Australian Grand Prix 2015 - Qualifying
ซ้อมรอบเช้าวันเสาร์ (Free Practice 3)
*สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นบางส่วน อุณหภูมิ: (ไม่มีข้อมูล) อุณหภูมิพื้นสนาม: (ไม่มีข้อมูล)
ไฮไลท์
- ผู้ทำเวลาเร็วที่สุดในการซ้อมครั้งสุดท้ายยังเป็นนักขับเมอร์เซเดส ลูอิส แฮมิลตัน ใช้ยางซอฟต์ลงวิ่งครั้งแรกของช่วงก็ทำได้สำเร็จ โดยที่มีเซบาสเตียน เวทเทล มาคั่นกลางระหว่างเขากับนิโค รอสเบิร์ก
- วิลเลียมส์ยังคงเกาะติดกลุ่มหน้า เช่นเดียวกับคิมี่ ไรค์โคเน่น ขณะที่ผลงานของโลตัสดีขึ้นทันตาเห็นหลังจากเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นเมอร์เซเดส ตามมาอยู่ในท็อป 10 เช่นกัน
- เร้ดบูลทั้งสองคันวิ่งรวมกันได้เพียง 16 รอบ แดเนียล ริกเคียร์โด้ มีปัญหาจากเครื่องยนต์และต้องจอดตรงปากทางออกพิตเลนอยู่ครั้งหนึ่ง ส่วนดาเนียล คัฟยาต ก็ไม่ราบรื่นเช่นกัน โดยเวลาของทั้งคู่ถูกแทรกกลางด้วยสองนักขับของแม็คลาเรนที่ยังต้องค่อยๆ ปรับปรุงกันต่อไป
- นักขับหลายคนมีจังหวะหลุดแทร็ค คาร์ลอส ซายนซ์ จูเนียร์ หลุดลงบ่อกรวดแต่ยังทำเวลามาในอันดับที่ 9 ในขณะที่มาร์คุส เอริกสัน ทำรถหมุนด้วยความเร็วสูงที่โค้ง 12 แต่โชคดีที่ไปต่อได้
- แมเนอร์ยังไม่สามารถส่งนักขับลงสนามได้ต่อไป ซึ่งคาดว่าทั้งวิล สตีเวนส์ และโรเบอร์โต้ เมรี่ จะไม่ได้ลงแข่งขันรอบควอลิฟายด้วย
ผลการควอลิฟาย
หมายเหตุ 1. เวลา 107% ของเวลาที่ดีที่สุดใน Q1 คือ 1m34.787s โดยรถทุกคันผ่านการควอลิฟาย 2. วิล สตีเวนส์ และโรเบอร์โต้ เมรี่ นักขับทั้งสองคนของแมเนอร์ไม่ได้เข้าร่วมในรอบควอลิฟาย
*สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: มีเมฆเป็นบางส่วน อุณหภูมิ: 28 องศา อุณหภูมิพื้นสนาม: 37 องศา
ไฮไลท์
- ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกคนปัจจุบันไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เขาคว้าตำแหน่งโพลครั้งแรกของปีได้ โดยทำเวลาเร็วกว่านิโค รอสเบิร์ก อยู่เกือบ 0.6 วินาที ส่วนผู้ที่ได้อันดับที่ 3 เป็นเฟลิเป้ มาสซ่า ของวิลเลียมส์ ที่ทำได้ดีกว่าเฟอร์รารี่ทั้งสองคันในรอบสุดท้ายของ Q3 จากนั้นเป็นวาลท์เทรี่ บอตทาส ซึ่งช่วงต้นเขาทำได้ดีก่อนที่ช่วงสุดท้ายจะมีปัญหากับเบรก ทำให้เขาทำเวลาช้าไปกว่าเพื่อนร่วมทีม 0.3 วินาที
- แดเนียล ริกเคียร์โด้ ฟื้นตัวได้จากการซ้อมช่วงเช้า เขาผ่านเข้า Q3 และทำได้ในอันดับที่ 7 แต่ดาเนียล คัฟยาต ในเร้ดบูลอีกคันทำได้เพียงอันดับที่ 13
- คาร์ลอส ซายนซ์ จูเนียร์ ยังคงผลงานดีมาจากช่วงซ้อม ควอลิฟายครั้งแรกในฟอร์มูล่าวันได้ในอันดับที่ 8 น่าเสียดายที่แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น เพื่อนร่วมทีมโตโร รอสโซ มีปัญหากับที่นั่งขับ รวมทั้งพลาดหลุดที่โค้ง 5 ในการวิ่งรอบสุดท้ายของ Q2 แต่ก็ยังได้ออกตัวจากอันดับที่ 12
- แมเนอร์ไม่ได้ส่งรถเข้าร่วมการควอลิฟาย ในช่วงแรกของการจับเวลาจึงตัดออก 3 คัน ซึ่งเป็นแม็คลาเรน-ฮอนด้าทั้ง 2 คัน รวมทั้งมาร์คุส เอริกสัน ของเซาเบอร์ที่หลุดออกไปก่อน
รูปการณ์ไม่ต่างจากฤดูกาลที่แล้วเมื่อเมอร์เซเดสคงจะแข่งกันเองเพื่ออันดับที่ 1 แต่การแข่งขันมีถึง 58 รอบ อะไรก็เกิดขึ้นได้ รวมทั้งการแข่งขันของกลุ่มที่ตามหัวแถวมาอย่างวิลเลียมส์และเฟอร์รารี่ก็น่าสนใจอย่างยิ่ง ติดตามลุ้นการแข่งขันรายการออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ได้ในวันพรุ่งนี้เวลา 12.00 น. นะคะ
*ข้อมูลจาก autosport.com ภาพจาก autosport.com และ formula1.com
Create Date : 14 มีนาคม 2558 |
Last Update : 14 มีนาคม 2558 23:30:53 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1596 Pageviews. |
|
|
เอฟไอเอเปิดเผยตัวเลขจำนวนรายการในหน่วยเครื่องยนต์ที่แต่ละยี่ห้อดำเนินการปรับปรุงไปเมื่อช่วงก่อนเปิดฤดูกาล หลังจากฤดูกาลนี้เอฟไอเอปรับปรุงกฎให้ผู้ผลิตเครื่องยนต์มีโอกาสปรับปรุงเครื่องได้ในระหว่างฤดูกาล โดยเครื่องยนต์ที่ลงแข่งตั้งแต่ฤดูกาล 2014 จะปรับปรุงได้ 32 จากทั้งหมด 66 รายการในหน่วยเครื่องยนต์ และขณะนี้ได้ใช้สิทธิ์ไปแล้วดังนี้
เฟอร์รารี่: 22 จาก 32 รายการ (เหลือ 10 รายการ)
เมอร์เซเดส: 25 จาก 32 รายการ (เหลือ 7 รายการ)
เรโนลต์: 20 จาก 32 รายการ (เหลือ 12 รายการ)
ขณะที่ฮอนด้าซึ่งเพิ่งเข้ามาร่วมการแข่งขันในยุคเครื่อง V6 เทอร์โบ ปีนี้เป็นปีแรก เอฟไอเอได้กำหนดให้พัฒนาเครื่องระหว่างฤดูกาลได้ 9 รายการเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงใดๆ ต่อจากนี้จะไม่มีผลย้อนหลังกับเครื่องตัวที่นักขับใช้ไปแล้ว (ปีนี้เอฟไอเอให้โควต้านักขับ 1 คนต่อเครื่องยนต์ 4 ตัวตลอดฤดูกาล ใครใช้เกินจะได้รับโทษตามที่ระบุ) หมายความว่าเครื่องยนต์ตัวที่นักขับใช้ในสนามเมลเบิร์นนี้จะไม่ได้รับการอัพเกรดอีกต่อไป ผู้ผลิตเครื่องยนต์จึงต้องคำนวณการอัพเกรดในแง่ของจำนวนรายการและช่วงเวลาให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด