หมายเหตุ เวลา 107% ของเวลาที่ดีที่สุดใน Q1 คือ 1m22.985s และรถทุกคันผ่านการควอลิฟาย

*สภาพสนาม: แห้ง
สภาพอากาศ: ท้องฟ้าสดใส
อุณหภูมิ: 18 องศา
อุณหภูมิพื้นสนาม: 42 องศา

ไฮไลท์

Q1
มีเพียงเมอร์เซเดสและเร้ดบูลที่ใช้ยางซอฟต์ ขณะที่ทีมที่เหลือกลับช่วงชิงเวลาด้วยยางซูเปอร์ซอฟต์ตั้งแต่ช่วงแรก รวมไปถึงเฟอร์รารี่ที่ใช้ยางสีแดงในนาทีท้ายเช่นกัน แต่ผลเวลาก็ไม่มีอะไรแปลกตา ที่น่าสนใจคืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะจังหวะที่มาร์คุส เอริกสัน เสียบเข้าโค้งมาริโบในขณะที่เฟลิเป้ มาสซ่า วิ่งกว้างออกนอกไลน์เล็กน้อยบริเวณนั้นพอดี จมูกรถของทั้งคู่จบลงตรงกำแพงยาง โดยที่แม้มาสซ่าจะผ่านเข้า Q2 แต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้ลงสนามอีก ซึ่งกรรมการจะสอบสวนเหตุการณ์นี้หลังจบรอบควอลิฟาย พร้อมกันกับคู่กรณีอื่นๆ ทั้งเซอร์จิโอ เปเรซ กับเอสเตบัน กูเตียร์เรซ และพาสเตอร์ มัลโดนาโด กับดาเนียล คัฟยาต

Q2
โลตัสที่ดูว่ารถยังไม่เข้าที่ก็หลุดไปในช่วงนี้ทั้งสองคันพร้อมกับเจนสัน บัตตัน และนิโค ฮูลเคนเบิร์ก ซึ่งพลาดท่าให้รถของโตโร รอสโซ ทั้งสองคันในนาทีสุดท้าย ต้องชมเชยโดยเฉพาะดาเนียล คัฟยาต ผู้ซึ่งไม่เคยลงแข่งรายการใดในโมนาโกมาก่อน แต่ทำเวลาได้ถึงอันดับที่ 7 ใน Q2 นี้

Q3
นิโค รอสเบิร์ก คว้าตำแหน่งโพลที่นี่เป็นปีที่สองติดต่อกัน เขาทำเวลาเร็วที่สุดได้ตั้งแต่วิ่งจับเวลาครั้งแรก โดยมีลูอิส แฮมิลตัน ทำเวลาตามติดมาและเตรียมจะช่วงชิงตำแหน่งโพลที่เขายังไม่เคยได้ครองในสนามนี้อีกครั้งในการวิ่งนาทีสุดท้าย แต่เพราะความผิดพลาดของรอสเบิร์กที่เขาเบรกล้อล็อกหลุดโค้งมาริโบ ทำให้กรรมการต้องโบกธงเหลืองบริเวณนั้นและส่งผลให้นักขับที่ตามมาทุกคนต้องชะลอความเร็ว หลายคนได้รับผลกระทบเพราะไม่สามารถปรับปรุงเวลาให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะแฮมิลตัน ซึ่งนักขับอังกฤษมีสิทธิ์ที่จะกดเวลาลงไปกว่าเพื่อนร่วมทีม

จากกรณีของรอสเบิร์กที่ได้ตำแหน่งโพลจากจังหวะที่เป็นที่น่าสงสัยเช่นนั้น กรรมการจึงขอตรวจสอบจากเทปบันทึกภาพและข้อมูลเวลาที่รถส่งกลับมาขณะเกิดความผิดพลาดดังกล่าวหลังจบการควอลิฟาย เพื่อพิจารณาว่ารอสเบิร์กมีเจตนาที่จะรักษาความได้เปรียบของตนจากการกระทำดังกล่าวหรือไม่


บทลงโทษหลังการควอลิฟาย

ขณะนี้กรรมการประจำการแข่งขันได้ประกาศบทลงโทษในกรณีที่พิจารณาแล้วดังนี้

- มาร์คุส เอริกสัน ได้รับคะแนนโทษสะสม 2 คะแนนและถูกปรับให้ออกตัวจากพิตเลนในการแข่งขันวันพรุ่งนี้ จากกรณีพุ่งเข้าโค้งมาริโบพร้อมกับรถของเฟลิเป้ มาสซ่า แต่ไม่สามารถควบคุมรถของตนได้ จึงทำให้รถทั้งสองคันพุ่งเข้าหากำแพงยางในที่สุดระหว่างช่วง Q1

- ดาเนียล คัฟยาต ได้รับการตักเตือนหลังจากไปบังทางพาสเตอร์ มัลโดนาโด ระหว่างช่วง Q1 เช่นกัน


ข้อมูลเพิ่มเติม

- อันดับเวลาเร็วที่สุดในแต่ละช่วง (Best Sector Times) คลิกที่นี่

- อันดับการใช้ความเร็วมากที่สุดที่จุดตรวจจับ (Speed Trap) คลิกที่นี่

- พยากรณ์อากาศล่าสุด






เรื่องสมรรถนะรถเมอร์เซเดสคงไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอกับการแข่งขันในสนามที่รถไม่ห่างจากกำแพงอย่างโมนาโก อย่าลืมมาลุ้นพร้อมกันในการแข่งขันรายการโมนาโก กรังด์ปรีซ์ ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.00 น. นะคะ











*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com
ภาพจาก formula1.com