มกราคม 2565
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
16 มกราคม 2565

ธรรมะ



ธรรมะ







ผมเริ่มอ่านหนังสือธรรมะครั้งแรกตอนเรียนมัธยม 2
“คู่มือมนุษย์” ของท่านพุทธทาสทำให้ผมมึนงงมาก
อ่านแล้วไม่เข้าใจเลย แต่ไม่ได้รู้สึกว่าไม่อยากอ่านนะครับ
อ่านจนจบเล่มได้ เพียงแต่ไม่เข้าใจหลักธรรมเลย
จากนั้นจึงค่อย ๆ อ่านหนังสือปรัชญาจีนต่าง ๆ
เช่น เต๋าเต็กเก็ง หนังสือคำสอนเซ็น นิทานเซ็น

จนเรียนจบ ทำงานที่ร้าน
ได้มีโอกาสนั่งคุยกับอาแปะ (พี่ชายของพ่อผม)
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ศึกษา” ธรรมะอย่างจริงจัง
อาแปะเป็นคนสนใจธรรมะ
มีความรู้จนเป็นอาจารย์บรรยายธรรมะให้กับพระและฆราวาสทั่วไป
บางหัวข้อธรรมที่ผมเคยสงสัย ติดขัด ไม่เข้าใจ
ก็อาศัยอาแปะให้ช่วยตอบคำถามและอธิบายธรรม
จนความสงสัยนั้นค่อย ๆ กระจ่าง

แต่ที่สุดแล้ว
ผมกลับได้เรียนรู้ธรรมะจากครูทางธรรมที่ชื่อว่า “ธรรมชาติ” มากที่สุด
เมื่อเราตั้งใจมองดูและเรียนรู้จากธรรมชาติรอบตัว
ทุกสิ่ง คือ ธรรมะ
ธรรมะที่สอน เตือนใจ
และสามารถเปลี่ยนความคิดของเราได้ในที่สุด
จากนั้นจึงกลับมาอ่านหนังสือจำนวนมาก
เพื่อย้ำหลักธรรมที่ได้เรียนรู้มาจากธรรมชาติ

“คู่มือมนุษย์” ที่เคยอ่านไม่เข้าใจ
พอหยิบกลับมาอ่านอีกครั้งในวัยที่มากขึ้น
ก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่ท่านพุทธทาสสอนมากขึ้น

หลักธรรมในเต๋า เซ็น พุทธ อิสลาม และคริสต์
กลายเป็นสิ่งที่ผมให้ความสนใจ และค่อย ๆ ศึกษาควบคู่ไปเรื่อย ๆ

ในงานของผม ไม่ว่าจะเป็นบทกวี ภาพวาดพู่กัน ภาพวาดลายเส้น
ล้วนมีธรรมะแทรกอยู่ในงานเหล่านั้นไม่มากก็น้อย

ผมรู้สึกถึงคุณค่าของธรรมะที่มีกับชีวิต
ผมผ่านทุกข์ในใจมาหลายครั้งหลายครา
โดยมียาดีที่ชื่อ ธรรมโอสถ

ผมผ่านเหตุการณ์ความสูญเสีย เรื่องทุกข์ยากลำบากใจ
ได้ด้วยสติ

ธรรมะไม่ใช่เรื่องยาก
และเป็นสิ่งที่ควรเปิดใจเรียนรู้
เพราะที่สุดแล้วเราต่างวนเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์
ทางเดียวที่จะรอดพ้นจากห้วงทุกข์นี้ได้
ก็มีเพียงการเดินทางไปกับ “ธรรมะ”
ที่มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคนนั่นเอง

 



Create Date : 16 มกราคม 2565
Last Update : 16 มกราคม 2565 6:48:36 น. 20 comments
Counter : 920 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณเริงฤดีนะ, คุณถปรร, คุณชีริว, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmultiple, คุณcomicclubs, คุณกิ่งฟ้า, คุณทนายอ้วน, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณmcayenne94, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse


 
มาเจิมบล็อกคุณก๋าครับ 555
ผมมีหนังสือเล่มนี้เหมือนกันครับ ผมได้รับมาตอนไปที่สวนโมกข์ที่สุราษฏร์ฯ อารมณ์ประมาณคุณก๋าเหมือนกันครับพออายุเริ่มมากขึ้น ก็เข้าใจธรรมะมากขึ้นครับ
เด็กเก่าลิเวอร์พูลมาวิลล่าเรื่อย ๆ แล้วนะครับ ฝีมือเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:7:14:06 น.  

 
ธรรมะไม่ใช่เรื่องยาก
และเป็นสิ่งที่ควรเปิดใจเรียนรู้,
ตามว่าเลยค่ะ..


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:7:56:45 น.  

 
ทักทายสวัสดีครับคุณก๋า
บทความใน blog นี้ ผมชื่นชอบกับ ครูทางธรรม และ ธรรมะโอสถ ครับ


โดย: ถปรร วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:8:25:32 น.  

 
หนนี้ลายพู่กันวาดเป็นภาพแบบไม่ต้องตีความแล้ว :D
พี่ก๋าเริ่มสนใจธรรมะจากอาแปะเหรอเนี่ย อันนี้คือก่อนไปพบความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติเมืองจีนด้วยใช่ไหมครับ
พอสนใจแล้วเริ่มศึกษาต่อ หลายคนก็พบวิธีเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ
พระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ก็ลองมาหลายแนวทางเหมือนกัน

ปีนี้ขอนานๆเข้าบล็อกทีนะครับ อาจหายไปนานโหน่ย


โดย: ชีริว วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:9:38:43 น.  

 
เราจะพ้นทุกข์ได้ ก็ต่อเมื่อตายแล้วมั้งครับ
แต่ก็ไม่แน่อีก ถ้ายังมีการเวียนว่ายตายเกิด

แต่เมื่อพ้นทุกข์ ไม่ได้ก็ต้องหาทางอยู่ร่วมกับทุกข์นั่นแหละ
อยู่ด้วยกันไปจนวันตายนะครับ555

ปล.โควิดนี่ ทำให้มนุษย์เราขาดการปฏิสัมพันธ์ กันไปแยะเลยนะครับ
แล้วมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมซะด้วย ก็เลยอัดอั้นตันใจกันน่าดูชมเลยนะครับ555



โดย: multiple วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:10:23:15 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

" ธรรมะไม่ใช่เรื่องยาก
และเป็นสิ่งที่ควรเปิดใจเรียนรู้
เพราะที่สุดแล้วเราต่างวนเวียนว่ายอยู่ในความทุกข์
ทางเดียวที่จะรอดพ้นจากห้วงทุกข์นี้ได้
ก็มีเพียงการเดินทางไปกับ “ธรรมะ”
ที่มีอยู่แล้วในตัวเราทุกคนนั่นเอง"

ชอบบทสรุปนี้ของก๋า จ้ะ เป็นความจริง ธรรมชาติ คือ
ธรรมะ ธรรมะ คือ ธรรมชาติ แต่คนอีกมากมายไม่เข้าใจหลักธรรม
นี้ จึงทำลายธรรมชาติ ไม่ว่า จะเป็นต้นไม้ ลำธาร สัตว์ป่าที่ถูก
ตามล่า ทุกวันนี้ โลกจึงร้อนระอุไปหมด มนุษย์เดือดร้อนไปทุก
หย่อมหญ้า เพราะการกระทำของคนบางกลุ่มนั่นเอง เฮ้อ !

โหวดหมวด งานเขียน ฯ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:10:31:00 น.  

 
ธรรมะธรรมชาติ
ทุกคนเข้าถึงได้ไม่ยาก
รู้จริงไหมอีกเรื่อง


โดย: comicclubs วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:12:34:47 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องก๋า ธรรมมะจากธรรมธรรมชาติสอนให้เราได้คิด คิดได้นะคะ

ลายพู่กันวันนี้เป็นรูปใบหน้าผู้รู้หรือเปล่าคะ อิอิ



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:12:48:40 น.  

 
เด็กๆที่บ้านจะไปวัดชลประทานบ่อยๆ ตั้งแต่ท่านเจ้าคุณปัญญายังมีชีวิตอยู่ เพราะคุณลุงบวชที่วัดนี้และเป็นลูกศิษย์ท่านเจ้าคุณ

ตัวเองก็บวชเณรที่วัดนี้ครับ


ตอนบวชเค้ามีแข่งขันกันจำบทกลอนคำสอนของท่านพุทธทาส ใครจำได้มากสุดชนะ คงเป็นกลวิธีทำให้เณรใด้ศึกษาธรรมะ ไม่เอาแต่วิ่งเล่น


สมัยก่อนที่บ้านมีหนังสือจากสวนโมกข์กับวัดชลประทานฯเยอะครับ แต่ไม่ใส่ใจอ่าน เดี๋ยวนี้กลับเป็นหนังสือที่หยิบติดมืออ่านได้เรื่อยๆครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:13:06:14 น.  

 
คำสอนของ พระอาจารย์ภิกษุหลายท่าน อ่านแล้วเข้าใจยาก
จริงครับ... คล้ายกับท่านจงใจให้เป็นปริศนา เพื่อให้ก่อเกิด
ความสนใจ... แต่ก็มีผู้อ่านแหะ ๆ เช่นผม ละทิ้งเฉยเลย

....
ผมชอบฟังภิกษุที่พูดตรงแบบภาษาชาวบ้าน และให้ถือปฏิบัติ
หรือลองปฏิบัติ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:16:58:28 น.  

 
เมื่อเราอายุมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น ก็จะทำให้เราเข้าใจอะไรต่างๆ ได้มากขึ้นครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:19:22:57 น.  

 

สวัสดีครับน้องแตง

พี่ก๋าอ่านเรื่องราวของคุณยายที่บล็อกน้องแตง
เชื่อว่าหลายบ้านก็เจอประสบการณ์แบบนี้นะครับ
คนแก่ก็จะมีความเคยชินอะไรบางอย่างที่ยากจะเปลี่ยน
ลูกหลานเลยต้องเป็นฝ่ายทำความเข้าใจและยอมรับแทน 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:20:10:11 น.  

 
จากที่บล็อก


พ่อบอลเป็นครูไม่ได้หรอกครับ โดนพ่อแม่เด็กร้องเรียนแน่ๆ สอนๆกันไปมีปาชอล์ก ปาแปรงลบกระดานด้วยครับ ฮ่าๆๆๆๆ


พอโตแล้วนึกกลับไปตอนเป็นเด็กๆจะเห็นว่าพ่อรักลูกมากๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆที่พ่อทำให้เห็นว่ารักลูกมันค่อยๆระลึกได้ขึ้นมาเรื่อยๆอ่ะครับ


ตอนปลายๆชีวิตพ่อบอลไม่ค่อยพูดกับพ่อ จนพ่อป่วยหนักต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อตลอด มีแม่ดูแลคนเดียว บอลก็ได้แต่ตะโกนข้ามประตูห้องคอยถามว่ามื้อนี้จะกินอะไรดี จะได้ทำส่งเข้าไปให้ครับ


ตอนพ่อเสียบอลไม่ได้ร้องไห้เลย บอลมั่นใจว่าดูแลพ่ออย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วครับ ไม่ได้เสียใจ ไม่ได้พูดถึงเลยจนผ่านมาหลายๆปี เพิ่งจะเอามาเขียนในบล็อกนี่แหละครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:21:31:53 น.  

 
ขอบคุณลิงก์ธรรมะจากอาแปะของคุณก๋า เย็นเพิ่งฟังไปได้ 10/18 ตั้งใจจะหังให้ครบ 18 แต่มึนมากเพราะต้องตั้งใจและมีสมาธิมาก “ไม่เจอตีนก็ไม่รู้” อาแปะแตกฉาน และน่าจะถึงที่สุดแห่งธรรมไปแล้ว คุณก๋าโชคดีจริงที่เป็นญาติท่านและท่านสอน ตอบให้ถามเอาตามใจชอบ อย่างไม่รู้เบื่อที่จะตอบ
เย็นกว่าจะฝ่าด่านมาได้หนทางไม่ได้ง่าย หญ้าไม่ได้อยู่ปากคอก แต่ละคนวิบากกรรมไม่เหมือนกัน กว่าจะได้พบครูยาอาจารย์ ได้แผนที่จนครบมันไม่ง่าย ถ้าเล่าหนทางต้องเล่ากันเป็นวัน เวลาพบเจอก็พรั่งพรูมาไม่หยุด เหมือนเวลามาประจวบเหมาะทั้งคำสอนจากอาแปะที่คั้งใจฟังอย่างจดจ่อ คุณก๋าโชคดีแล้วทางโลกลำบากสิ่งใดก็ให้ท่านอวยพรก็พอแล้วค่ะ สาธุ


โดย: mcayenne94 วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:22:06:22 น.  

 
ข้อความนั้นไม่ได้จะลบหลู่อาแปะ แต่ว่าท่านสอนฟังง่าย ด้วยอารมณ์ดีสนุกสนาน บางคนก็เป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:22:08:41 น.  

 
ลืมไปค่ะ บางคนก็ปรารถนาพุทธภูมิ ก็ต้องทดสอบผ่านเยอะ แล้วแต่ความปรารถนาค่ะ สำหรับเย็น สาวกภูมิก็มาดพอตายสงบศพชมพูแล้วค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:22:14:50 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

อาแปะคือกัลยาณมิตรเลยนะครับ

ผมเคยได้อ่านคู่มือมนุษย์หนนึงครับ แต่ยังไม่ได้จับจดเท่าไหร่ คุณก๋าเขียนถึงก็ทำให้อยากอ่านใหม่อีกครั้งครับ

หนังสือทุกเล่มพอผ่านกาลเวลาและเมื่อวุฒิภาวะเราเปลี่ยนไป ก็ทำให้รู้สึกแตกต่างจากครั้งก่อนได้บ่อยๆ ครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:22:48:18 น.  

 
ธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมโอสถ
นึกถึงประโยคนี้ครับ
สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนาเป็นยากิน

รูปพู่กันจีนใช่รูปอาแปะหรือเปล่าครับ



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 มกราคม 2565 เวลา:23:48:15 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องก๋า

มาอ่านธรรมะด้วยค่ะ


โดย: newyorknurse วันที่: 17 มกราคม 2565 เวลา:3:17:10 น.  

 
ลืมไปค่ะ บางคนก็ปรารถนาพุทธภูมิ ก็ต้องทดสอบผ่านเยอะ แล้วแต่ความปรารถนาค่ะ สำหรับเย็น สาวกภูมิก็มาดพอตายสงบศพชมพูแล้วค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 17 มกราคม 2565 เวลา:6:34:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]