Hungarian Grand Prix 2014 - Race Day
เร้ดบูลได้ยิ้มก่อนพักครึ่งฤดูกาลเมื่อกลยุทธ์สุดยอดท่ามกลางสถานการณ์สุดโต่งส่งให้พวกเขาคว้าอันดับสูงสุดบนโพเดียมวันนี้ได้สำเร็จ
ผลการแข่งขันรายการฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์
หมายเหตุก่อนการแข่งขัน เควิน แม็กนุสเซ่น ของแม็คลาเรน และลูอิส แฮมิลตัน ของเมอร์เซเดสถูกปรับให้ออกตัวจากพิตเลน เนื่องจากรถของทั้งคู่ได้รับความเสียหายอย่างมากในรอบควอลิฟายจนต้องเปลี่ยนแชสซีส์ ซึ่งตามกฎข้อ 28.2 ระบุไว้ว่า "นักขับคนใดที่ตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้รถอีกคันหรือคันเดิมมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนสำคัญหลังรอบควอลิฟาย นักขับคนนั้นจะต้องไปสตาร์ทจากพิตเลน"
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:25.724 - รอบที่ 64
อันดับเวลาต่อรอบเร็วที่สุด คลิกที่นี่
ข้อมูลการเข้าพิต คลิกที่นี่
*สภาพสนาม: เปียก/แห้ง สภาพอากาศ: มีเมฆมาก อุณหภูมิ: 24 องศา อุณหภูมิพื้นสนาม: 34 องศา
ไฮไลท์
ฝนตกตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน ทำให้แทร็คชุ่มฉ่ำพร้อมทดสอบการขับของนักขับแต่ละคนและการวางแผนของแต่ละทีม เป็นการรับประกันความตื่นตาตื่นใจของผู้ชมได้ทุกวินาที
เริ่มการแข่งขันรถส่วนใหญ่โดยเฉพาะกลุ่มนำใช้ยางอินเตอร์มีเดียต นิโค รอสเบิร์ก ออกนำตามคาด ตามด้วยวาลท์เทรี่ บอตทาส และเฟอร์นันโด อลอนโซ่ ซึ่งทั้งสองคนมีความเร็วทางตรงได้เปรียบรถเร้ดบูลของเซบาสเตียน เวทเทล แต่ไม่นานเวทเทลก็แซงอลอนโซ่กลับขึ้นไปเป็นอันดับที่ 3 รวมถึงแดเนียล ริกเคียร์โด้ ก็เสียอันดับให้กับเจนสัน บัตตัน ด้านลูอิส แฮมิลตัน ออกตัวจากพิตเลนมาเพียงโค้ง 2 ก็หมุนไปกระแทกข้างสนาม ปีกหน้าด้านซ้ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่เขาก็ยังเดินคันเร่งไล่อันดับเต็มที่
ต่อมาในรอบที่ 9 มาร์คุส เอริกสัน หลุดไปชนกำแพงที่โค้ง 3 ชิ้นส่วนรถกระจายเต็มบริเวณนั้น เป็นผลให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมานำการแข่งขัน ซึ่งในจังหวะนี้รถหลายคันเข้าพิตไปเปลี่ยนเป็นยางสำหรับเรซแห้งเพราะฝนไม่ลงเพิ่ม แต่จังหวะของรอสเบิร์ก บอตทาส เวทเทล และอลอนโซ่ ไม่อำนวยเพราะผ่านโค้งแรกไปก่อน เมื่อกลับเข้าสู่การแข่งขันตามปกติจึงกลายเป็นริกเคียร์โด้ ผู้ที่ได้จังหวะเข้าพิตดีที่สุดขึ้นมานำการแข่งขันต่อไป ส่วนบัตตันนั้น แม็คลาเรนเสี่ยงให้เขาไม่เปลี่ยนยางอินเตอร์มีเดียตเผื่อฝนมาเยือนอีกรอบ แต่เมื่อไม่เป็นเช่นนั้น โอกาสของบัตตันที่จะได้อยู่ในกลุ่มหน้าก็หมดลง ซึ่งฝนที่ตกไว้ยังทำพิษไม่หยุด โรแมง โกรส์ฌอง เป็นเหยื่อรายต่อมา เขาหลุดหมุนที่โค้ง 3 เซฟตี้คาร์จึงต้องอยู่ต่อไปทั้งที่กำลังจะกลับเข้าพิตตามรอบที่ประกาศไว้
จากนั้นเป็นคราวของนักขับฟอร์ซอินเดียทั้ง 2 คน เริ่มจากนิโค ฮูลเคนเบิร์ก เสียสถิติจบการแข่งขันทุกสนามในปีนี้หลังจากหมุนที่โค้งสุดท้าย โดยกระแทกเซอร์จิโอ เปเรซ ไปด้วยเล็กน้อย และไม่นานนักขับเม็กซิกันก็ต้องตามเพื่อนร่วมทีมออกไปหลังจากรถตกไปในเคิร์บที่ยังชุ่มน้ำในโค้งสุดท้าย รถหมุนฟาดกำแพงบนทางตรงหน้าพิตด้วยความแรง เซฟตี้คาร์จึงต้องออกมานำการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ทันใดนั้นริกเคียร์โด้ บอตทาส รวมถึงเฟลิเป้ มาสซ่า รีบเข้าพิตครั้งที่ 2 จากแผนเปลี่ยนยาง 3 ครั้ง อลอนโซ่จึงได้นำการแข่งขัน โดยเฟอร์รารี่เลือกให้เขาเข้าพิต 2 ครั้ง
ระหว่างที่แฮมิลตันขึ้นมาจนถึงอันดับที่ 7 โดยไล่ตามรอสเบิร์กและเวทเทลอยู่หลายรอบแล้วนั้น นักขับเร้ดบูลเกิดทำซ้ำรอยเปเรซ แต่เขาโชคดีที่สามารถควบคุมรถไม่ให้พุ่งเข้าหากำแพงหน้าพิตได้ทัน มีเพียงล้อหลังขวาที่แตะเบาๆ แต่ก็ทำให้แฮมิลตันที่ตามติดมาตลอดนั้นแซงผ่านขึ้นไปได้ จากนั้นเร้ดบูลจึงต้องเปลี่ยนแผนให้เวทเทลเข้าพิตแค่ 2 ครั้ง โดยใช้ยางมีเดียมยาวมาตั้งแต่รอบที่ 33
ขณะที่อลอนโซ่เข้าพิตครั้งสุดท้ายในรอบที่ 38 และออกมาพร้อมกับยางซอฟต์ แฮมิลตันได้นำการแข่งขันแทนต่อไปอีกรอบหนึ่งแล้วเข้าพิตครั้งที่สองเพื่อใช้ยางมีเดียมชุดนี้จนจบการแข่งขัน นั่นเป็นเหตุให้ริกเคียร์โด้ ซึ่งแม้ต้องสละโอกาสในการได้กลับมานำอีกครั้งเพื่อเข้าพิตครั้งที่ 3 เปลี่ยนมาใช้ยางซอฟต์อีกชุดในรอบที่ 54 ได้ไล่อันดับผู้นำคืนมาหลังจากแซงแฮมิลตันและอลอนโซ่ในช่วงสุดท้าย เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกเป็นครั้งที่ 2 ของฤดูกาลนี้
ด้านรอสเบิร์ก ซึ่งมีปัญหากับเบรกเล็กน้อยเมื่อเกิดควันขึ้นระหว่างทางนั้น เมอร์เซเดสเลือกให้เขาเข้าพิต 3 ครั้ง โดยในระหว่างที่เขาวิ่งอยู่ในอันดับที่ 4 ตามหลังแฮมิลตัน ทีมงานแจ้งผ่าวิทยุมายังนักขับอังกฤษขอให้เปิดทางให้กับรอสเบิร์กแซงขึ้นไปก่อนที่เขาจะเข้าพิตครั้งสุดท้าย แต่แฮมิลตันปฏิเสธทันควัน อย่างไรก็ตาม รอสเบิร์กเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มนำที่เข้าพิตในรอบที่ 56 และออกมาอยู่ในอันดับที่ 7 ด้วยความที่ยางสดกว่าเขาสามารถทำเวลาต่อรอบเร็วกว่าทุกคันที่อยู่ข้างหน้า ในที่สุดเขาก็กลับมาตามหลังแฮมิลตันอีกครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาสแย่งโพเดียมสุดท้ายไปจากเพื่อนร่วมทีม
นอกจากอุบัติเหตุข้างต้น ยังมีนักขับไม่จบการแข่งขันอีก 2 คน โดยทั้งคามุย โคบายาชิ กับเอสเตบัน กูเตียร์เรซ ต่างประสบปัญหาด้านเทคนิคตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทางของการแข่งขัน
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 11
ประเภทนักขับ 1. นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 202 คะแนน 2. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 191 คะแนน 3. แดเนียล ริกเคียร์โด้ (เร้ดบูล) 131 คะแนน 4. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 115 คะแนน 5. วาลท์เทรี่ บอตทาส (วิลเลียมส์) 95 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด คลิกที่นี่
ประเภททีมผู้สร้าง 1. เมอร์เซเดส 393 คะแนน 2. เร้ดบูล 219 คะแนน 3. เฟอร์รารี่ 142 คะแนน 4. วิลเลียมส์ 135 คะแนน 5. ฟอร์ซอินเดีย 98 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด คลิกที่นี่
การแข่งขันฤดูกาล 2014 ผ่านไปแล้ว 11 สนาม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามาถึงวันนี้โอกาสเป็นแชมป์ทั้งสองประเภทอยู่ในกำมือเมอร์เซเดสมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ฟอร์มูล่าวันเป็นกีฬาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะมีปัจจัยรายล้อมมากมาย ดูจากวันนี้เป็นตัวอย่างได้เลยค่ะ เพราะฉะนั้นใน 8 สนามที่เหลือก็ยังมีอะไรให้ได้ลุ้นต่อ แต่ตอนนี้ก็เป็นเวลาของนักขับ ทีมงาน และผู้เกียวข้อง ที่จะได้ผ่อนคลายก่อนพร้อมกลับมาสู้กันใหม่ในสนามที่ 12 แล้วเรามาเจอกันอีกครั้งในรายการเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 22-24 สิงหาคมนะคะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 และ formula1.com ภาพจาก formula1.com
Create Date : 27 กรกฎาคม 2557 |
|
9 comments |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2557 0:34:09 น. |
Counter : 1797 Pageviews. |
|
|
|
เสียวแทนอีเซ็บ -..- แต่น้องแดนสุดยอดดดดดดดดด