Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 มิถุนายน 2557
 
All Blogs
 
ยอดผู้ชม F1 ทางทีวีปีนี้ลดฮวบ

ฟอร์มูล่าวันฤดูกาล 2014 เพิ่งจะเดินทางมาได้แค่ 1 ใน 3 ของการแข่งขัน แต่แหล่งข่าวหลายสำนักต่างรายงานว่ายอดผู้ชมทางโทรทัศน์ตกลงฮวบฮาบเสียแล้วค่ะ

หนังสือพิมพ์กีฬารายวันของสเปน "มาร์ก้า" ระบุว่ายอดผู้ชมทางโทรทัศน์จากภูมิภาคลาตินอเมริกาน่าเป็นห่วงที่สุด เนื่องจากตอนนี้จำนวนผู้ชมลดลงไปแล้วร้อยละ 50 ในขณะที่ยอดผู้ชมในอิตาลีโดยปกติจะขึ้นอยู่กับผลงานของเฟอร์รารี่ ซึ่งข้อมูลจากการแข่งขัน 5 สนามแรกของปีนี้แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ชมลดลงร้อยละ 20 และเมื่อนับเฉพาะสนามแคนาดาที่ผ่านมา จำนวนชาวอิตาเลียนที่เคยรับชมจากช่องไร (Rai) และช่องสกาย (Sky) หายไปรวมกันเกือบ 3.5 ล้านคน

ด้านสเปนเอง ซึ่งมีเฟอร์นันโด อลอนโซ่ เป็นฮีโร่ในดวงใจ ก็มียอดผู้ชมลดลงเช่นกัน โดยลดลงไปแล้วร้อยละ 15





การวิเคราะห์ชี้ว่ายอดผู้ชมฟอร์มูล่าวันผ่านทางโทรทัศน์เริ่มลดลงตั้งแต่ช่วงที่เซบาสเตียน เวทเทล กวาดชัยชนะมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยจำนวนผู้ชมในปี 2011 ที่มี 515 ล้านคนลดลงเหลือ 500 ล้านคนในปี 2012 และจากการเปิดเผยของเบอร์นี่ เอ็กเคิลสโตน ผู้ดูแลลิขสิทธิ์การแข่งขันระบุว่าเมื่อปีที่แล้วผู้ชมลดลงไปอีก 50 ล้านคน

ผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์มาร์ก้ากล่าวว่าตลาดใหญ่อย่างจีนและฝรั่งเศสเป็นตัวแปรที่สำคัญอย่างหนึ่ง เมื่อสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของรัฐบาลจีนไม่ได้ถ่ายทอดการแข่งขันแล้ว ส่วนในฝรั่งเศสก็เปลี่ยนไปถ่ายทอดผ่านทางเพย์ทีวี

ส่วนในเยอรมัน แม้เมอร์เซเดสจะโชว์ผลงานเยี่ยมยอดในทุกสนามที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดฤดูกาล และนิโค รอสเบิร์ก เป็นผู้นำในคะแนนสะสมประเภทนักขับอยู่ในขณะนี้ แต่ยอดผู้ชมกลับลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 3 โดยแต่เดิมจำนวนผู้ชมปีก่อนลดลงไปแล้วร้อยละ 10

ในความเห็นของฟลาวิโอ บิอาตอเร่ อดีตทีมบอสเรโนลต์ คิดว่าสาเหตุของจำนวนผู้ชมทางโทรทัศน์ที่ลดลงนั้นมาจากกฎใหม่ในปี 2014 "ผู้ชมลดลงไปมากอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงของรถไม่ดังแล้ว นักขับก็ยังต้องคอยประหยัดน้ำมัน ต้องแซงแบบ 'หลอกๆ' ด้วยการเปิดปีกหลัง กลายเป็นว่านักขับต้องคอยเป็นนักคำนวณมากกว่าจะเป็นนักสู้ตัวจริง"

ที่จริงแล้วดูเหมือนเอ็กเคิลสโตนไม่ได้กังวลในเรื่องยอดผู้ชมมากนัก ทั้งที่มีเสียงวิจารณ์การแข่งขันฟอร์มูล่าวันยุคนี้อย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะเสียงเครื่องยนต์วี6 เขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์เมื่อเดือนที่แล้วว่า "ผมพูดคุยกับหลายคนจากช่องอาร์ทีแอลของเยอรมัน พวกเขากล่าวว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่จำนวนผู้ชมลดลงในทุกรายการ เหตุผลก็เพราะว่าผู้ชมหันไปใช้เวลากับเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์อย่างมาก ถึงจะเห็นว่าเรตติ้งตกลงไปแต่สุดท้ายคนก็ต้องกลับมาดูโทรทัศน์อยู่ดี"










*ข้อมูลและภาพจาก nextgen-auto.com



Create Date : 12 มิถุนายน 2557
Last Update : 12 มิถุนายน 2557 23:56:18 น. 3 comments
Counter : 1958 Pageviews.

 
โดยส่วนตัวผมว่าเสียงเครื่องยนต์และกฏหยุมหยิมมีส่วนอย่างมากทำให้แฟนเบื่อๆครับ ผมไปดูที่สิงคโปร์มาสองเรซติด เปรียบเทียบกับที่มาเลย์เมื่อมีนาฯที่ผ่านมา ความตื่นเต้นเร้าใจจากเสียงเครื่องยนต์แผดคำรามไม่มีเลย หมดสนุกครับ ดูถ่ายทอดทีวีบางเรซหลับจอ ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆแฟนๆคงจะหายไปเรื่อยๆครับ


โดย: Peter Redbull IP: 171.100.213.231 วันที่: 13 มิถุนายน 2557 เวลา:10:11:14 น.  

 
ผมว่า Social Network ไม่มีผลเยอะหรอกครับ ถ้าคนมันจะดูก็แค่ดูเวลาที่จะถ่ายทอดสดแล้วก็เปิดทีวีในเวลานั้น อีกสาเหตุหนึ่งที่คนดูเบื่อคงเพราะการชนะที่ "ผูกขาด" ของเจ้าเซ็บปีที่แล้วจนมาถึงคู่เมอเซเดสปีนี้นี่แหละครับ แบบว่าไม่ต้องดูก็รู้ว่าใครจะชนะ = ="
ปล. ผมแอบเคืองเรื่องการจำกัด Aerodynamic มากๆเลยนะครับ ผมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์ของ F1 อย่างนึงเลยนะ T^T


โดย: kurachima IP: 115.87.153.33 วันที่: 14 มิถุนายน 2557 เวลา:5:00:43 น.  

 
ดู F1 มากว่า 30 ปี ปีนี้น่าเบื่อจริงๆ กีฬาทุกประเภทครับท่ามันไม่สูสี มันก็เหมือนไม่มีการแข่งขัน ขาดความสนุก เสียงรถสูตรไม่ต่างกับรถทัวร์ริ่ง ขาดเสน่ห์มาาาาาาก


โดย: pakadon IP: 58.10.18.107 วันที่: 14 มิถุนายน 2557 เวลา:10:59:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.