ศึกสุดท้ายภายในเมอร์เซเดส
อีกไม่กี่วันก็จะถึงการแข่งขันรายการอาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ สนามที่ 19 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของปีนี้แล้วนะคะ แน่นอนว่าไฮไลท์คือการตัดสินแชมป์โลกระหว่างสองนักขับเมอร์เซเดส ลูอิส แฮมิลตัน เป็นผู้มีคะแนนสะสมนำนิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมอยู่ 17 คะแนน ในขณะที่ปีนี้ก็เป็นปีแรกที่ใช้ระบบสนามสุดท้ายได้คะแนนเป็น 2 เท่าหรือดับเบิ้ลพอยท์ นั่นหมายความว่า 17 คะแนนที่แฮมิลตันทิ้งระยะห่างไว้นั้นก็ยังมีสิทธิ์พลิกผันได้
ในฐานะเป็นทีมที่นักขับของตนต้องมาชิงดำกันเองในสนามสุดท้าย เมอร์เซเดสจึงมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้การแข่งขันของทั้งคู่มีความยุติธรรมและตรงไปตรงมาที่สุด ซึ่งแพดดี้ โลว์ กรรมการบริหารด้านเทคนิคยืนยันเช่นนั้น ในขณะที่โตโต้ โวล์ฟ ทีมบอสกล่าวถึงสุดสัปดาห์นี้ว่าแน่นอนว่าจะต้องมีคนใดคนหนึ่งผิดหวังและอีกคนหนึ่งจะต้องมีความสุขอย่างถึงที่สุด แต่เขาคิดว่าไม่ว่าผู้แพ้จะเป็นคนใด เขาก็เชื่อว่าคนนั้นจะสามารถประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ได้ในอนาคต โดยเขาเปรียบเทียบกับฤดูกาล 1984 ที่นิกี้ เลาด้า คว้าแชมป์โลกครั้งที่ 3 ของตนเฉือนอแลง พรอสต์ ที่ยังไม่เคยได้แชมป์โลกเลยไปเพียงครึ่งคะแนน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พรอสต์จะเลิกขับ เขาก็คว้าแชมป์รวมทั้งสิ้น 4 สมัยในที่สุด โวล์ฟเชื่อว่านักขับระดับแถวหน้ามีความสามารถที่จะสร้างโอกาสให้กับตนเองเสมอและนักขับของเมอร์เซเดสทั้ง 2 คนก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาเป็นนักขับแถวหน้า
เช่นเดียวกับโลว์ โวล์ฟได้ย้ำอีกครั้งว่าเมอร์เซเดสเตรียมพร้อมให้นักขับของพวกเขาสู้กันในสนามอย่างยุติธรรมที่สุด ถือเป็นฟอร์มูล่าวันสนามสุดท้ายของปีอีกครั้งหนึ่งที่น่าติดตามทั้งผู้ชมในสนามและทางบ้าน เขาเองก็แทบจะรอให้ถึงการแข่งขันไม่ไหว ซึ่งผู้ที่กำชัยชนะก็คือนักขับที่ดีที่สุดในปีนี้
เพียง 'แฮม' จบใน 2 อันดับแรกก็เป็นแชมป์โลกปี 2014
งานของลูอิส แฮมิลตัน คงไม่ยากนัก เพราะแม้นิโค รอสเบิร์ก จะเก็บ 50 คะแนนเต็มได้ แต่อันดับที่ 2 ก็เพียงพอแล้วสำหรับนักขับอังกฤษที่จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของตนเอง
แต่ถ้ารอสเบิร์กได้อันดับที่ 2 แฮมิลตันก็ยังมีโอกาสโดยจบเพียงอันดับที่ 5 ก็จะมีคะแนนเพียงพอ ซึ่งจากสถิติปีนี้ แฮมิลตันไม่เคยพลาดขึ้นโพเดียมเลยหากเขาผ่านธงตราหมากรุกได้ และหากรอสเบิร์กจบอันดับที่ 3 แฮมิลตันก็แค่เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 6 แต่ถ้าแฮมิลตันออกจากการแข่งขัน รอสเบิร์กจะต้องจบในท็อป 5 ให้ได้เพื่อที่คะแนนสะสมจะได้แซงขึ้นเป็นอันดับที่ 1
ไม่ว่าผู้ชนะในวันอาทิตย์นี้จะเป็นใคร เขาคนนั้นจะเป็นนักขับเมอร์เซเดสคนที่ 2 ที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จต่อจากฮวน มานูเอล ฟานจิโอ ที่ทำไว้ในปี 1954-55
*ข้อมูลจาก espnf1.com และ skysports.com ภาพจาก skysports.com
Create Date : 17 พฤศจิกายน 2557 |
|
10 comments |
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2557 1:02:26 น. |
Counter : 1841 Pageviews. |
|
|
|
รอสเบิร์กจะได้แชมป์มีอยู่ทางเดียวคือแฮม DNF เท่านั้น งานนี้วัดกันที่ดวงเลย
ยกเว้นว่าจะมีมาม่า รถลูอิสมีปัญหา