Me, Myself and Formula 1
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 

โรค "เด็กใหม่"

เควิน แม็กนุสเซน นักขับดาวรุ่งชาวเดนมาร์กวัย 21 ปีของแม็คลาเรนสร้างความฮือฮาได้ตั้งแต่ลงแข่งขันฟอร์มูล่าวันครั้งแรกที่เมลเบิร์นเมื่อเดือนมีนาคมด้วยการคว้าโพเดียมอันดับที่ 2 แต่หลังจากนั้นเขาเก็บได้เพียง 3 คะแนนจากการแข่งขัน 5 สนามต่อมา อย่างนี้ เอริก บูลลิเยร์ ผู้อำนวยการการแข่งขันของแม็คลาเรนให้คำจำกัดความของอาการนี้ว่า "รุกกี้ซินโดรม" หรือโรคเด็กใหม่นั่นเองค่ะ

แม็กนุสเซนมาเป็นนักขับตัวจริงของทีมแห่งเกาะอังกฤษในปีนี้พร้อมด้วยตำแหน่งแชมป์ฟอร์มูล่าเรโนลต์ 3.5 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยเขาควอลิฟายได้ตำแหน่งโพล 8 ครั้งและคว้าชัยชนะมาได้ 5 สนาม จากการแข่งขันทั้งหมด 17 สนาม แต่หลังจากโพเดียมที่ออสเตรเลีย ผลงานของเขากลับกระท่อนกระแท่นมาตลอด



เควิน แม็กนุสเซน


แม็กนุสเซนจบการแข่งขันไม่สูงกว่าอันดับที่ 9 มาตั้งแต่สนามเซปังจนถึงโมนาโกนั้น ซึ่งบูลลิเยร์มีความเห็นว่านักขับหน้าใหม่อย่างแม็กนุสเซนกำลังเผชิญอาการรุกกี้ซินโดรม เขาออกจะต้องปรับตัวลำบากสักหน่อยกับรถฟอร์มูล่าวันที่ยังไม่พร้อมคว้าชัยชนะได้ ไม่เหมือนกับตอนที่เขาแข่งในซีรีส์เล็กๆ ที่มีผู้สร้างรถรายเดียว (single-make series) นักขับใหม่ๆ จะยังไม่ค่อยเข้าใจรถที่พวกเขาต้องช่วยพัฒนาเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันอย่างที่พอใจ และหากไม่ใช่รถที่ดีที่สุดก็ไม่สามารถลุ้นชัยชนะได้ และนั่นเป็นสิ่งที่นักขับใหม่ติดขัดมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในด้านอื่นบูลลิเยร์เห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงค่ะ เขาคุ้นเคยกับทีม มีความสม่ำเสมอมาก และการให้ข้อมูลของเขาก็ดีพอที่จะช่วยให้ทีมงานทำรถให้เร็วขึ้น สรุปว่าในฐานะนักขับหน้าใหม่ บอสแม็คลาเรนประเมินว่าเขาทำได้ดีแล้ว

ต่อคำถามที่ว่าการไม่มีประสบการณ์ของแม็กนุสเซนส่งผลเสียต่อทีมหรือไม่ บูลลิเยร์ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นประเด็นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับคำสัมภาษณ์ของเจนสัน บัตตัน แชมป์โลกปี 2009 ซึ่งกล่าวก่อนการแข่งขันที่สเปนว่า "สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทีมคือการมีนักขับมีประสบการณ์ทั้งสองคนซึ่งรู้ว่ากำลังทำอะไร" ทั้งนี้ บูลลิเยร์ปิดท้ายว่าเด็กอย่างแม็กนุสเซนสามารถทำงานได้อย่างสุดความสามารถและเก็บข้อมูลมากพอที่จะมาตอบคำถามของทีมวิศวกร และเมื่อเขามีประสบการณ์เพิ่มขึ้นอย่างบัตตัน เขาก็จะเก็บรายละเอียดได้มากขึ้นและหาทางแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น


***********************************************


สุดท้ายนี้เรามีความเคลื่อนไหวล่าสุดจากมุ้งเมอร์เซเดสมาฝากค่ะ เมื่อวานนี้มีใครคนหนึ่งหายงอนเพื่อนแล้ว...

ลูอิส แฮมิลตัน โพสต์ภาพในอดีตที่ถ่ายกับนิโค รอสเบิร์ก และมีข้อความบอกไว้ใต้ภาพว่า "เราเป็นเพื่อนกันมานานและในฐานะเพื่อนก็มีช่วงเวลาทั้งดีและไม่ดีร่วมกัน วันนี้เราคุยกันแล้วและเรายังเป็นเพื่อนกัน #ไม่มีปัญหา"

เมื่อต่างก็อารมณ์เย็นลงแล้วและทั้งสองรู้จักกันมานานตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มน้อย คงไม่ยากที่จะปรับความเข้าใจกัน














*ข้อมูลจาก autosport.com/f1
ภาพจาก f1fanatic.co.uk และ twitter.com/LewisHamilton




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2557
4 comments
Last Update : 1 มิถุนายน 2557 0:35:29 น.
Counter : 2240 Pageviews.

 

ขอบคุณครับ ปีนี้เงียบเหงาจัง

 

โดย: ชัยจ้า IP: 125.26.58.51 1 มิถุนายน 2557 19:28:09 น.  

 

จะมีทีมไหนไล่ทัน คู่หูนรกแตก คู่นี่มั๊ยเนี่ย

 

โดย: Peter Redbull IP: 171.100.213.231 2 มิถุนายน 2557 8:11:24 น.  

 

แต่แมคต้องการนักขับที่ช่วยพัฒนารถจริงๆแหละ ตอนนี้ก็เลยหน้าที่ของพี่ปุ่มคนเดียว

ปล. โมโตจีพีเมื่อวาน สุดติ่งกระดิ่งแมวมากๆ ทั้ง moto3 & motogp คุ้มค่าที่ดูทั้งรุ่นจริงๆ ^^

 

โดย: runtaro IP: 180.222.157.94 2 มิถุนายน 2557 9:28:06 น.  

 

เค้าลุ้นลืมหายใจเลยหละ!

 

โดย: finishline 2 มิถุนายน 2557 22:56:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


finishline
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ในประเทศไทยหาข่าวฟอร์มูล่าวันอ่านได้ยากเหลือเกิ๊นนนน...เขียนเองเลยดีกว่า!

**เจ้าของบล็อกเขียนข่าวขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลข่าวและแปลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือของต่างประเทศเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ ท่านใดที่นำข้อความในบล็อกไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาให้เครดิตบล็อกด้วยนะคะ**
Friends' blogs
[Add finishline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.