สถิติของปิเรลลี่จาก F1 ปี 2015
ถึงจะสิ้นสุดการแข่งขันฤดูกาล 2015 ไปแล้ว แต่ก็ยังมีสถิติที่น่าสนใจออกมาให้อ่านกันเรื่อยๆ เป็นการสรุปส่งท้ายก่อนจะเข้าสู่ปีใหม่และฤดูกาลใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งล่าสุดเป็นคิวของปิเรลลี่ ผู้สนับสนุนยางรายเดียวของฟอร์มูล่าวันในขณะนี้ที่เปิดเผยตัวเลขของการใช้ยางในฤดูกาลที่เพิ่งจบไป เราไปติดตามกันเลยค่ะ
สถิติการใช้ยางทั่วไป
- จำนวนยางที่ปิเรลลี่จัดเตรียมให้ทุกทีมใช้ในปี 2015 รวม 35,964 เส้น - จากจำนวนข้างต้น มียางที่เตรียมไว้ให้ใช้ในสุดสัปดาห์การแข่งขัน 29,856 เส้น และสำหรับใช้ในการทดสอบ 6,108 เส้น - จากจำนวน 35,964 เส้นนั้นเป็นยางสลิก (ยางสำหรับแทร็คแห้ง) 25,004 เส้น และเป็นยางฟูลเว็ทหรืออินเตอร์มีเดียต (ยางสำหรับแทร็คเปียก) 10,960 เส้น - มียางที่ใช้ในสุดสัปดาห์การแข่งขัน 17,580 เส้น โดยเป็นยางสลิก 16,288 เส้น และยางฟูลเว็ทหรืออินเตอร์มีเดียต 1,292 เส้น ซึ่งยางทุกเส้นได้นำไปผ่านการรีไซเคิล - จำนวนระยะทางที่มากที่สุดซึ่งยางแต่ละชนิดถูกใช้ไป (ไม่รวมการทดสอบ) ฮาร์ด - 1,794 กม. โดยคาร์ลอส ซายนซ์ มีเดียม - 5,224 กม. โดยเฟลิเป้ มาสซ่า ซอฟต์ - 5,480 กม. โดยนิโค รอสเบิร์ก ซูเปอร์ซอฟต์ - 1,838 กม. โดยแม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น อินเตอร์มีเดียต - 482 กม. โดยเซบาสเตียน เวทเทล ฟูลเว็ท - 297 กม. โดยนิโค รอสเบิร์ก
พิตสต็อป
- มีการเข้าพิตทั้งหมด 706 ครั้ง โดย 8 ครั้งเป็นการรับโทษแบบไดรฟ์ทรูหรือขับผ่านพิต และ 1 ครั้งเป็นโทษสต็อปแอนด์โกหรือหยุดรถนิ่งในพิต 10 วินาที - จากตัวเลขข้างต้นคิดเป็นจำนวนเฉลี่ย 37.1 ครั้งต่อการแข่งขัน และคิดเป็นจำนวนเฉลี่ย 1.88 ครั้งต่อคนในการแข่งขันแต่ละสนาม - รายการฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่เกิดพิตสต็อปมากที่สุดด้วยจำนวน 60 ครั้ง - รายการออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่เกิดพิตสต็อปน้อยที่สุดด้วยจำนวน 17 ครั้ง
ข้อมูลการแซง
- จำนวนที่เกิดการแซงตลอดฤดูกาล 2015 ทั้งหมด 509 ครั้ง เฉลี่ยการแข่งขันละ 26.8 ครั้ง* - รายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่เกิดการแซงในสภาพสนามแห้งมากที่สุด คิดเป็นจำนวน 60 ครั้ง - รายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่เกิดการแซงในสภาพสนามเปียกมากที่สุด คิดเป็นจำนวน 39 ครั้ง - สนามออสเตรเลียและสิงคโปร์เป็นการแข่งขันที่เกิดการแซงในสภาพสนามแห้งน้อยที่สุด คิดเป็นจำนวน 11 ครั้ง - นักขับที่แซงมากที่สุดในฤดูกาลนี้คือ แม็กซ์ เวอร์สตัปเพ่น จำนวน 49 ครั้ง - นักขับที่แซงมากที่สุดในการแข่งขันสนามเดียวคือ เซบาสเตียน เวทเทล จำนวน 13 ครั้งในการแข่งขันที่แคนาดา - นักขับที่โดนแซงน้อยที่สุดคือ นิโค รอสเบิร์ก และลูอิส แฮมิลตัน คนละ 3 ครั้ง - นักขับที่แซงขยับตำแหน่งขึ้นมาได้มากที่สุดในรอบแรกคือ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ ซึ่งทำได้ 28 ตำแหน่งตลอดฤดูกาล - ทีมที่แซงได้มากที่สุด ได้แก่ โตโร รอสโซ ด้วยจำนวน 94 ครั้ง (จากเวอร์สตัปเพ่น 49 ครั้ง และซายซน์ 45 ครั้ง) - ทีมที่ถูกแซงน้อยที่สุดคือ เมอร์เซเดส จำนวน 6 ครั้ง (แฮมิลตัน 3 ครั้ง และรอสเบิร์ก 3 ครั้ง) *การแซงนับจากจังหวะที่เกิดขึ้นในรอบอื่นๆ ที่ไม่ใช่รอบแรก และสามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้จนครบรอบ นอกจากนั้นจะไม่นับการแซงในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอันเนื่องจากปัญหาทางเทคนิค รวมถึงการน็อกรอบหรือถูกน็อกรอบ
ข้อมูลสนามและการแข่งขัน
- สนามสิงคโปร์เป็นการแข่งขันที่ใช้เวลานานที่สุดด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 1 นาที 22.118 วินาที - สนามอิตาลีเป็นการแข่งขันที่ใช้เวลาสั้นที่สุดด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 18 นาที 0.688 วินาที - การแข่งขันที่อิตาลีใช้เวลาต่อรอบเร็วที่สุด และผู้ชนะสนามดังกล่าวใช้ความเร็วเฉลี่ย 235.903 กม./ชม. - ความเร็วสูงสุดจากการใช้ยางปิเรลลี่ พี ซีโร่ ในการแข่งขันอยู่ที่ 366.4 กม./ชม. โดยพาสเตอร์ มัลโดนาโด จากรายการเม็กซิกัน กรังด์ปรีซ์ - นักขับที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดจำนวนมากที่สุด ได้แก่ ลูอิส แฮมิลตัน ด้วยจำนวน 19 ครั้ง โดยแบ่งเป็นจากการแข่งขัน 8 ครั้ง และจากรอบควอลิฟาย 11 ครั้ง - ลูอิส แฮมิลตัน เป็นนักขับที่นำการแข่งขันมากที่สุดในฤดูกาลนี้ จำนวน 587 รอบ
ข้อมูลอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- จำนวนนักขับที่ได้ลงขับด้วยยางปิเรลลี่นับจากปี 2010 (รวมนักขับสำรองและนักขับเยาวชน) รวม 98 คน - จำนวนระยะทางที่ยางปิเรลลี่ พี ซีโร่ ถูกใช้ในการทดสอบ การฝึกซ้อม รอบควอลิฟาย และการแข่งขัน ตลอดปี 2015 คิดเป็น 308,797 กม. (ไม่นับยางต้นแบบ) แบ่งเป็น ฮาร์ด - 33,842 กม. มีเดียม - 114,727 กม. ซอฟต์ - 107,070 กม. ซูเปอร์ซอฟต์ - 39,007 กม. อินเตอร์มีเดียต - 9,370 กม. ฟูลเว็ท - 4,781 กม.
- ระยะทางที่มีการทดสอบระหว่างปี 2015 (ไม่รวมสุดสัปดาห์การแข่งขัน) คิดเป็น 62.557 กม. - ระยะทางในการแข่งขันตลอดปี 2015 รวมทุกทีมทั้งหมด 99,416 กม. - จำนวนเวลาต่อรอบเร็วที่สุดทั้งจากรอบควอลิฟายและการแข่งขันของแชมป์โลกปี 2015 ทั้งหมด 19 ครั้ง (แบ่งเป็นจากการแข่งขัน 8 ครั้ง และจากรอบควอลิฟาย 11 ครั้ง) - ความเร็วเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดของผู้ชนะในการแข่งขันสภาพสนามแห้งคือ 142.874 กม./ชม. (นิโค รอสเบิร์ก ในโมนาโก) - อุณหภูมิผิวแทร็คต่ำที่สุดที่วัดได้ระหว่างการแข่งขัน (วันอาทิตย์) เกิดขึ้นในรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 20 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิผิวแทร็คต่ำที่สุดที่วัดได้ระหว่างสุดสัปดาห์การแข่งขันเกิดขึ้นในรายการยูเอส กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 17 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิผิวแทร็คสูงที่สุดที่วัดได้ระหว่างการแข่งขัน (วันอาทิตย์) เกิดขึ้นในรายการมาเลเชียน กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 58 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิผิวแทร็คสูงที่สุดที่วัดได้ระหว่างสุดสัปดาห์การแข่งขันเกิดขึ้นในรายการมาเลเชียน กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 58 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิอากาศต่ำที่สุดที่วัดได้ระหว่างการแข่งขัน (วันอาทิตย์) เกิดขึ้นในรายการแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 15 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิอากาศต่ำที่สุดที่วัดได้ระหว่างสุดสัปดาห์การแข่งขันเกิดขึ้นในรายการแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 15 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิอากาศสูงที่สุดที่วัดได้ระหว่างการแข่งขัน (วันอาทิตย์) เกิดขึ้นในรายการมาเลเชียน กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 37 องศาเซลเซียส - อุณหภูมิอากาศสูงที่สุดที่วัดได้ระหว่างสุดสัปดาห์การแข่งขันเกิดขึ้นในรายการบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ วัดได้ 38 องศาเซลเซียส
*ข้อมูลจาก f1pressarea.pirelli.com ภาพจาก twitter.com/pirellisport
Create Date : 14 ธันวาคม 2558 |
|
1 comments |
Last Update : 15 ธันวาคม 2558 0:05:39 น. |
Counter : 2161 Pageviews. |
|
|
|