาจากกริดสตาร์ทอันดับที่ 5 อย่างไรก็ตาม มีผู้ได้ตำแหน่งโพลอยู่ 2 ปีที่ไม่สามารถจบการแข่งขันบนโพเดียม ได้แก่ เวทเทลในปี 2010 ซึ่งเขาเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 6 และแฮมิลตันไม่จบการแข่งขันในปี 2007 หลังจากหลุดลงบ่อกรวดบริเวณทางเข้าพิตเลน
- สุดสัปดาห์นี้มีนักขับหน้าใหม่ 3 คนที่จะได้ลงแข่งขันในสนามแห่งนี้ พาสคาล เวร์ไลน์ ของแมเนอร์ไม่เคยมีประสบการณ์ขับในสนามนี้มาก่อน ขณะที่โจเลี่ยน พาลเมอร์ ของเรโนลต์เคยลงในช่วงซ้อมครั้งที่ 1 เมื่อปีที่แล้วให้กับโลตัส (ซึ่งเป็นทีมที่เรโนลต์เข้าซื้อเมื่อปลายปีก่อน) โดยครั้งนั้นพาลเมอร์ทำเวลาอยู่ในอันดับที่ 15 จากการเข้าร่วมสุดสัปดาห์การแข่งขันฟอร์มูล่าวันครั้งแรกของเขา ส่วนริโอ ฮารียันโต้ นักขับอีกคนของแมเนอร์เคยลงแข่งขันที่นี่ โดยครั้งล่าสุดที่เขาลงสนามนี้ต้องย้อนไปในการแข่งขันรายการฟอร์มูล่าบีเอ็มดับเบิ้ลยูเอเชียแปซิฟิก ปี 2008 ขณะที่เขามีอายุ 15 ปี
*ข้อมูลจาก formula1.com / gpupdate.net / wikipedia.org / fia.com ภาพจาก fia.com
Create Date : 14 เมษายน 2559 |
Last Update : 14 เมษายน 2559 23:08:40 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1571 Pageviews. |
|
|
|
- ลูอิส แฮมิลตัน ต้องรับโทษปรับกริดสตาร์ทลง 5 อันดับ เนื่องจากเมอร์เซเดสพบความเสียหายของเกียร์บ็อกซ์จากการที่ชนกับวาลท์เทรี่ บอตทาส ที่บาห์เรน และไม่อยากต้องเสี่ยงจึงตัดสินใจเปลี่ยนก่อนกำหนดในสนามนี้ ทั้งนี้ ตามกฎจะต้องใช้เกียร์บ็อกซ์ 6 สนามติดต่อกันจึงจะเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องรับโทษ
- เอฟไอเอไฟเขียวให้เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ลงสนามในสุดสัปดาห์นี้ได้แล้ว แต่เป็นการให้ผ่านการตรวจร่างกายเบื้องต้นก่อน ซึ่งอลอนโซ่จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอีกครั้งหลังการซ้อมครั้งที่ 1
แฟนๆ F1 สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เพจ //www.facebook.com/f1starfanclub นะคะ